ดอกไม้มีหลายประเภท ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องของดอกไม้นักจึงไม่ค่อยได้รู้จักชื่อของดอกไม้เหล่านั้น บางต้นอยู่ในวัดออกดอกปีละครั้ง ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพเก็บไว้ดูเล่นๆ แต่พอสองสามวันผ่านไป ดอกไม้เหล่านั้นหล่นจากขั้วไปแล้ว บางประเภทออกดอกตลอดปี แต่ดอกไม้ประเภทนี้มักจะอยู่ได้ไม่นาน บางประเภทออกดอกและบานทุกวัน เท่าที่สังเกตดอกไม้มักจะบานในตอนเช้า เช่นจำพวกบัวทั้งหลายมักจะจะรอแสงตะวันและค่อยๆเบ่งบานรับแสงแห่งอังสุมาลี(ดวงอาทิตย์)
ตอนเย็นเดินผ่านประตูทางเข้าวัดสังเกตเห็นมีดอกไม้ประเภทหนึ่งออกดอกสีม่วง ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพเก็บไว้ดูเล่นแต่ติดขัดที่ต้นไม้อยู่ข้างทางมีคนเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย ครั้นจะถ่ายภาพในตอนเย็นก็กลับมาไม่ค่อยทัน แสงอาทิตย์จางหายไปก่อนแล้ว แสงจึงไม่พอ จึงต้องรอตอนเช้า รอให้ดอกไม้บานรับแสงอาทิตย์ และรอให้ผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปน้อยลง
กล้องนอนหลับในกระเป๋ามาหลายวันแล้ว ต้องนำออกมาใช้บ้าง ไม่อย่างนั้นกล้องจะขึ้นรา แต่การใช้กล้องวิธีที่ดีที่สุดคือถ่ายภาพ ส่วนจะถ่ายภาพอะไรนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่เวลาและโอกาส มองไปที่ต้นไม้ริมรั้วข้างทางเข้าวัดเห็นดอกไม้สีม่วงกำลังออกดอกจึงหยิบกล้องเดินออกจากกุฎิ วันนี้มีที่ให้ถ่ายภาพแล้ว
ดอกไม้ที่ว่านี้ถามคนแถวนี้เขาบอกว่าดอกอินทนิลหรือดอกกากะเลาหรือกาสะเลา ฟังดูคล้ายดอกกาสะลอง แต่ดอกไม้ทั้งสองมีถิ่นกำเนิดต่างกัน ดอกกะเลามักจะเบ่งบานในแถบภาคอีสาน ออกดอกสีม่วง ส่วนดอกกาสะลองมักจะปรากฏโฉมที่เขตภาคเหนือ มีก้านดอกยาวออกดอกสีขาว ภาคกลางเรียกว่าดอกปีบ
อีสานเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า “กากะเลา”หรือ “กาสะเลา” ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่า “ดอกอินทนิลบก” เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงพอประมาณ ลำต้นมีปุ่มปม ใบเดี่ยว ออกดอกสีเขียวเข้มหรือออกสีม่วงอ่อนๆ หากดอกไม้ชนิดนี้เริ่มบานแสดงว่าหน้าแล้งเริ่มมาเยือนแล้ว กาสะเลาจะบานทั่วท้องทุ่ง สมัยเด็กๆมักจะเรียกติดปากสั้นว่าว่า “ดอกเลา” ออกดอกงดงามสีสดแต่ไม่มีกลิ่นหอม
ส่วนดอก กาซะลอง กาดสะลอง มักอยู่ในภาคเหนือ ภาคกลางเรียกดอกปีบ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร เปลือกลำต้นสีเทา ขรุขระ ใบออกเป็นช่อ ลักษณะใบกลมรี ขอบใบเรียบ โคนใบมนใต้ใบเห็นเส้นใบชัดเจน ดอกออกเป็นช่อสีขาว
ตอนแรกเข้าใจว่าดอกกากะเลาและดอกกาสะลองคือดอกไม้ประเภทเดียวกัน แต่พอศึกษาข้อมูลจึงรู้ว่าเป็นดอกไม้คนละประเภทกัน กากะเลาหรืออินทนิลบกออกดอกสีม่วง แต่กาสะลองมีดอกสีขาว
ดอกไม้มีสีต่างกันบางประเภทมีทั้งสีและกลิ่น บางประเภทมีเพียงสีสวยสดงดงามแต่ไม่มีกลิ่น คำพูดของมนุษย์ก็คล้ายดอกไม้บางคนพูดเพราะมีสาระ บางคนพูดดีมีสาระแต่ไม่เสนาะหู ดังที่แสดงไว้ในปุปผวรรค ขุททกนิกาย ธรรมบท (25/14/19) ความว่า “ดอกไม้งามมีสีแต่ไม่มีกลิ่นแม้ฉันใด วาจาสุภาษิตย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่กระทำฉันนั้น ดอกไม้งามมีสีมีกลิ่นแม้ฉันใด วาจาสุภาษิตย่อมมีผลแก่ผู้ทำดีฉันนั้น นายมาลาการพึงทำกลุ่มดอกไม้ให้มากแต่กองแห่งดอกไม้แม้ฉันใด สัตว์ผู้มีอันจะพึงตายเป็นสภาพผู้เกิดแล้วพึงทำกุศลให้มากฉันนั้น”
ดอกอินทนิลหรือดอกกาละเลาออกดอกอยู่บนต้นที่สูง ต้องถ่ายจากข้างล่างขึ้นบน จึงไม่ได้สูดกลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้ เลยไม่รู้ว่ามีกลิ่นหอมหรือไม่ ดอกไม้บานเป็นช่วงเวลาหากช้าไปอาจจะไม่ได้ชมความงามของมวลหมู่บุบผาเพราะดอกไม้จะร่วงหล่นไปเสียก่อน เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของมวลมนุษย์ย่อมมีวันเวลาจำกัด หากจะทำบุญหรือทำกุศลต้องรีบทำ เพราะบางทีมัวแต่รอวันเวลาอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำ อาจจะถูกพญามัจจุราชพรากชีวิตไปก่อนก็ได้ จะทำอะไรก็ต้องรีบทำเหมือนกับการถ่ายภาพดอกอินทนิลต้องรีบถ่ายในช่วงเวลาที่กำลังออกดอกงดงาม เพราะหากช้าไปดอกไม้จะโรยราไปก่อน
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
06/02/56