วันนี้มีหลายคนที่นิยมตัวเลขถือว่าเป็นฤกษ์ดีในรอบปีคือเลข 12 ซึ่งตรงกันทั้งวันเดือนปี วันที่ 12 เดือน 12 ปี 12 ปีหนึ่งมีครั้งเดียว หากเขียนเป็นตัวเลขติดกันก็จะเป็น 12/12/12 ผู้ที่เชื่อในระบบตัวเลขจึงพากันไปจดทะเบียนสมรสโดยนิยมไปที่เขตบางรัก อันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความรัก บางคนเดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดโดยถือเอาฤกษ์ดีในวันนี้เป็นวันจดทะเบียนสมรส มีบ้างบางคนลูกกำลังจะคลอดก็อยากให้ลูกเกิดในวันนี้ เพราะบางคนยังเชื่อว่าหากเกิดในฤกษ์ดีเขาจะเป็นคนดี
ความเชื่อของมนุษย์แต่ละคนนั้นยากที่จะเข้าใจ บางคนเชื่อตามที่ได้ยินได้ฟังมา บางคนเชื่อเพราะเหตุการณ์นั้นแปลกกว่าอย่างอื่น การเชื่อในเรื่องของฤกษ์ยามเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากกระทำแล้วไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน การกระทำตามความเชื่อนั้นก็ไม่เป็นไร เชื่อในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เชื่อ คนทำสบายใจ แต่การที่คนจะดีหรือชั่วนั้นส่วนหนึ่งอยู่ที่การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ สิ่งแวดล้อมและการกระทำของแต่ละคน ไม่น่าจะเกี่ยวกับฤกษ์งามยามดีแต่ประการใด ทำดีเมื่อไหร่ก็ดีเมื่อนั้น
พระพุทธศาสนามีคำสอนถึงเรื่องของคนดีคนชั่วไว้มากมายหลายแห่ง คนจะดีหรือชั่วสาเหตุมาจากหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่พึงศึกษาคือคนจะดีหรือชั่วมาจากกรรมหรือการกระทำของแต่ละคน ดังที่แสดงไว้ในวาเสฏฐสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ (13/707/489) ความว่า “บุคคลจะชื่อว่าเป็นคนชั่วเพราะชาติก็หาไม่ จะชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะชาติก็หาไม่ ที่แท้ชื่อว่าเป็นคนชั่วเพราะกรรม ชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะกรรม เป็นชาวนาเพราะกรรม เป็นศิลปินเพราะกรรม เป็นพ่อค้าเพราะกรรม เป็นคนรับใช้เพราะกรรม แม้เป็นโจรก็เพราะกรรม แม้เป็นทหารก็เพราะกรรม เป็นปุโรหิตเพราะกรรม แม้เป็นพระราชาก็เพราะกรรม บัณฑิตทั้งหลายมีปกติ เห็นปฏิจจสมุปบาท ฉลาดในกรรมและวิบาก ย่อมเห็นกรรมนั้นแจ้งชัดตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรม เหมือนลิ่มสลักของรถที่กำลังแล่นไปฉะนั้น บุคคลชื่อว่าเป็นพราหมณ์ด้วยกรรมอันประเสริฐนี้ คือ ตบะพรหมจรรย์ สัญญมะ และทมะ กรรมสี่อย่างนี้ เป็นกรรมอันสูงสุดของพรหมทั้งหลาย ทำให้ผู้ประพฤติถึงพร้อมด้วยวิชชาสามระงับกิเลสได้ สิ้นภพใหม่แล้ว ดูกรวาเสฏฐะ ท่านจงรู้อย่างนี้ว่าผู้นั้นชื่อว่าเป็นพรหม เป็นท้าวสักกะ ของบัณฑิตผู้รู้แจ้งทั้งหลาย"
ในพระพุทธศาสนาได้แสดงถึงการอยู่ร่วมกันของชายหญิงในลักษณะของสามีภรรยาไว้สี่ประการดังที่แสดงไว้ในสังวาสสูตร อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต (21/53/67) ความว่า “การอยู่ร่วมสี่ประการคือ (1)ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผี (2)ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา (3) ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผี (4)ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา” พระพุทธเจ้าได้สรุปเป็นคาถาประพันธ์อธิบายไว้ว่า
(1)ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้ทุศีล เป็นคนตระหนี่ มักด่าว่าสมณพราหมณ์ ชื่อว่าเป็นผีมาอยู่ร่วมกัน
(2)สามีเป็นผู้ทุศีลมีความตระหนี่ มักด่าว่าสมณพราหมณ์ ส่วนภรรยาเป็นผู้มีศีล รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่ ภรรยานั้นชื่อว่าเทวดาอยู่ร่วมกับสามีผี
(3)สามีเป็นผู้มีศีล รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่ ส่วนภรรยาเป็นผู้ทุศีล มีความตระหนี่ มักด่าว่าสมณพราหมณ์ ชื่อว่าหญิงผีอยู่ร่วมกับสามีเทวดา
(4)ทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น เจรจาถ้อยคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมากไม่มีใจร้ายต่อกัน ครั้นประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว เป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก”
ในบรรดาการอยู่ร่วมกันทั้งสี่ประการนั้นสามีภรรยาประเภทสุดท้ายดีที่สุดอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า การครองชีวิตคู่หรือการมีครอบครัวนั้น การจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ก็ไม่ได้อยู่ที่ฤกษ์การแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสแต่ประการใด แต่อยู่ด้วยกันเพราะมีความเชื่อ ความประพฤติใกล้เคียงกัน ดังที่แสดงไว้ในสมชีวิสูตร อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต (21/54/69) ความว่า “ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้ ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกันภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ”
จากนั้นได้แสดงคาถาสรุปความว่า “ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุกทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกันประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก”
สรุปว่าสามีภรรยาจะอยู่ด้วยกันได้นานและอยู่อย่างมีความสุขเพราะมีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน และมีปัญญาเสมอกัน”
หากถือปฏิทินตามธรรมเนียมฝรั่ง ในรอบหนึ่งปีจะมีเพียงวันเดียวที่ตัวเลข วัน เดือน ปีตรงกันคือ 12/12/12 แต่ถ้าหากนับตามธรรมเนียมไทย ปีหนึ่งก็มีครั้งเดียวเหมือนกัน คือ 05/05/55 แต่เวลานั้นผ่านมาแล้วมีหลายวัดจัดพิธีปลุกเสกพระเครื่อง เครื่องรางของขลังรุ่นเสาร์ห้า ซึ่งบางแห่งยังให้บูชาไม่หมด วันนี้ตัวเลขสวย ใกล้วันสิ้นปี และใกล้วันสิ้นโลกตามความเชื่อของคนบางกลุ่ม ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ เพราะหากโลกจะแตกๆจริงๆก็คงห้ามไม่ได้ ส่วนใครจะไปจดทะเบียนที่เขตบางรักไม่ว่ากัน ยังมีอีกหลายเขตที่ชื่อดีเช่น “บางซื่อ” หากทั้งสามีภรรยาซื่อสัตย์ต่อกันมีแนวโน้มว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เพลิดเพลินเจริญใจในโลกนี้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
12/12/12