ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

        การเดินทางรถยนต์โดยมีจุดหมายที่ชัดเจนต้องเร่งเวลาในการเดินทางเพื่อจะได้ไปให้ถึงจุดหมายให้ทันเวลา จึงไม่ค่อยมีเวลาแวะชมความงามของสองข้างทาง ทำได้เพียงทักทายด้วยสายตา พยายามเก็บบันทึกภาพไว้ในความทรงจำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ครั้นจะเก็บบันทึกด้วยการถ่ายภาพ ก็ทำไม่ทันเพราะรถยังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา มีเพียงบางช่วงที่รถชะลอความเร็วลงเพราะมีปัญหาด้านการจราจร จึงพอมีเวลาในการบันทึกภาพแต่ก็ยังไม่ค่อยสะดวกนักเพราะต้องถ่ายภาพผ่านกระจกรถซึ่งหาความแน่นอนอะไรไม่ค่อยได้ทั้งแสงและองค์ประกอบภาพ บางครั้งภาพก็ชัด บางครั้งภาพก็เบลอ แต่ทว่าเป็นความท้าทายในการถ่ายภาพอย่างหนึ่ง ถ่ายภาพในขณะที่รถวิ่ง ถ่ายภาพผ่านกระจกรถ ภาพที่ได้จึงเป็นภาพถ่ายริมทางบนทางผ่าน ณ กาลครั้งหนึ่ง

        ปีหนึ่งจะมีช่วงเวลาในการเดินทางไปยังต่างประเทศน้อยมาก เพราะติดขัดด้วยเรื่องเวลาและเงิน บางครั้งมีเวลาแต่ไม่ค่อยมีเงิน บางครั้งมีเงินแต่ไม่ค่อยมีเวลา มนุษย์เรานั้นจะมีความสมบูรณ์แบบมีทั้งเวลาและมีเงินสามารถที่จะท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆนั้นมีน้อยคน อีกอย่างความสมดุลของชีวิตในการเดินทางมักมาเยือนในช่วงเวลาไม่ค่อยจะพร้อมกัน ในช่วงที่พอมีแรงกายพร้อมที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้ แต่กลับไม่ค่อยมีเงิน พอถึงช่วงเวลาที่มีทุนทรัพย์พร้อมกลับไม่ค่อยมีแรงกายที่จะท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆได้ ดังนั้นหากจะรอให้พร้อมทั้งแรงกายและแรงทรัพย์บางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้เดินทางไปไหนเลย

        เดือนเมษายนบังเอิญมีทั้งเวลา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดโครงการนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย เนปาล บังเอิญได้รับการเลือกสรรด้วยรูปหนึ่ง เพราะพระเถรานุเถระทั้งหลายต่างก็ติดภารกิจอื่น ไม่สามารถเดินทางไปได้ มีโอกาสแต่ไม่มีเวลา ส่วนผู้เขียนไม่ค่อยมีทุนแต่มีเวลาเพราะเป็นช่วงของการปิดเทอม โอกาสดีอย่างนี้จึงไม่พลาด การเดินทางไปอินเดียนั้นในความรู้สึกแล้วเหมือนไปเยี่ยมบ้านเก่า ที่ไม่เคยทราบว่าเคยอยู่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกแต่ว่ามีความคุ้นเคยทั้งๆที่สถานที่บางแห่งเคยเดินทางไปครั้งแรกในชีวิต
        การเดินทางนั้นอย่างหนึ่งคือได้เปลี่ยนสถานที่จากที่เคยพักพิงมานาน การอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งนานเกินไปสำหรับพระภิกษุแล้วเป็นโทษอย่างหนึ่ง ดังที่แสดงไว้อภินิวาสสูตร อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต (22/223/264) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในการอยู่ประจำที่ห้าประการคือ (1)ภิกษุอยู่ประจำที่ย่อมมีสิ่งของมาก มีการสะสมสิ่งของมาก (2) มีเภสัชมาก มีการสะสมเภสัชมาก (3) มีกิจมาก มีกรณียมาก ไม่ฉลาดในกิจที่จะต้องทำ (4) ย่อมอยู่คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร (5) เมื่อจะหลีกไปจากอาวาสนั้น ย่อมมีความห่วงใยหลีกไป

        การอยู่ประจำที่นานเกินไปมีโทษ พระบรมศาสดาจึงสอนให้ภิกษุอยู่ประจำที่พอประมาณโดยมีกำหนดพอสมควรซึ่งมีอานิสงส์มากว่ามีโทษ ดังที่แสดงไว้ในสูตรเดียวกันว่า  “ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการอยู่มีกำหนดพอสมควรห้าประการคือ(1) ภิกษุผู้อยู่มีกำหนดพอสมควร ย่อมไม่มีสิ่งของมากไม่มีการสะสมสิ่งของมาก (2) ไม่มีเภสัชมาก ไม่มีการสะสมเภสัชมาก (3) ไม่มีกิจมาก ไม่มีกรณียมาก ฉลาดในกิจที่จะต้องทำ (4) ไม่เป็นผู้คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร (5) เมื่อจะหลีกไปจากอาวาสนั้น ไม่มีความห่วงใยหลีกไป”
        ในช่วงที่รถยนต์ที่พาคณะผู้จาริกแสวงบุญจากสนามบินกัลกัตต้า หรือโกลกัลต้า ไปยังพุทธคยานั้นระยะทางไกลพอสมควรต้องใช้เวลาในการเดินทางไม่น้อยกว่าแปดชั่วโมง  และในช่วงนั้นก็ไม่ได้มีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาให้ทัศนา หรือหากจะมีผู้จัดก็ไม่พาไป เพราะจุดมุ่งหมายอยู่ที่พุทธคยาซึ่งกว่าจะเดินทางไปถึงก็คงเป็นเวลามืดค่ำ

      

          ในช่วงของการเดินทางมีเวลามาก ไม่รู้จะทำอะไรนอนหลับได้หลายตื่นแล้ว จึงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเล่นๆ ข้างทางที่รถผ่านซึ่งก็ได้บ้างเสียบ้างตามแต่ช่วงจังหวะ มีช่วงหนึ่งรถจอดให้พระภิกษุฉันภัตตาหารเพล ชายวัยกลางคนๆหนึ่งเดินทางมา จึงยกกล้องขึ้นถ่ายภาพ ชายคนนั้นตรงรี่เข้ามาหาเหมือนกำลังจะเอาเรื่อง ซึ่งตอนนั้นก็พร้อมเพราะได้ถ่ายภาพเขาโดยไม่ขออนุญาต แต่พอมาถึงเขาส่งเสียงภาษาฮินดีซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง จึงนำภาพที่ถ่ายไว้ให้ชายคนนั้นดู เมื่อได้เห็นภาพตัวเองจึงเห็นรอยยิ้ม คงไม่เคยถ่ายภาพมานานหลายปีแล้ว จากนั้นจึงตั้งท่าให้ถ่ายภาพ บอกให้ยิ้มก็ยิ้ม บอกให้แสดงท่าทางอะไรก็ทำ เมื่อดูภาพตัวเองแล้วก็ร้องเรียกให้คนอื่นๆมาดูด้วย ชายคนนั้นแสดงอาการบอกให้รู้ว่า หากมาครั้งต่อไปกรุณานำภาพมาให้ผมด้วย ผมคงไม่ไปไหนเพราะบ้านอยู่ที่นี่ทำงานที่นี่ ตอนนั้นได้แต่รับปากทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เดินทางมาอีกครั้ง
        รถวิ่งไปเรื่อยๆและจอดพักให้คณะผู้เดินทางเข้าห้องน้ำซึ่งน่าจะเป็นห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะใช้ทุ่งนาหรือป่าละเมาะสองข้างทางนั่นเองเป็นห้องน้ำ  หญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำงานอยู่กลางทุ่งนาพอเห็นรถจอดก็ยืนมองด้วยความสงสัยว่าคนพวกนี้มาทำอะไรกัน แต่เธอไม่ได้เดินเข้ามาใกล้ได้แต่เพ่งมอง เป็นภาพหญิงสาวที่คิดว่าสวยที่สุดในช่วงเวลานั้น ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพในระยะไกลและเพื่อปิดบังใบหน้าที่เธอไม่ค่อยเต็มใจให้ถ่ายภาพ จึงถ่ายภาพเป็นภาพขาวดำสวยงามไปอีกแบบ


        อินเดียมีคำพูดที่มักจะได้ยินอยู่เสมอว่า “เมืองคนใช้หัว เมืองผัวเฝ้าห้าง” หมายถึงคนอินเดียเวลาจะขนของมักจะเทินไว้บนศีรษะใช้พลังของศีรษะในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ  ส่วนร้านของของชำต่างๆคนขายมักจะเป็นผู้ชาย นานๆจึงจะได้เห็นผู้หญิงมานั่งขายของสักคน  ผู้หญิงทำงานบ้าน ส่วนผู้ชายทำงานนอกบ้าน พ่อค้าตามร้านค้าทั้งหลายจึงมักจะเป็นผู้ชาย
        ในช่วงที่รถผ่านหมู่บ้าน รถต้องชะลอความเร็วจึงมีโอกาสได้ถ่ายภาพร้านของของชำข้างทาง พ่อค้าบางคนพอเห็นรถผ่านก็จะยกมือทักทายหรือโบกมือลา การถ่ายภาพในลักษณะนี้คนถ่ายภาพต้องใช้ความไว ต้องอาศัยช่วงเวลาให้พอเหมาะ ต้องปรับกล้องให้พร้อมอยู่ในสภาพที่จะยกให้ถ่ายได้ทันที ตอนนั้นใช้อยู่สองหมวดคือหมวด A ซึ่งปรับรูปรับแสงเอง ส่วนจะเป็นภาพชัดลึกหรือชัดตื้นนั้นขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส และหมวด S ซึ่งปรับความเร็วซัตเตอร์เองมักจะใช้ในช่วงเวลาที่รถวิ่งต้องการให้ภาพที่ถ่ายหยุดนิ่ง
        เมื่อรถเริ่มวิ่งออกนอกหมู่บ้านเข้าสู่ชนบทมองเห็นทุ่งนา กว้างสุดสายตา สองข้างทางยังมีความเป็นธรรมชาติของคนเลี้ยงกระบือให้เห็น คนฮินดูไม่ค่อยจะเลี้ยงโคแต่ปล่อยให้หากินเองตามยถากรรม คนฮินดูไม่ทำร้ายวัว เพราะมีความเชื่อกันว่าวัวคือพาหนะของพระเจ้า ดังนั้นตามถนนหนทางต่างๆไม่ว่าจะในเขตเมืองหรือชนบท วัวทั้งหลายก็จะเดินเล่นและหากินตามท้องถนน รถต้องจอดรอให้วัวเดินผ่านก่อน ใครทำร้ายวัวอาจจะถูกประชาทัณฑ์ ส่วนคนเลี้ยงกระบือมักจะเห็นได้ทั่วไปตามทั้งทุ่งนา


        การเดินทางไกลในช่วงเวลาแห่งการรอคอยเพื่อจะได้ไปถึงจุดหมายนั้น ความสุขอย่างหนึ่งคือการชมทัศนียภาพสองข้างทางและพยายามถ่ายภาพเล่นๆเป็นการบันทึกเหตุการณ์มากกว่าที่จะเน้นเรื่องความสมบูรณ์ของภาพ เพราะบางภาพถ่ายได้เพียงเสี้ยวเดียว บางภาพได้บรรยากาศแต่ขาดความคมชัด แต่นั่นคือเสน่ห์ของการถ่ายภาพธรรมชาติริมทาง เพราะมักจะได้ภาพที่ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า  ชีวิตมนุษย์นั้นบางครั้งสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขอาจจะมีจากสิ่งที่ไม่ได้คาดหวังก็ได้ ความสุขหรือความทุกข์อยู่ที่ใจเราไปรับรู้และปรุงแต่ง หากปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นซึ่งอาจจะมีสุขบ้างในบางครั้ง ทุกข์บ้างในบางโอกาส ชีวิตก็มีรสชาติ เฉกเช่นกับการถ่ายภาพข้างทางในขณะที่รถกำลังวิ่งซึ่งได้ภาพที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง การถ่ายภาพที่ไม่สมบูรณ์แบบอาจจะได้ภาพที่มีเสน่ห์ได้ มีใครคนหนึ่งในขบวนเดินทางหันมาเอ่ยถามว่า “ถ่ายภาพผ่านกระจกรถในขณะที่รถวิ่งอย่างนี้จะได้ภาพที่ดีหรือ” จึงตอบไปว่า “ผมไม่ได้เน้นที่คุณภาพของภาพถ่าย แต่ความสุขของผมอยู่ที่การได้กดชัตเตอร์ ส่วนภาพถ่ายที่ได้เป็นเพียงเงาร่างของความเพลิดเพลินเท่านั้นเอง”

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
11/05/56

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก