ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

       หากใครที่อยู่กับสามเณรที่มีอายุตั้งแต่สิบเอ็ดปีจนถึงสิบเก้าปี ที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น มักจะถามนั่นถามนี่ หรือทำอะไรวุ่นวายไปหมด หากใจไม่นิ่งพอจะพลอยวุ่นวายกับความซุกซนของสามเณรเหล่านั้นไปด้วย พอห้ามไม่ให้ทำอย่างหนึ่งก็จะไปทำอีกอย่าง พอบอกว่าผิดทำไม่ถูกก็จะทำหน้างงๆคล้ายๆกับกำลังจะเกิดคำถามในใจว่าผมผิดตรงไหนประมาณนั้น สามเณรเหล่านี้มาจากต่างจังหวัด ส่วนหนึ่งจะมาตามรุ่นพี่ที่มาอยู่ก่อน เมื่อรุ่นพี่อยู่จำพรรษาในกรุงเทพได้สักพักก็จะมีสามเณรจากต่างจังหวัดตามาอาศัยอยู่ด้วยโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อการศึกษาเล่าเรียน เพราะหากไม่บรรพชาเป็นสามเณรโอกาสทางการศึกษาก็จะหมดไป กลายเป็นเด็กบ้านนอกทำไร่ทำนาไปตามอาชีพของบรรพบุรุษ การศึกษาเล่าเรียนในวัดสามารถสร้างคนดีในสังคมมามากต่อมาก
 

       สำนักศาสนศึกษาวัดมัชฌันติการาม เปิดเรียนแผนกนักธรรมบาลีอาทิตย์แรกวุ่นวายจริงๆ ประเดี๋ยวสามเณรรูปนั้นมาหาถามหาหนังสือเรียน เมื่อบอกให้ค้นหาเอาเอง สามเณรนักเรียนใหม่ก็กลับมาหยิบหนังสืออะไรก็ไม่รู้มาให้ก่อนจะถามว่า “เรียนเล่มนี้ใช่ไหมครับ ครูบอกให้หาหนังสือวิชาธรรมวิภาค แต่ผมหาอย่างไรก็ไม่พบ” ห้องหนังสือแต่ก่อนก็เคยมีระเบียบ แต่พอปิดเทอมสักสองสามเดือน หันกลับมาดูอีกทีไม่รู้หนังสืออะไรต่อมิอะไรกองเต็มไปหมด จนแยกหมวดหมู่ไม่ได้ นักเรียนที่เรียนจบไปแล้วนำมาวางไว้ ซึ่งก็มีหนังสือหลากหลายชนิด ห้องใครไม่มีที่เก็บก็จะมารวมกันไว้ที่ห้องสมุดโรงเรียนพระปริยัติธรรม ปัจจุบันกองเต็มไปหมด น่าเห็นใจสามเณรที่เริ่มเรียนนักธรรมและบาลีในอาทิตย์แรกที่พยายามค้นหาหนังสือตามคำสั่งของครูสอน


       ตามปรกติโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรมและบาลีของสำนักศาสนศึกษาวัดมัชฌันติการาม จะเปิดเรียนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม อาทิตย์แรกหลังวันวิสาขบูชา แต่ปีนี้วันวิสาขบูชาอยู่ในเดือนมิถุนายน จึงเปิดเรียนช้าไปอีกหลายวัน นักเรียนที่เรียนนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกไม่มีปัญหาเพราะเป็นนักเรียนเก่ามีประสบการณ์รู้ว่าจะใช้ตำราเล่มไหนในการศึกษาเล่าเรียน แต่ที่สับสนวุ่นวายมากที่สุดคือนักธรรมชั้นตรีและนักเรียนชั้นบาลีไวยากรณ์ เพราะเป็นชั้นเบื้องต้น เป็นนักเรียนใหม่ ยังทำอะไรไม่ถูก
   เนื่องจากห้องสมุดของโรงเรียนกับห้องพักครูใหญ่อยู่ตรงกันข้ามหากเปิดประตูไว้ก็จะมองเห็นได้ชัดเจนว่าใครกำลังเดินเข้าห้องสมุดและกำลังทำอะไร ส่วนมากมักจะมีสามเณรเก่านำหนังสือมาคืน ส่วนสามเณรใหม่ก็จะมาค้นหาหนังสือเรียน วัฏจักรเป็นไปในทำนองนี้ แม้จะเก็บหนังสือเป็นหมวดหมู่แต่เมื่อต่างคนต่างค้นในที่สุดก็กลับคืนสู่สภาพเดิมคือรกเหมือนเดิม ครั้นจะหาใครสักคนมาเป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุดก็ไม่มีใครมาอยู่ประจำได้ตลอดวัน พระภิกษุและสามเณรทุกรูปต่างก็มีงานทำกันทั้งนั้น หน้าที่ในการเก็บรักษาหนังสือจึงตกเป็นของครูใหญ่ ดังนั้นสำนักเรียนวัดนี้มีครูใหญ่รูปเดียวแต่ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ครูใหญ่ไปจนถึงภารโรง
       “หลวงพ่อครับผมหาหนังสือวินัยมุขไม่พบ มันเป็นยังไงครับหนังสือเล่มนี้” สามเณรเอกถามด้วยหน้าตาที่คงสงสัยจริงๆ จึงถามว่า “ เณรเอกอ่านหนังสือออกไหม”


       “อ่านออกสิครับ ผมเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งนะครับ เรียนมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว อ่านหนังสือไม่ออกก็แย่สิครับ” สามเณรเอกยืนยันอย่างหนักแน่นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
       พอได้ทีจึงบอกสามเณรไปด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าอ่านหนังสือออกก็หาเอาเองสิครับ มาถามให้เสียเวลาทำไม รีบหาเข้าไป เดี๋ยวเรียนไม่ทันสามเณรรูปอื่น”

       “ห้องสมุดรกยังกะรังหนู หนังสือเต็มไปหมดแต่ไม่รู้อยู่ไหน” ได้ยินสามเณรเอกบ่นพำพรำแต่ในที่สุดก็หาหนังสือเล่มที่ต้องการพบจนได้  สามเณรเอกจากไปไม่นานสามเณรวิน เณรแผน เณรบอล เณรกุ้ง เณรบี เดินเข้าห้องหนังสืออีก ไม่นานก็ได้เรื่อง “หลวงพ่อครับ หนังสือนวโกวาทอยู่ไหน หนังสือพุทธประวัติอยู่ตรงไหนหนังสือบาลีไวยากรณ์อยูที่ไหน ฯลฯ”  ตอนนั้นไม่รู้ใครเอ่ยถามขึ้นมา จึงบอกว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกันไปถามสามเณรบิวและสามเณรติ๊กที่ปีนี้เรียนนักธรรมชั้นโทแล้ว ทั้งสองรูปจะช่วยหาให้ว่าจะเรียนเล่มไหนบ้าง เอาไว้วันอาทิตย์ สามเณรไม่ได้ไปไหนมาช่วยกันจัดหนังสือให้เป็นหมวดหมู่จะได้หาง่าย วันนี้ไปนั่งฟังครูสอนไปพลางก่อนๆ” ครูใหญ่เริ่มมึนงงไปด้วยจึงหาทางออกน้ำขุ่นๆ


       ในความสับสนวุ่นวายกลับมีความรู้สึกดี เพราะได้เห็นความอยากรู้อยากเห็นในสามเณรเหล่านั้น หากความสนใจใฝ่ศึกษายังมีอยู่ การศึกษาธรรมวินัยที่พระบรมศาสดาได้บัญญัติไว้ก็ยังคงมีอยู่ ตราบใดก็ตามที่ยังมีการศึกษา มีการปฏิบัติ การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาก็ต้องมีอยู่
       ตอนนั้นแม้จะมีคำถามจากสามเณรไม่หยุด รูปนั้นถามอย่างนั้น อีกรูปถามไปอีกอย่าง เกี่ยวกับธรรมบ้างไม่เกี่ยวบ้าง กลับมีความรู้สึกว่าชีวิตมีสีสัน บอกกับตนเองในตอนนั้นว่า “ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี”
       ยิ้มเป็นการแสดงออกถึงความใจเย็นและมักจะเป็นอาการของคนที่มีความสุข ชีวิตของมนุษย์อยู่ในโลกนี้ไม่เกินร้อยปีหรือหากจะเกินไปบ้างก็คงไม่มากนัก ในช่วงที่มีชีวิตอยู่จะทุกข์โศกไปทำไมกัน ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไปตามหน้าที่ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ ไม่พยายามไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ชีวิตแม้จะอยู่บนกองทุกข์ก็ไม่ได้เดือดร้อนตามไปด้วย หากมองในอีกแง่หนึ่งความทุกข์นั่นเองจะเป็นพลังในการสร้างสรรค์คุณงามความดีหากไม่รู้จักทุกข์จะรู้จักสุขได้อย่างไร เหมือนผักและผลไม้ที่ได้ปุ๋ยซึ่งมาจากสิ่งปฏิกูลที่ทิ้งแล้วเช่นอุจจาระเป็นปุ๋ยชั้นเลิศสำหรับพืชพันธุ์ธัญญาหารฉันใด ความทุกข์ยากลำบากก็เป็นเหมือนเครื่องกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ชีวิตมีแรงในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ มองชีวิตให้สนุกแม้จะทุกข์ก็ไม่เศร้า หากมองชีวิตด้วยความเหงา แม้ไม่เศร้าก็ยังโศก มองโลกด้วยความสนุก ความทุกข์ก็เบาบาง

 

       เอาเป็นว่าแม้จะวุ่นวายอย่างไรในที่สุดนักเรียนก็เข้าห้องเรียนและเริ่มเรียนได้ ส่วนหนังสือที่ยังขาดเป็นหน้าที่ของครูใหญ่ที่จะต้องจัดซื้อหามาให้ครบ รับปากสามเณรไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปซื้อคงรออีกสักวันสองวันเงินยังไม่มา ที่มีก็ยังไม่พอ ปีนี้ครูใหญ่ตั้งใจจะเป็นเจ้าภาพซื้อตำราเรียนถวายนักเรียนให้ครบทุกชั้น
       วัดมัชฌันติการามยังไม่ได้เป็นสำนักเรียน เพราะมีจำนวนนักเรียนไม่มากพอที่จะได้รับการอนุมัติให้ตั้งเป็นสำนักเรียน จึงเป็นเพียงสำนักศาสนศึกษาเปิดสอนแผนกนักธรรม ธรรมศึกษา และแผนกบาลี ในแต่ละปีมีนักเรียนสอบได้ไม่มาก แต่ก็สอบได้ทุกปี
       ในปีการศึกษา 2555 มีสามเณรสามสิบกว่ารูปที่จะต้องเรียนหนังสือทั้งนักธรรมและบาลี เช้าเรียนนักธรรม ภาคบ่ายไปเรียนแผนกปริยัติสามัญที่โรงเรียนวชิรมกุฏฯ วัดมกุฏกษัตริยาราม พอกลับมาถึงวัดตอนเย็นจึงเรียนบาลีต่อไปจนดึก เรียกว่าเรียนตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสามทุ่มกันเลย ปฏิบัติมาอย่างนี้หลายปีแล้ว ครูสอนก็ใช้รุ่นพี่ที่เรียนจบนักธรรมชั้นเอกหรือสอบผ่านเปรียญธรรมสามประโยคขึ้นไป ใช้ระบบพี่ช่วยน้อง สอนฟรีไม่ต้องจ้าง

 

       วันนี้อยู่กับเหล่าสามาเณรน้อยทั้งหลายคงอีกสักสองสามวันกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ ชีวิตใหม่ในโรงเรียนวัด หากไม่ท้อแท้สิ้นหวังไปเสียก่อน เรียนไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เรียนเล่นๆแต่เล่นจริงๆ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าสามเณรเหล่านี้ก็จะจบนักธรรมชั้นเอก จบชั้นมัธยมปีที่หก บางรูปเรียนต่อจนจบชั้นปริญญาตรี โท เอก ชีวิตนั้นกำหนดชะตาทำนายล่วงหน้าไม่ได้ เพราะมีอุปสรรคปัญหานานาประการรออยู่ข้างหน้า ผู้ที่อยู่ให้ได้ ไปให้เป็น เย็นให้พอและรอให้ได้ คือผู้ที่อาจจะประสบความสำเร็จในชีวิต วันนี้ครูใหญ่ได้แต่ท่องคาถาในใจว่า “ยิ้มไว้ ไกลทุกข์ สนุกดี” ทุกข์กับสุขอยู่ด้วยกัน ไม่รู้จักทุกข์ก็ไม่รู้จักสุข เหมือนเหรียญสองด้านขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเอาด้านไหน 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
12/06/55

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก