ประเทศจีนมีอารยธรรมสืบต่อกันมายาวนานหลายพันปี มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่หลากหลาย มีนักปราชญ์คนสำคัญมากมายมายเช่นขงจื้อ เล่าจื้อ เม่งจื้อ เป็นต้น ในด้านศาสนามีทั้งพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ชินโต ขงจื้อ เต๋า เซ็น นอกจากนั้นยังมีสุภาษิตจากนักปราชญ์นิรนามอีกมากมาย วันนี้ค้นพบหนังสือเล่มหนึ่งนอนหลับอยู่ในซอกตู้ว่าด้วยสุภาษิตของนานาประเทศ แต่วันนี้ขอนำสุภาษิตจีนมาให้อ่านเพื่อนำไปพิจารณา มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "คนบางคนอาจจะได้ดีเพราะสุภษิตบทเดียว" ลองอ่านและพิจารณาตามสะดวก
สุภาษิตจีน
การเกิดมาเป็นคนและอยู่รอดมาได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้ว แต่การครองตนเป็นคนดีนั้นยากยิ่งกว่ามาก
การสั่งสมกุศลผลบุญคือร่มโพธิ์แผ่คุ้มถึงบุตรหลาน เป็นแรงบันดาลให้อายุมั่นขวัญยืน
กุศลจงรีบทำ เวรกรรมอย่าริก่อ
คนตายส่งกลิ่นเหม็นหนึ่งลี้ คนเป็นส่งกลิ่นเหม็นพันลี้
คนเราจะรวยก็ต้องรวยอย่างบริสุทธิ์ หากจะจนก็ต้องจนอย่างมีศักดิ์ศรี
ครอบครัวที่ใจบุญสุนทาน ย่อมพบพานแต่ความสุขสมหวัง
ช่วยคนหนึ่งชีวิต ดีกว่าอุทิศเงินสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น
ยืนอยู่ในที่สูงย่อมมองเห็นสิ่งต่างๆได้กว้างไกล
บัณฑิตย่อมมีบุคลิกที่รู้อภัยและยอมลดราวาศอกได้
สาธุชนชื่นชมภูเขา ปัญญาชนใฝ่หาสายชล
บ่อน้ำเหือดแห้งเมื่อไร จึงสำนึกถึงคุณค่าของน้ำ
บัณฑิตย่อมน้อมรับความผิดพลาดอย่างหน้าชื่นตาบาน ส่วนคนพาลมีแต่กล่าวโทษผู้อื่นอยู่ร่ำไป
เสือตายไว้ลาย คนตายไว้ชื่อ
หากทุกคนยอมเสียสละโลกจะมีสันติสุข
หากทุกคนมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน บ้านเมืองก็จะไม่พ้นวิบัติ
อย่าอิจฉาคนที่ดีกว่าเรา อย่าดูเบาความด้อยของผู้อื่น
ผู้มีเมตตาธรรมย่อมไม่กังวล ปัญญาชนย่อมไม่ลุ่มหลง
แต่งภรรยาแต่งเพราะคุณธรรมมิใช่เสน่หา คบเพื่อนคบที่จิตใจหาใช่เงินตรา
ผู้หวังผลสำเร็จในกิจการงาน ต้องฝึกยุทธวิธีถอยหลังเพื่อเปิดทางแก่ผู้ร่วมงานให้เป็นเสียก่อน
ฝึกเป็นคนดีสามปีก็ไม่สาย เลียนแบบผู้ร้ายสามวันยังมากไป
สิ่งที่ไม่สมหวังในชีวิตคนเรานั้นมักมีสัดส่วนแปดในสิบ
อยู่บ้านตนไม่เคยคิดต้อนรับแขก พออกนอกบ้านย่อมหน้าแตกเพราะคนเมิน
ระยะทางพันลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก
เหมาเจ๋อตุงบอกว่า
ต่อสู่กับน้ำก็มีความสุข
ต่อสู้กับดินก็มีความสุข
ต่อสู้กับฟ้าก็มีความสุข
ชีวิตหากไม่มีการต่อสู้
ก็ไม่มีวันพบกับความมีชัย
ส่วนเติ้งเสี่ยงผิวบอกว่า
แมวขาวแมวดำนั้นสำคัญไฉน
ขอเพียงจับหนูได้ก็ถือว่าเป็นแมวที่ดี
เว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนาราม
รวบรวม
04/02/55
ที่มา: ไพบูลย์ ติสรเตติวัฒน์, คติพจน์ขงจื๊อและสุภาษิตนานาชาติ,
กรุงเทพฯ:วรานนท์เอ็นเตอร์ไพรส์,2553.