แดดยามเช้าวันนี้สดใสเป็นพิเศษ คงเนื่องเพราะคืนที่ผ่านมาฝนตกพรำตลอดคืน พออรุณรุ่งเมื่อดวงอาทิตย์โบกมือขึ้นทักทายขอบฟ้าเบื้องบุรพทิศ ท้องฟ้าจึงสดใสเอ่ยคำทักทายแสงแรกแห่งสุริยันอย่างเบิกบาน ดังที่มีคนกล่าวว่าหลังฝนตกท้องฟ้าย่อมสดใส ธรรมชาติก็มีส่วนทำให้จิตใจของมนุษย์สดชื่นไปด้วย ยกเว้นแต่ใครบางคนที่กำลังมองหาทางออก ถูกความโลภบังตา ตัณหาบังใจ จนมองไม่เห็นความงดงามแห่งธรรมชาติที่แต่งแต้มเติมสีให้โลกนี้งดงามน่าอภิรมย์
เดินมองแสงแห่งดวงตะวันที่โผล่พ้นทิวไม้มองเห็นดวงกลมโตสีส้มอมม่วง คิดเล่นๆในใจคนเดียวว่าวันนี้ดวงอาทิตย์เหมือนมีชีวิต ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเดินเข้ามาทักทาย ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปสักพักพอได้โอกาสจึงเริ่มเข้าเรื่องที่ตนเองต้องการทันที เหมือนขอคำปรึกษาหรือปรารภให้ฟังก็ยากจะคาดเดา
“ท่านมหาครับโรงเรียนจะเปิดเทอมแล้ว ผมมีเงินไม่พอที่จะซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้แก่ลูกๆที่จะต้องไปโรงเรียนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่รู้จะบากหน้าไปหาใคร ท่านมหาพอจะรู้จักแหล่งเงินกู้ที่ดอกเบี้ยน้อยไหมครับ”
พอได้ยินถ้อยคำที่ชายคนนั้นปรารภขึ้นอย่างนั้น จึงบอกว่า “อาตมาเองก็ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินเท่าไหร่ มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ไม่พยามเป็นหนี้ใคร ไม่ให้ใครยืมเงินเพราะมีเงินไม่มากพอที่จะให้ใครยืม เป็นประเภทมีเงินจึงใช้และใช้เท่าที่มี เมื่อไม่มีก็ไม่ใช้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะการเป็นหนี้เป็นทุกข์อย่างหนึ่ง การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก
ชายคนนั้นยังกล่าวต่อไปว่า “อันที่จริงเมื่อไม่กี่วันก่อนก็พอมีนะครับขาดอีกไม่กี่พันบาท แต่เพราะความโลภของผมแท้ๆอยากได้เงินให้มากขึ้น พอดีมีเพื่อนบอกว่าหวยงดที่ผ่านมามีอาจารย์ดี บอกถูกติดต่อกันมาสองงวดแล้ว งวดนี้เป็นงวดสุดท้าย หากอยากจะได้เงินให้ลงทุนซื้อหวยงวดนี้ จะได้เงินมากพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของลูกๆ ผมหลงเชื่อเพราะความโลภบังตา ตัณหาบังใจแท้ๆ ผมจึงนำเงินมาซื้อหวย หมดตัวเลยครับ พอหวยออกมาที่บอกว่าหวยเด็ดไม่มีสักตัว ไม่รู้จะไปโทษใคร นอกจากโทษความโง่ของตัวเองที่ไปหลงเชื่อคำโฆษณา”
ท่านมหายืนฟังเงียบๆรอดูว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป ซึ่งก็รอไม่นาน ชายคนนั้นสาธยายต่อไปว่า “ขอสารภาพว่าผมเล่นหวยมาทุกงวดครับ แต่ไม่มากนัก คนขายรู้จักคุ้นเคยกัน เขาให้เชื่อไว้ก่อนได้ ก่อนถึงวันหวยออกค่อยจ่ายครับ เรียกว่างวดต่องวด บางงวดก็ขอผ่อนผันไปในงวดต่อๆไปได้ หากโชคดีถูกหวยสักงวดก็จะหักลบกลบหนี้กันได้ ผมจึงเล่นมาเรื่อยๆ พอคิดจะหยุดเล่นเพื่อนก็จะโทรศัพท์มาถามว่างวดนี้จะซื้ออะไร ผมเกรงใจเพื่อนด้วย ติดหนี้ตั้งแต่งวดที่ผ่านมาจึงต้องเล่นต่อไป นานๆเข้าจึงรู้ตัวว่าขาดไม่ได้ต้องเล่นไม่มากก็น้อย แต่งวดที่ผ่านมานี่สิครับ มีหวยเด็ดมาจากหลายทาง ต่างก็ยืนยันว่าแม่นและต้องได้เงินแน่นอน ผมกำลังอยากได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายลูกๆที่กำลังจะเปิดเทอมพอดี ความโลภจึงบังตา หมดเนื้อหมดตัวเลยครับ”
“ปลาตายเพราะกินเหยื่อ คนถูกเบื่อเพราะอามิสแท้ๆ” ท่านมหารำพึงกับตัวเอง
ชายคนนั้นกล่าวขึ้นว่า “ผมมาเล่าให้ท่านมหาฟังและขอคำแนะนำแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำ หรือหากเป็นไปได้ผมขอยืมเงินท่านมหาไปก่อน สิ้นเดือนเงินเดือนออกจะรีบมาจ่ายคืนทันที”
ท่านมหาจึงบอกไปว่า “อาตมาเองก็ไม่ค่อยมีเงินเก็บ ไม่ทำประกันชีวิต ไม่มีเงินฝากธนาคาร หนี้อาจจะพอมีบ้างแต่ไม่มาก เงินพอมีแต่พอสำหรับค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่ารถไปทำงานวันหนึ่งก็ต้องใช้เงินหลายร้อยบาท จากกรุงเทพฯเขตบางซื่อไปศาลายา นครปฐมอาทิตย์ละห้าวัน ค่ารถแท็กซี่ไปกลับก็แทบจะไม่เหลือแล้ว บางเดือนก็ต้องยืมเงินวัดเหมือนกัน มีคนบอกว่าการเป็นหนี้แสดงว่าเครดิตดี แต่อาตมายอมเป็นคนไม่มีเครดิตดีกว่าจะเป็นหนี้”
คนส่วนหนึ่งเพราะความโลภเป็นเหตุจึงเกิดอาการ “ความโลภบังตา ตัณหาบังใจ” ค่อยๆจมลงไปในหล่มคือความอยาก จนยากจะถอนตัวขึ้นจากหล่มคือกิเลสได้
คำว่า “โลภ” แปลว่าความอยาก ความดิ้นรน ส่วน “ตัณหา” แปลว่าความอยาก ความกระหาย ความดิ้นรน โดยสรุปตัณหามีสามอย่างคือ “กามตัณหา” หมายถึงความทะยานอยากในกาม ความอยากในกามคุณ สิ่งที่สนองความต้องการทางประสาททั้งห้า “ภวตัณหา” หมายถึงความทะยายอยากในภพ ความอยากในภาวะตัวตนที่จะได้ จะเป้นอย่างใดอย่างหนึ่ง อยากเป็นอยากคงอยู่ตลอดไป “วิภวตัณหา” หมายถึงความอยากในวิภพ ความอยากในความพรากพ้นไปแห่งตัวตนจากความความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งอันไม่ปรารถนา อยากทำลาย อยากให้ดับสูญ มีผู้สรุปความหมายของตัณหาทั้งสามประการไว้สั้นๆว่า “อยากให้มา อยากให้อยู่ อยากให้ไป” ซึ่งก็ใกล้เคียงกับความหมายของตัณหา
ทั้ง “โลภ” และ “ตัณหา”สองคำนี้มีความหมายใกล้เคียงกัน ความโลภเป็นตัณหาอย่างหนึ่งอยู่ในสาย “กามตัณหา” ความโลภและความยากเป็นกิเลสอย่างหนึ่งอยู่ในหมวดของ “สมุทัย” เหตุให้เกิดทุกข์ การที่ชายคนนั้นบอกว่า “เล่นหวยจนถอนตัวไม่ขึ้น” เพราะมันมีความต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรให้เขาเลิกเล่นหวย เพราะมันมีขายเกลื่อนเมือง หลอกล่อให้คนเล่นเพราะผลตอบแทนได้มากกว่าเงินที่ลงทุนเป็นร้อยเท่าพันเท่า จนทำให้คนเกิดความโลภอยากได้ ในที่สุดบางคนก็แทบจะหมดเนื้อหมดตัว
การถอนตนจากหล่มนั้นมีพุทธภาษิตแสดงไว้ในนาควรรค ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท(25/33/49)ความว่า “จงถอนตนขึ้นจากหล่มคือกิเลสที่ถอนได้ยาก ดุจกุญชร(ช้าง)ผู้จมแล้วในเปลือกตมถอนตนขึ้นได้ฉะนั้น” การพนันนั้นเหมือนหล่มที่ดึงคนให้ตกลงไป หากไม่เริ่มต้นโดยการหยุดเล่นก็ยากที่จะถอนตัวขึ้นจากหล่มคือการเล่นหวยได้ ชายคนนั้นลาจากไปแล้ว มองเห็นเพียงเงาหลังที่เริ่มจะค้อมต่ำลงเหมือนกำลังแบกภาระที่หนักอึ้งไว้บนบ่า
แดดยามเช้าแผดแสงแรงร้อนขึ้นเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์มีความเที่ยงตรงได้เวลาก็โผล่ขึ้นตามปรกติ ไม่เคยอิดออดว่าอ่อนล้าสิ้นเรี่ยวแรงจึงลาพักร้อน อีกไม่นานก็เที่ยงวันจากความงามก็กลายเป็นความร้อน และเมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงไปก็ถึงสายัณหสมัย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าปรากฏเป็นความมืดมิดแห่งรัตติกาล โลกนี้มีสองด้านคือสว่างและมืดเฉกเช่นกับดวงอาทิตย์ที่มีกลางวันและกลางคืน ชีวิตมนุษย์ก็เฉกเช่นดวงตะวันยามเช้าเปรียบเหมือนวัยเด็กและหนุ่มสาวมักจะสวยงามมองโลกสดใสสวยงาม พอเท่ี่ยงวันก็อยู่ในวัยกลางคนต้องทำงานหนักเพราะมีภาระรับผิดชอบมากชีวิตจึงรีบเร่งทำงานเกรงว่าวัยจะล่วงเลยและผ่านไปย่างเข้าสู่วัยชรา อาทิตย์ยามเย็นเหมือนคนในวัยชราโลกเริ่มมืดมิดลง มนุษย์อายุมากขึ้น แต่วันเวลาในโลกเหลือน้อยลง เหมือนแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ส่วนผู้ที่ตกลงไปในหล่มแห่งกิเลสหากไม่รีบตนตนขึ้นจากหล่มโคลนนั้น นับวันมีแต่จะจมลงไปเรื่อยๆ จนลืมตนถอนตัวไม่ขึ้น เหมือนดวงอาทิตย์ที่ถูกเมฆหมอกบดบังจนมองไม่เห็นแสงสว่าง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
17/05/55