เมื่อเริ่มบำเพ็ญบารมีก็เริ่มเป็นพระโพธิสัตว์
เมื่อสุเมธดาบสคิดค้นหาวิธีการที่จะเป็นพระพุทธเจ้า และได้เห็นบารมีธรรม 10 ประการที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นได้เกิดอีกหลายแสนชาติเพื่อบำเพ็ญบารมี ช่วงนั้นเรียกว่าพระโพธิสัตว์
ในอรรถกถาวิสุทธชนวิลาสินี ได้พรรณาความต่อไปว่าพระโพธิสัตว์ของเราทั้งหลาย ได้กระทำอธิการไว้ในสำนักของพระพุทธเจ้า 24 พระองค์ มีพระทีปังกรเป็นต้นมาตลอดสื่อสงไขยยิ่งด้วยแสนกัป. จากนั้นจึงทรงบำเพ็ญพุทธการกธรรมมีความเป็นผู้มีทานบารมีเป็นต้น ที่พระโพธิสัตว์นี้ประมวลธรรม 8 ประการนี้ที่ว่า

อภินิหารคือความปรารถนาอย่างจริงจัง ย่อมสำเร็จเพราะประมวลธรรม 8 ประการเข้าไว้คือ “ความเป็นมนุษย์ ความสมบูรณ์ด้วยเพศ ( ชาย) เหตุ (ที่จะได้บรรลุพระอรหัต) ได้พบเห็นพระศาสดา ได้บรรพชา สมบูรณ์ด้วยคุณ(คือได้อภิญญาและสมาบัติ) การกระทำอันยิ่ง (สละชีวิตถวายพระพุทธเจ้า) ความเป็นผู้มีฉันทะ (อุตสาหะพากเพียรมาก)”
จากนั้นได้กระทำอภินิหารไว้ที่บาทมูลของพระทีปังกร แล้วกระทำความอุตสาหะว่า เอาเถอะ เราจะค้นหาธรรม อันกระทำความเป็นพระพุทธเจ้าทั่วทุกด้าน ซึ่งได้เห็นแล้วว่า ครั้งนั้นเราค้นหาอยู่ ก็ได้พบเห็นทานบารมีข้อแรกบำเพ็ญมาจนกระทั่งอัตภาพเป็นพระเวสสันดร และเมื่อดำเนินมา ก็ดำเนินมาเพราะได้ประสบอานิสงส์ของพระโพธิสัตว์ผู้ที่ได้กระทำอภินิหารไว้ ซึ่งท่านพรรณนาไว้ว่า
นรชนผู้สมบูรณ์ด้วยองค์คุณทุกประการ ผู้เที่ยงต่อพระโพธิญาณอย่างนี้ ท่องเที่ยวไปตลอดกาลนานแท้ด้วยร้อยโกฏิกัปจะไม่เกิดในอเวจีมหานรก และในโลกันตรนรกก็เช่นกัน
แม้เมื่อเกิดในทุคติ จะไม่เกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต ขุปปิปาสาเปรต และกาลกัญชิการ ไม่เป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ เมื่อเกิดในมนุษย์ก็จะไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด ไม่เป็นคนหูหนวก ไม่เป็นคนใบ้ ไม่เกิดเป็นสตรี ไม่เป็นอุภโตพยัญชนกะและกะเทย
นรชนผู้เที่ยงต่อพระโพธิญาณ จะไม่ติดพันในสิ่งใด พ้นจากอนันตริยกรรม เป็นผู้มีโคจรสะอาดในที่ทุกสถาน
การบำเพ็ญบารมี อุปบารมี และปรมัตถบารมี ให้บริบูรณ์นั้นใช้เวลานานมาก เฉพาะแต่ทานบารมีอย่างเดียวก็หลายชาติเช่นเมื่อครั้งถือกำเนิดเป็นพราหมณ์ชื่อว่าอกิตติ เป็นพราหมณ์ชื่อ สังขะ เป็นพระเจ้าธนัญชัย เป็นพระเจ้ามหาสุทัสสนะ เป็นมหาโควินทะ เป็นพระเจ้านิมิมหาราช เป็นพระจันทกุมาร เป็นวิสัยหเศรษฐี เป็นพระเจ้าสีวิราช กาลเป็นพระเวสสันดรราชา เป็นสสบัณฑิต เรื่องทั้งหมดมีปรากฎในขุททกนิกาย จริยาปิฎก (เล่มที่ 33) ส่วนบารมีอื่นๆยังมีอีกมากแทรกอยู่ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย

สรุปว่าการจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้หรือไม่อยู่ที่ธรรมสโมธาน 8 ประการบริบูรณ์คือความเป็นมนุษย์ ความสมบูรณ์ด้วยเพศ ( ชาย) เหตุ (ที่จะได้บรรลุพระอรหัต) ได้พบเห็นพระศาสดา ได้บรรพชา สมบูรณ์ด้วยคุณ(คือได้อภิญญาและสมาบัติ) การกระทำอันยิ่ง (สละชีวิตถวายพระพุทธเจ้า) ความเป็นผู้มีฉันทะ (อุตสาหะพากเพียรมาก) และบำเพ็ญพุทธการกธรรม 10 คือ ทานบารมี สีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอเบกขาบารมี
การบำเพ็ญพุทธการกธรรมหรือบำเพ็ญบารมีธรรมเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า จึงมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตั้งอธิษฐานจิตแล้วสมาทานเพื่อจะดำเนินไปสู่ความสำเร็จให้ได้ แม้จะเกิดตายหลายแสนชาติ ก็ดำเนินไปเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือความเป็นพระพุทธเจ้า การที่เราชาวพุทธได้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เพราะการสั่งสมบารมีอันยาวนานของพระพุทธองค์ที่ไม่เคยละทิ้งความพยายาม
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
เรียบเรียง
แก้ไขปรับปรุง 09/06/53