ตัวแทนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ลงพื้นที่ จ.เลย ขอข้อมูลวัดพิลึกที่เป็น 1 ในวัดจากทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ "หนึ่งคือหนึ่งใจหนึ่งธรรมะ" เพื่อหาข้อสรุปถึงความไม่เหมาะสม พระนักเทศน์ ที่เผยแผ่คำสอนโลกจะแตกผิดหลักธรรมะ ด้านโฆษกคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา จี้ป่าไม้ และ สปก.เร่งดำเนินการวัดรุกที่ดินของรัฐ
กรณีหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต หรือหลวงพ่อสมชาย พระนักเทศน์แห่งวัดร่มโพธิธรรม ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย เทศนาทำนายว่าโลกจะแตก ทำให้ลูกศิษย์ หลงเชื่อแตกตื่นอพยพไปปลูกสร้างที่พักหรูในบริเวณวัดที่มีเนื้อที่ร่วม 800 ไร่ นอกจากนี้ยังปล่อยให้พระลูกวัดปฏิบัติตัวผิดเพี้ยนไปจากพระสงฆ์ทั่วไป ทั้งไว้ผมยาว มีหนวดเครารุงรัง ไม่ออกบิณฑบาต ไม่สวดมนต์ สวมเสื้อกางเกงแทนผ้าเหลือง ขณะที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดเลยตรวจพบพื้นที่ของวัดบางแปลงเป็นที่ สปก.นั้น
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 2 เม.ย. นายจักรวาล อินทรมงคล ตัวแทนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ดูแลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ได้เข้าพบนายชัยภัทร หิรัณยเลขา รอง ผวจ.เลย นายสมบูรณ์ ดีเสมอ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเลย และตัวแทนจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเลย เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต หรือหลวงพ่อสมชาย และวัดร่มโพธิธรรม หลังได้รับร้องเรียนถึงพฤติกรรมความไม่เหมาะสมดังกล่าว
นายจักรวาลเปิดเผยว่า ขณะนี้มูลนิธิฯจัดทำโครงการ"หนึ่งคือหนึ่งใจหนึ่งธรรมะ" โดยวัดโพธิธรรมเป็น 1 ในวัดทั่วประเทศที่ร่วมโครงการ แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นจึงมาขอทราบรายละเอียดถึงพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ต้องรอให้คณะกรรมการสรุปผลให้ชัดเจนเสียก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมถึงการเผยแผ่คำสอนทางศาสนาอย่างผิดหลักธรรมะที่ส่งผลต่อสังคมส่วนรวม
นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รอง ผวจ.เลย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเวลาดำเนินการให้ชัดเจน ทั้งเรื่องการแต่งกายของสงฆ์ หรือการครองผ้า ก็อยากให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯกำหนดให้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรและมีกำหนดเวลาที่แน่ชัด เพราะถ้าปล่อยไว้นานภาพก็จะยิ่งไม่ดี
ขณะที่ตัวแทนสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบวงรอบพื้นที่ทั้งหมดของวัดพบว่าส่วนหนึ่งเป็นของ สปก. อีกส่วนเป็นของป่าไม้ โดยในวันที่ 4 เม.ย. จะมีการประชุมคณะทำงานที่ดำเนินการในเรื่องนี้อีกครั้ง ขณะนี้เรารู้พื้นที่การบุกรุก สปก. และป่าสงวนแห่งชาติแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของคณะ กรรมการที่ ผวจ.เลย แต่งตั้งว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี โฆษกคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นรองประธานทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า วุฒิสภา เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวมองว่าปัญหาวัด หรือสำนักสงฆ์เข้าไปยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นประจำ ตาม หลักการกฎหมายการที่วัด หรือสำนักสงฆ์จะเข้าไปใช้ พื้นที่ป่าต้องหารือกับกรมป่าไม้และยื่นขออนุญาตให้ ถูกต้อง กรณีของวัดดังกล่าวมีทั้งเรื่องที่ดินเอกสารสิทธิที่ดิน สปก. มีทั้งเรื่องพื้นที่ป่า ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ โดย สปก.ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าวัดมีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรที่สามารถครอบครองที่ สปก.ได้หรือไม่ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ต้องเข้าดำเนินการตามกฎหมาย
น.ส.สุมลกล่าวว่า ที่สำคัญยิ่งมีการบริจาคเงินเพื่อสร้างอาคารที่พักแบบรีสอร์ต ยิ่งต้องเข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะหากมีนายทุน หรือใครที่ต้องการที่ดินเขาไปบริจาคแล้วยึดครองที่ดินของทางราชการแบบนี้ไม่ถูกต้อง กรมที่ดินต้องตรวจสอบพื้นที่เอกสารสิทธิ ส่วนที่ดินแปลงประกาศจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร สปก. ก็ต้องเข้ามาดูแล หากพบมีการนำที่ดิน สปก. ไปใช้ไม่ถูกต้องก็ต้องยกเลิกการใช้พื้นที่ หรือถ้าพื้นที่เดิมเป็นป่า กรมป่าไม้ต้องเรียกคืนที่ดินกลับมา การปฏิบัติต้องเร่งดำเนินการเพื่อมิให้เกิดปัญหา หรือหากเป็นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ต้องดำเนินการเช่นกัน ในส่วนของวัดสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติก็ต้องเข้าไปดูเรื่องสถานะของวัดและการประพฤติปฏิบัติในกิจของสงฆ์ว่าเหมาะสมหรือไม่