ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

        วัดบ้านสร้างมีอายุการสร้างมานานนับร้อยปีแล้ว มีเจ้าอาวาสมรณะไปแล้วหลายรูป ปัจจุบันมีหลวงตาดี เป็นเจ้าอาวาส หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษานานๆเหมือนเมื่อก่อน ส่วนหนึ่งบวชตามประเพณี ศึกษาและปฏิบัติธรรมเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เจ็ดวัน สิบห้าวัน หรือหนึ่งเดือน ในช่วงเข้าพรรษาพอมีบ้างปีละรูปสองรูป แต่พอออกพรรษาแล้วพระสงฆ์เหล่านั้นก็พากันลาสิกขาออกไปทำหน้าที่ฆราวาสวิสัยตามสมควร ชาวบ้านส่วนมากประกอบอาชีพทำนาทำไร่ หรือหากมีมีพระภิกษุสามเณรรูปใดยังอยู่ก็จะเดินทางไปศึกษาหาความรู้ในกรุงเทพมหานคร บางช่วงเวลาจึงเหลือแต่หลวงตารูปเดียวเฝ้าวัดทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสและพระลูกวัดในเวลาเดียวกัน ใครจะมาจะไปก็ต้องมาพบกับหลวงตา กาลเป็นไปดั่งนี้มานานหลายปี

        พระดีบวชตอนอายุมากแล้วเคยมีครอบครัวมีลูกชายมาก่อน ภรรยาเสียชีวิตนายดีจึงบอกชาวบ้านว่า “บวชหน้าไฟให้เมีย” ตั้งแต่วันที่อุปสมบทชาวบ้านก็มักจะเรียกพระภิกษุดีว่า “หลวงตาดี” จนติดปาก เพราะบวชตอนแก่นั่นเอง แม้งานศพอดีตภรรยาจะผ่านพ้นไปแล้วหลวงตาดีก็ไม่ยอมลาสิกขา มักจะเดินทางออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ไม่ค่อยได้อยู่ประจำที่วัดในหมู่บ้านนัก นานๆครั้งจึงจะกลับมาเยี่ยมลูกชายซึ่งฝากให้แม่ช่วยเลี้ยง แม่จึงทำหน้าที่เลี้ยงหลานเหมือนเลี้ยงลูก จนหลานกลายเป็นเหมือนลูกจริงๆ
        พระภิกษุดีมักจะเดินทางธุดงค์ไปตามที่ต่างๆทั่วประเทศไทย ค่ำไหนก็พักอาศัยที่นั่น หากวัดหรือสำนักสงฆ์แห่งใดน่าอยู่ก็จะอยู่นานหน่อยบางครั้งก็จำพรรษา พอออกพรรษาก็เดินทางท่องเที่ยวจาริกต่อไป จากเหนือจรดใต้มีเพียงเครื่องบริขารของพระสงฆ์เท่านั้นไม่ได้มีสมบัติมีค่าอื่นใดที่เป็นที่ล่อตาล่อใจพวกโจรทั้งหลายจึงรอดตัวมาได้ มีบ้างบางครั้งที่ถูกทางการเพ่งเล็งสงสัยถูกกักตัวไว้เพื่อดูพฤติกรรม แต่ทว่าวัตรปฏิบัติของพระดียังคงที่ปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่มีเหตุอันใดที่จะบ่งบอกว่าเป็นอย่างอื่นไปจากพระธุดงค์จนๆรูปหนึ่ง โบราณว่า “พระงามที่จน คนงามที่มี” 

        มีครั้งหนึ่งบังเอิญเข้าไปพักที่ป่าช้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก วันนั้นพระภิกษุดีปักกลดยึดป่าช้าเป็นที่พัก พอมืดค่ำก็มีพวกวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพากันมาซ้องสุมเสพยาเสพติด พอพวกเขาเห็นพระจึงถือวิสาสะค้นทรัพย์สมบัติ เผื่อว่าบางทีอาจจะได้ของมีราคาบ้าง พระดีก็ปล่อยให้เขาค้น เมื่อไม่มีอะไรที่พอจะนำไปขายแลกเงินได้ วัยรุ่นคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาว่า “พระอะไรกันจะยากจนปานนั้น เงินไม่มีสักบาท จะอยู่อย่างไร”
        พระดีมักท่องเที่ยวด้วยการเดินทางธุดงค์ไปยังวัดต่างๆ หรือหากที่ใดไม่มีวัดก็จะพักตามป่าช้า สมัยนั้นยังพอมีเหลือให้เห็นอยู่บ้าง แต่สมัยปัจจุบันป่าช้าเริ่มเหลือน้อย เพราะวัดแต่ละแห่งต่างก็สร้างเมรุเผาศพกันทั้งนั้น ป่าช้าเลยต้องแปรสภาพเป็นวัดป่า หรือเป็นป่าชุมชนที่ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่เหลืออยู่แล้ว
        กาลเวลาผ่านไปยี่สิบปี จนคนลืมพระดีไปเกือบหมดแล้ว วันหนึ่งพระภิกษุดีได้ย้อนกลับมาที่บ้านเกิด บังเอิญว่าเจ้าอาวาสพึ่งมรณภาพไปได้ไม่นาน ยังไม่มีเจ้าอาวาส เพราะในช่วงนั้นมีแต่พระที่บวชใหม่พรรษายังไม่มาก ไม่มีใครกล้าทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส  ชาวบ้านจึงนิมนต์หลวงตาดีเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสชั่วคราวจนกว่าจะหาพระภิกษุผู้สมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส

        หลายปีผ่านไปพระดีเลยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เพราะไม่มีพระภิกษุรูปใดมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาสเท่าพระอาจารย์ดี  พระดีเลยกลายเป็นพระอธิการดี เจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างนับตั้งแต่นั้นเป็นต้มมา นานๆจึงจะได้ออกจาริกตามป่าเขาลำๆไพรสักครั้ง  แต่ชาวบ้านก็ยังนิยมเรียก “หลวงตาดี” จนติดปาก
        วัดบ้านสร้างมีเสนาสนะทรุดโทรมหลายแห่งกำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ แทนหลังเก่าที่กำลังทรุดโทรม อีกอย่างพระอุโบสถก็เก่าเต็มที อยากสร้างทั้งศาลาและพระอุโบสถพร้อมกัน แต่ชาวบ้านบอกว่าสร้างศาลาการเปรียญเสร็จก่อนค่อยสร้างพระอุโบสถ ศาลาหลังเก่ายังไม่ได้รื้อ
        ส่วนศาลาหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างก็พึ่งจะขึ้นเสาสูงโดดเด่นที่บริเวณเชิงเขา แต่ปัจจัยในการก่อสร้างขาดแคลนต้องค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบอะไร มีเมื่อไหร่ก็สร้างเมื่อนั้นไม่มีก็หยุดไว้ก่อน นี่ก็สองสามปีมาแล้วได้แต่เสา พื้นที่ในศาลาเริ่มมีต้นไม้ขึ้นแซมบ้างแล้ว เงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาศัยผ้าป่าจากชาวบ้านที่ไปทำงานกรุงเทพมหานคร ที่พึ่งมีผ้าป่าเสร็จไปในวันมาฆบูชาที่ผ่านมา ตั้งใจว่าจะเริ่มเทฐานและพื้นก่อนคงพอบรรเทาไปได้สักพัก ทำงานก่อสร้างไปจนกว่าวันสงกรานต์จะมาถึง หลวงตาดีจึงวางแผนจะทำการก่อสร้างอย่างจริงจังหลังวันสวรกานต์ รอผ้าป่าอีกสองกอง ตอนนั้นในบัญชีมีเงินฝากประมาณห้าหมื่นบาท

        บ่ายวันนั้นใกล้ค่ำย่ำสนธยาสายลมพัดแผ่วพลิ้วต้นไม้ที่สูงตระหง่านในบริเวณวัดไหวโอนเอนไปตามแรงลม ดอกคูณสีเหลืองอร่ามข้างรั้วริมวัดสะบัดพริ้มไปตามแรงลม บ่งบอกว่าเริ่มเข้าสู้ร้อนแล้ว ดอกคูณมักจะบานในช่วงต้นฤดูร้อนไปจนถึงวันสงกรานต์  ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก หลวงตาดีเจ้าอาวาสกำลังกวาดลานวัด กำลังคิดอะไรเพลินๆตามประสาพระแก่ หากเรามีอันเป็นไปในช่วงเวลานี้จะมีใครดูแลรักษาวัด น่าจะมีพระอยู่ประจำอีกสักสองสามรูป หลวงตาดีรำพึงกับตัวเอง
        เสียงเครื่องยนต์ดังมาแต่ไกลหลวงตาดีเพ่งมองด้วยสายตาที่เริ่มพร่ามัว มองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อเข้ามาใกล้ๆจึงมองเห็นถนัดเป็นรถเก๋ง ราคาแพง ยี่ห้อดังซะด้วย มีคนสามคนชายสองหญิงหนึ่งแต่งตัวภูมิฐาน อายุอยู่ในวัยกลางคน กิริยามารยาทงดงามเหมือนคนมีการศึกษาหรือไม่ก็น่าจะเป็นนักธุรกิจ หลวงตาดีคาดเดาตามสถานภาพที่ได้ประสบพบเห็นในขณะนั้น
        ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า  “หลวงพ่อครับผมเป็นเจ้าหน้าที่มาจากกรมการศาสนา กำลังจะมาสำรวจวัดที่สมควรจะได้รับการอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นเงินงบประมาณประจำปี วัดที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับคือต้องเป็นวัดในชนบท มีพระอยู่จำพรรษาไม่ขาดติดต่อกันสามปี กำลังก่อสร้างเสนาสนะสงฆ์ หากวัดใดมีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขนี้จะได้รับการคัดเลือกให้ได้รับเงินอุดหนุนครับ” จากนั้นก็แนะนำอีกสองคนบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนา และนำเอกสารแผ่นพับถวาย  หลวงพ่ออ่านและพิจารณาดูนะครับ
        ชายคนเดิมกล่าวอีกว่า “วัดนี้ร่มรื่นสงบน่าอยู่ดีนะครับ วัดอย่างนี้ควรให้การสนับสนุน แต่ต้องมีคุณสมบัติครบด้วย วันนี้พวกผมมาแจ้งข่าวหลวงพ่อ ต้องไปอีกหลายวัดนะครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะแวะมากราบหลวงพ่ออีกที” พูดจบก็พากันขึ้นรถยนต์ราคาแพงกลืนหายไปกับเวลาแห่งสายัณหกาล

        หลวงตาดี นัยน์ตาไม่ค่อยดีจึงอ่านเอกสารไม่ค่อยถนัด วันนี้บังเอิญลืมแว่นเสียด้วยซิ หลวงตาได้แต่บ่นโทษตัวเองที่หลงลืม พอตกกลางคืนจึงค่อยๆอ่านทำความเข้าใจเอกสารนั้นอีกที ในเอกสารระบุว่า“กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีโครงการอุดหนุนวัดในชนบทที่กำลังขาดแคลนจตุปัจจัยในการก่อสร้าง หากวัดใดต้องการเงินอุดหนุนให้ทำเรื่องมาที่กรมการศาสนาหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในแต่ละจังหวัด หลวงตาดีบอกกับตนเองว่าด้วยความหวังว่า “วัดเรากำลังก่อสร้าง มีพระอยู่จำพรรษาไม่ขาด เข้าเกณฑ์พอดี หวังว่าพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นคงย้อนกลับมาอีกครั้ง” ก่อนจะหลับด้วยความหวัง ศาลาการเปรียญคงเสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้
        หลวงตาดีฉันภัตตาหารเสร็จแล้วจึงเดินเล่นอยู่บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง แต่คอยเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์ราคาแพงคันนั้น ด้วยใจจดจ่อ “หากได้เงินอีกล้านหนึ่งศาลาจะได้เสร็จเสียที” เดินไปหลวงตาก็เผลอยิ้มไป อย่างมีความหวัง
        ไม่นานเกินรอยังไม่ถึงเที่ยงวันรถยนต์คันนั้นพร้อมทั้งคนอีกสามคนก็เข้ามาที่วัดจริงๆ หลวงตาดีออกไปพบ หาน้ำดื่มมาออกมาต้อนรับ
        “พวกผมสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านแล้วครับ หลวงพ่อเป็นพระที่เคารพของชาวบ้าน และกำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญ วัดของหลวงพ่ออยู่ในเกณฑ์การพิจารณาครับ”  ชายคนที่เดินทางมาด้วยกันกำลังถ่ายภาพบริเวณสถานที่ก่อสร้าง และยังเดินถ่ายภาพบริเวณวัด ปล่อยให้ชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา เป็นคนเจรจากับหลวงพ่อตามลำพัง

        “ผมอนุมัติให้วัดหลวงพ่อได้รับเงินอุดหนุนก็แล้วกัน เพราะหลวงพ่อเป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพของชาวบ้าน หลวงพ่อกำลังสร้างเสนาสนะอันเป็นสมบัติของส่วนรวม  ไม่ช่วยวัดอย่างนี้แล้วก็ไม่รู้จะช่วยวัดที่ไหนอีก แต่ในการแปรงบประมาณต้องมีค่าดำเนินการนิดหน่อย หากหลวงพ่อพร้อมที่จะจ่ายค่าดำเนินการ พวกผมก็พร้อมที่จะโอนเงินให้ หลวงพ่อมีบัญชีเงินฝากธนาคารไหมครับ ผมขอหมายเลขบัญชีธนาคารจะได้โอนเงินมาให้ถูก” ชายคนนั้นยกแม่น้ำทั้งหลายก่อนจะวกเข้าสู่เป้าหมาย
        หลวงตาจึงบอกว่า “บัญชีธนาคารไม่ได้อยู่กับอาตมาอยู่กับมัคนายกโน่น อาตมาไม่มีเงิน แต่หากจำเป็นก็บอกกับมัคนายกซึ่งทำหน้าที่เป็นไวยาวัจกรประจำวัดได้”
        วันนั้นหลวงตาดีเตรียมพร้อมเพราะเงินหนึ่งล้านที่กำลังจะได้รับนั้นมากมาย ศาลาการเปรียญต้องเสร็จแน่นอน ไม่ต้องรอเงินจากผ้าป่าในช่วงสงกรานต์ก็ได้
        “หลวงพ่อไปรับมัคนายกและไปที่ธนาคารด้วยกันดีไหมครับ ผมจะได้โอนเงินให้หลวงพ่อเลย ผมจะได้ไปวัดอื่นต่อ ยังเหลืออีกสี่ล้านนะครับ ผมได้มาห้าล้าน ถวายหลวงพ่อหนึ่งล้านครับ”
        วันนั้นหลวงตาดีเจ้าอาวาส มัคนายก และผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนาพากันไปที่ธนาคารในตัวอำเภอ กว่าจะถึงก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงเศษๆแล้วใกล้เวลาธนาคารปิดเต็มที
        ชายคนที่ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนาบอกกับหลวงตาดีว่า “มีค่าดำเนินการห้าหมื่นบาทนะครับหลวงพ่อ ผมได้เลขที่บัญชีธนาคารแล้วจะโอนให้ในวันนี้เลย”
        เมื่อได้รับเงินสดห้าหมื่นบาทแล้ว เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบบ่ายสามโมงเย็นเงินใกล้เวลาธนาคารปิด ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนาจึงบอกว่า “วันนี้คงไม่ทันแล้วครับพรุ่งนี้เช้าผมจะรีบโอนให้ตั้งแต่เช้า หลวงพ่อรอรับเงินได้เลยนะครับ” จากนั้นก็ขึ้นรถหายไปในย่านชุมชน
        หลวงตาดีและมัคนายกเฝ้ารอเงินหนึ่งล้านบาทจาก ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนามานานหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครโอนเงินมาให้เลย  เงินห้าหมื่นที่เก็บไว้เพื่อทำการก่อสร้างศาลาการเปรียญก็พลอยหายสาบสูญไปด้วย

    การที่จะไว้ใจใครนั้นต้องดูกันนานๆ ดังที่มีแสดงไว้ในปฏิสัลลานสูตร ขุททกนิกาย  อุทาน (25/132/149) ความว่า “ศีล พึงทราบได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน และศีลนั้นแลพึงทราบได้โดยกาลนาน ไม่ใช่โดยกาลนิดหน่อย  ความเป็นผู้สะอาด พึงทราบได้ด้วยการปราศรัย และความเป็นผู้สะอาดนั้นแลพึงทราบได้โดยกาลนาน ไม่ใช่โดยกาลนิดหน่อย  กำลังใจ พึงทราบได้ในเพราะอันตราย และกำลังใจนั้นแลพึงทราบได้โดยกาลนาน ไม่ใช่โดยการนิดหน่อย  ปัญญาพึงทราบได้ด้วยการสนทนา ก็ปัญญานั้นแลพึงทราบได้โดยกาลนาน ไม่ใช่โดยการนิดหน่อย”  สรุปว่า “ศีลรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน  ความสะอาดรู้ได้ด้วยปราศรัย  กำลังใจรู้ได้เมื่อภัยมา ปัญญารู้ได้ด้วยการสนทนา”
        บวชมาตั้งนานไม่น่าหลงลืมคำสอนในพระพุทธศาสนาไม่น่าไปไว้ใจคนที่พึ่งเห็นกันเพียงวันเดียว มาเสียรู้คนตอนแก่น่าแค้นใจตัวเองนัก  เพราะรถยนต์หรูราคาแพงและการแต่งตัวดีอันเป็นฉากบังหน้าจึงทำให้หลงเชื่อได้ง่าย คนพวกนั้นซ่อนดาบในรอยยิ้มโดยแท้ เบื้องหน้าน่าเชื่อถือ แต่เบื้องหลังพร้อมที่จะเชือดเฉือนได้ทุกเวลา  ไม่เว้นแม้แต่พระชราในชนบท  หลวงตาดีวัดบ้านสร้างเพียงความอยากได้มากเกินไป แทนที่จะได้เงินหนึ่งล้าน แต่ต้องสูญเงินไปฟรีๆ อีกห้าหมื่นบาท แล้วทีนี้จะหาเงินที่ไหนมาสร่างศาลาการเปรียญต่อเล่า จะเล่าให้ชาวบ้านฟังก็อับอายที่มาเสียรู้คนตอนแก่ หลวงตาดีได้แต่รำพึงกับตัวเอง 
 


พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
17/03/56



 

หมายเหตุ: เขียนจากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสวัดในชนบทรูปหนึ่งที่พึ่งลูกหลอกเงิน

               เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี่เอง
               หากใครพบเหตุการณ์ในลักษณะอย่างนี้  อย่าพึ่งเชื่อโทรศัพท์สอบถามที่กรมการศาสนา
               หรือที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก่อน

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก