ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         แสงแดดกำลังร้อนแรงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงก่อนเที่ยงวันที่ภูเขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ในวันนั้น หลังจากที่ได้เดินทางขึ้นภูเขาตั้งแต่เช้าในช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดแผ่วพลิ้ว มองเห็นกุฎีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เชิงชะง่อนผา ป่าไม้กำลังพลัดใบต้นไม้แต่ละต้นจึงมีเพียงกิ่งที่ไร้ใบ หลังจากที่ได้สักการะสถานที่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยอยู่จำพรรษา และยังมีกุฎีของพระอานนท์ กุฎีของพระมหาโมคคัลลานะ พระสารีบุตรที่บริเวณถ้ำสุกรขาตา แม้แดดจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ไม่อาจจะทำให้ความศรัทธาลดน้อยลง แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดต้องไปให้ถึงจุดหมายบนยอดเขาให้ได้


         ตามสองข้างทางมีเหล่าบรรดาขอทานนั่งเรียงรายเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้จาริกแสวงบุญได้บริจาคทาน พวกเขาเพียงแต่ยื่นมือมาข้างหน้าและกล่าวคำทักทายเป็นภาษาไทยหากเป็นผู้ชายก็จะบอกว่า “มหาราชา” หากเป็นสุภาพสตรีก็จะเอ่ยคำว่า “มหาราณี” และตามมาด้วยคำว่า “สิบรูปี” แม้คนที่ใจแข็งที่สุด ขี้เหนียวที่สุดก็ยังต้องเผลอให้บริจาค เพราะได้รับการสถาปนาเป็นราชาโดยไม่รู้ตัว คนเหล่านี้มีศิลปะในการทำให้คนใจอ่อนได้ โดยใช้ถ้อยคำเพียงไม่กี่คำที่บังเอิญโดนใจผู้ที่เดินผ่านไปมา
         ในบางรัฐของอินเดียปัจจุบันความเชื่อในระบบวรรณะยังเข้มข้น ผู้คนส่วนหนึ่งยังมีความเชื่อและยึดมั่นตามระบบวรรณะซึ่งในสมัยพุทธกาลมีสี่วรรณะคือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์และศูทร  ภายหลังมีอีกวรรณะหนึ่งเพิ่มเข้ามานั่นคือ “วรรณะจัณฑาล” อันเป็นผลพวงมาจากคนที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่แต่งงานนอกวรรณะ เช่นกษัตริย์แต่งงานกับวรรณะศูทร ลูกที่เกิดมาก็จะกลายเป็นจัณฑาล ในสมัยพุทธกาลมีกษัตริย์ที่มาจากวรรณะศูทรคนหนึ่งนามว่า “วิฑูฑภะ” บิดาอยู่ในวรรณะกษัตริย์แต่ถูกกษัตริย์แห่งเมืองศากยะหลอกลวงส่งลูกนางทาสีนามว่าวาสภขัตติยา ซึ่งอยู่ในวรรณะศูทรโดยบอกว่าเป็นบุตรีของพระมหานามะ จนถือกำเนิดเป็นโอรสพระองค์หนึ่งนามว่า “วิฑูฑภะ”  ภายหลังวิฑูฑภะได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์และทราบความจริงว่าตนเองเป็นลูกของนางทาสีจึงโกรธกษัตริย์ศากยะมาก ภายหลังจึงยกกองทัพไปปราบเจ้าศากยะและเป็นผู้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของศากยะจนมีบันทึกไว้ในคัมภีร์ว่า “ไม่เว้นแม่ทารกที่ยังดื่มนม ยังแม่น้ำคือโลหิตให้ไหลไปแล้ว” เมื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แล้วพระเจ้าวิฑูฑภะยกทัพกลับพระนครของตนแวะพักแรมที่ริมฝั่งแม่น้ำอจิรวดี ในค่ำคืนนั้นเกิดพายุฝนจนน้ำหลาก และพระเจ้าวิฑูฑภะถูกกระแสน้ำหลากพัดพาและกลืนหายไปกับสายน้ำสิ้นพระชนม์

         ผู้ที่อยู่ในวรรณะศูทรแต่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศอินเดียอย่างมหาศาลคนหนึ่งคือ “ดร.เอ็มเบ็ดการ์” อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและเป็นผู้มีส่วนในการยกร่างรัฐธรรมนูญของอินเดีย ผู้ที่ทำให้รูปสิงห์บนเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชกลายเป็นตราประจำของอินเดีย  ภายหลัง ดร.เอ็มเบ็ดการ์ได้เปลี่ยนมาเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนานัยว่ามีผู้เปลี่ยนศาสนาในครั้งนั้นหลายล้านคน แต่ทว่าเรื่องของศาสนาในอินเดียนั้นยากที่จะเข้าใจ บางคนนับถือหลายศาสนาในเวลาเดียวกัน เป็นทั้งฮินดูเป็นทั้งพุทธ หรือบางคนก็นับถือพระพุทธเจ้าในฐานะที่เป็นองค์อวตารของพระนารายณ์ที่เรียกว่า “พุทธวตาร” อันเป็นผลมาจากผลงานการแต่งคัมภีร์เพื่อบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนา โดยบอกว่าแท้จริงศาสนาพุทธก็คือนิกายหนึ่งของฮินดูนั่นเอง
         อินเดียจึงมีนักบวชจำนวนมาก โดยไม่ทราบว่าเขาเป็นนักบวชจริงหรือบวชเอาเอง บวชในลัทธิศาสนาใดดูจากภายนอกไม่อาจทราบได้ เพราะมีนักบวชประเภทที่เรียกว่า “สาธุ” ที่นิยมใส่ชุดสีเหลืองหรือแดงหรือสีกลัก ใส่กางเกงใส่เสื้อตามปรกติเหมือนชาวบ้านทั่วไป ไว้ผมยาว มีจุดสังเกตเพียงชุดที่ใส่เท่านั้น หากอยู่ในกลุ่มชนก็แยกไม่ออกว่าเป็นชาวบ้านหรือเป็นนักบวช ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจึงมักจะเห็นนักบวชมาขอเงินจากนักท่องเที่ยวซึ่งคนอินเดียบางพื้นที่ถือว่าการขอทานเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คนได้ทำบุญ หากใครเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานในอินเดียจึงไม่ควรรังเกียจขอทาน ส่วนใครจะให้ทานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน

         ในเหล่าบรรดานักจาริกแสวงบุญจากหลายประเทศที่เดินทางไปอินเดียนั้น นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเป็นคนใจบุญที่สุดชอบบริจาคทาน ขอทานทั้งหลายจึงชอบนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย จนบางคนต้องเรียนภาษาไทยไว้หลายคำเช่น “สวัสดี อาจารย์ มหาราช มหาราณี ขอบคุณครับ” เป็นต้น แม้แต่ผู้หญิงบางคนก็ยังอุตส่าห์ท่องคำว่า “ขอบคุณครับ” ซึ่งฟังดูน่ารักดีและมักจะนำไปสู่การให้ทานทุกที ศิลปะนั้นมีจะรู้เพียงน้อยนิดแต่ถ้ารู้จริงในสิ่งที่ทำย่อมสามารถเลี้ยงตนได้
         บริเวณทางเดินขึ้นภูเขาคิฌชกูฎในวันนั้นอยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดูจากหน้าหนาวกำลังจะเข้าหน้าร้อน ช่วงที่เดินขึ้นอากาศกำลังเย็นสบาย แต่พอเวลาเดินลงแสงแดดขึ้นสูงแล้ว อากาศจึงร้อนมาก บริจาคทานให้กับขอทานมาตามทางเดินเป็นการพักผ่อนไปในตัว นักบวชที่ไมทราบนิกายท่านหนึ่งกำลังร้องเรียก “อาจารย์ๆ” พลางยกมือเขย่ากลองเล็กๆในมือเหมือนกำลังแสดงศิลปะแห่งดนตรีชั้นเยี่ยม จึงแวะเข้าไปหากล่าวคำทักทายบริจาคเงินยี่สิบรูปี จากนั้นก็ขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก นักบวชท่านนั้นก็ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดีเพราะได้เงินตามที่ต้องการแล้ว เมื่อเข้าไปใกล้จึงสังเกตเห็นว่านักบวชท่านนั้นตาบอดข้างหนึ่ง ส่วนชายชราขอทานที่อยู่ข้างๆตาบอดยังไม่บอดแต่คงเริ่มฟ้าฟางแล้ว คนหนึ่งมีตาเดียว อีกคนหนึ่งยังคงมีสองตา
          ในพระพุทธศาสนาได้แสดงคนมีตาไว้สามประเภท ดังที่แสดงไว้ในอันธสูตร อังคุตตรนิกาย ติกกนิบาต(20/468/122) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลสามจำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก คือ คนตาบอด  คนตาเดียว  คนสองตา"

         มีคำอธิบายขยายความต่อไปว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลตาบอดเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ไม่มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น ไม่มีนัยน์ตาเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ รู้ธรรมที่เลวและประณีตรู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าคนตาบอด
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลตาเดียวเป็นไฉน  บุคคลบางคนในโลกนี้มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น แต่ไม่มีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ รู้ธรรมที่เลวและประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าคนตาเดียว
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลสองตาเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีนัยน์ตาเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น ทั้งมีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ รู้ธรรมที่เลวหรือประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าคนสองตา”
         ในช่วงที่กำลังรอเพื่อนร่วมทางท่านอื่นๆที่กำลังเดินทางลงจากภูเขาจึงแวะเข้าร้านขายน้ำดื่มและได้น้ำเย็นมานั่งดื่มแก้กระหาย นักบวชท่านนั้นเดินนำหน้าชายชราขอทาน โดยที่ชายชราจับไม้เท้าที่นักบวชยื่นให้เดินตาม มองดูไกลๆเหมือนนักบวชกำลังจูงคนตาบอด ซึ่งอันที่จริงคนที่ตาบอดคือนักบวชที่เดินนำหน้า ส่วนชายชราที่ตาดีที่เดินตามหลังเป็นคนบอกทาง

         คิดถึงคำพูดของหลวงพ่อรูปหนึ่งที่เคยบอกว่า “ตาดีจูงตาบอด ถ้าไปไม่รอดตาบอดจูงตาดี” หมายถึงการปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนของศาสนาในอดีตผู้ที่บรรลุธรรมแล้วจึงสอนคนอื่นให้ปฏิบัติตามการสอนในลักษณะเช่นนี้เหมือนคนตาดีบอกทางแก่คนตาบอด การสอนจึงได้ผลดี พอมาถึงยุคปัจจุบันผู้ที่บรรลุธรรมมีน้อยลง พระสงฆ์แม้จะยังไม่บรรลุธรรมเป็นเหมือนคนตาบอดแต่มีความจำเป็นต้องสอน บางครั้งก็สอนผิดทางเหมือนคนตาบอดจูงคนตาบอดเดินสะเปะสะปะไม่รู้ว่าอะไรคือหนทางที่แท้จริง จึงมักจะมีคนหลงทางให้เห็นอยู่เสมอ
         ยุคสมัยปัจจุบันแหล่งที่ให้ความรู้มีมากสงสัยอะไรก็ค้นหาคำตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องไปถามพระสงฆ์เหมือนในอดีต แม้ชาวบ้านที่สนใจศึกษาธรรมก็สามารถตั้งสำนักสอนคนอื่นๆได้ ปัจจุบันจึงมีสำนักของอาจารย์สอนปฏิบัติธรรมหลายแห่ง อาจารย์ผู้สอนก็ได้รับความเชื่อถือ ใครคือคนตาดีใครคือคนตาบอดเลยดูกันไม่ออก ตามปรกติตาดีจะจูงตาบอด แต่ถ้าหากว่าจะไปไม่รอดตาบอดจูงตาดีก็อาจจะไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน นักบวชตาบอดที่ภูเขาคิชฌกูฏพาชายชรานั่งพักเหนื่อยที่ข้างทาง กำลังรอว่าเมื่อไหร่นักจาริกแสวงบุญกลุ่มใหม่จะผ่านมาอีกครั้ง

       เมื่อมองย้อนกลับไปยังยอดเขาคิชฌกูฏที่พึ่งจากมา ยังมีนักจาริกแสวงบุญอีกหลายกลุ่มกำลังเดินทางขึ้นไปยังยอดเขา ในขณะที่อีกหลายกลุ่มกำลังเดินลงจากภูเขา และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพในการขอทั้งหลายยังคงทำหน้าที่แสดงสิลปะแห่งการขอต่อไป การได้มานมัสการสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพุทธสาวกทั้งหลายนั้นทำให้เกิดความเชื่อมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธองค์ว่าสามารถที่จะนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายเข้าสู้สันติสุขได้จริง แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายพันปีแล้วก็ตาม หากทำจริงปฏิบัติย่อมได้รับผลแห่งการปฏิบัติตามสมควร

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
15/05/56

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก