แม่น้ำเจ้าพระยาแม้จะมีปริมาณที่ลดลงไปมากจนมองเห็นสองฟากฝั่งได้ชัดเจน แต่ก็ยังมีกระแสน้ำไม่ขาดสาย เรือโยงขนถ่ายสินค้ายังคงมีให้เห็นไม่ขาดสาย นานๆจะได้ยินเสียงเพลงจากเรือสักลำแว่วมาตามสายลม แต่ฟังไม่ค่อยชัด รู้แต่ว่าเป็นเสียงเพลง อย่างน้อยก็สามารถรับรู้ได้ว่า ผู้คนเหล่านี้ยังคงมีความสุข เพราะเสียงเพลงส่วนมากจะบ่งบอกถึงการมีความสุข เรือด่วนเจ้าพระยายังทำหน้าที่รับส่งผู้โดยสารจอดท่านั้นท่านี้ตามแต่จะมีคนโดยสารลงจากเรือ
ท่าเรือนอกจากจะเป็นที่รอเรือโดยสารแล้ว บางแห่งยังเป็นที่พักผ่อนของคนอีกกลุ่มหนึ่ง บางคนตกปลา บางกลุ่มนั่งคุยกัน วันนั้นมีธุระที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ จึงนั่งเรือข้ามฝากจากท่าน้ำศิริราช ปลายทางอยู่ที่นนทบุรี แต่พอเรือผ่านท่าเรือข้ามฟาก ตรงข้ามกับวัดอาวุธวิกสิตาราม เกิดเปลี่ยนใจอยากจะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่จำพรรษาที่วัดอาวุธฯสักหน่อย ไม่ได้พบกันนานแล้ว
ขณะที่ยืนรอเรือข้ามฝากอยู่นั้นหันไปเห็นชายวัยชราท่านหนึ่งกำลังมองตึกสูงตระหง่านที่อยู่อีกฝากหนึ่งของแม่น้ำ เงาจากตัวตึกสะท้อนแสงอาทิตย์ในยามเย็นมองดูเป็นเงาทะมึน ทาทับกับสายน้ำเจ้าพระยา แต่พอมีเรือด่วนผ่านไปก็เกิดเป็นภาพหักเห เงาตึกในสายน้ำหายไป จนกระทั่งน้ำนิ่งจึงมองเห็นภาพอีกครั้ง ประกายจากแสงแดดยามเย็นกระทบผิวน้ำงดงามอย่างประหลาด
ชายชรากำลังนั่งมองตัวตึกพลางร้องเพลงออกมาเบาๆ “พี่เป็นหนุ่มลุ่มเจ้าพระยา ล่องเรือไปขายค้า เดินทางมาหลายร้อยกิโล.........” แต่พอหันมาเห็นหลวงตาไซเบอร์ฯกำลังยืนมองอยู่ชายชราก็หยุดร้องเพลง หันมายกมือไหว้และยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะถามว่า “หลวงตาจะไปไหนครับ” จึงตอบไปว่า “จะข้ามไปฝั่งโน้น ไปเยี่ยมเพื่อน เสียงดีนี่ร้องต่อไปสิ เพลงนี้ไม่ค่อยได้ฟัง”
ชายชราตอบว่า “ไม่หละครับ ผมมีความหลังกับเพลงนี้มากเกินไป ร้องเมื่อไหร่น้ำตาจะจะไหลทุกที ชีวิตผมก็ไม่ได้ต่างจากเพลงเท่าไหร่หรอกครับ”
เห็นว่าเรือข้ามฝากยังไม่มาจึงถามชายชราว่า “อดีตเป็นคนล่องเรือหรืออย่างไร”
ชายชราตอบว่า “เคยเป็นทั้งคนล่องเรือ เป็นกรรมกรก่อสร้าง เป็นคนสวน เคยไปทำงานต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเป็นคนเก็บขยะขายครับ”
หลวงตาจึงบอกว่า “น่าสนใจ เป็นยังไงมายังไงถึงมานั่งมองตึกอันสูงตระหง่านอยู่นี่เล่า”
ชายชรามองไปที่เรือข้ามฝากที่เข้าเทียบท่าพอดี พลางหันมาเหมือนกำลังจะบอกว่าเรือมาแล้ว
หลวงตาไซเบอร์ฯจึงบอกว่า “ไม่เป็นไร เรือยังมีอีกหลายเที่ยว ไปเมื่อไหร่ก็ได้ อาตมาไม่รีบร้อนอะไร ชีวิตบางครั้งก็ต้องเดินช้าลงบ้าง จะรีบร้อนไปทำไม”
ชายชราจึงเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงช้าๆว่า “หลวงตาเห็นตึกสูงนั่นไหมครับ ตึกนั้นผมสร้างมากับมือใช้เวลานานกว่าห้าปี ก่อนที่ตึกนั้นจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ เป็นเวลาห้าปีที่ผมรู้สึกว่าไม่ตกงาน เพราะมีงานให้ผมทำทุกวัน ผมเป็นช่างปูนนะครับ แต่วันหนึ่งเพราะความประมาทผมกำลังก่ออิฐอยู่ดีๆก็มีวัสดุอย่างหนึ่งหล่นลงมา ผมหลบไม่ทัน มันตกใส่ขาผมจนหักครับ ผมเลยกลายเป็นคนพิการ เพราะตึกหลังนี้แหละครับ แค้นใจตัวเองที่ไม่ระวังให้ดี จากวันนั้นมาผมเลยกลายเป็นคนตกงาน ผมสร้างตึกแท้ๆแต่กลับไม่มีบ้านเป็นของตัวเองอยู่เลย”
หลวงตาจึงบอกว่า “งานใครงานมัน คนสร้างก็รับเงินค่าจ้าง คนอยู่ก็ต้องจ่ายค่าเช่า แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนเหมือนกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนต่างก็ต้องมีอาชีพของแต่ละคนแตกต่างกันไป”
“สมัยที่ผมเป็นคนงานรับจ้างขนทรายจากกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ ตอนนั้นยังหนุ่มจึงมีสาวๆมาชอบหลายคนและผมก็ตกลงมีครอบครัวกับสาวคนหนึ่งที่นครสวรรค์ จนมีลูกด้วยกันหนึ่งคน แต่เพราะความไม่รักดีของผมนี่เองจึงทำให้ต้องเดินทางหางานทำและในที่สุดผมก็ต้องทิ้งครอบครัว ภรรยาผมก็ไปแต่งงานใหม่ ส่วนผมเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน ตอนนั้นมีเงินมากครับ จึงเที่ยวอย่างเต็มที่ เงินมันหาง่ายจึงใช้ง่ายไปด้วย หากผมเก็บเงินไว้ป่านนี้คงอยู่สบายไปแล้ว” ชายชรายังมองสายน้ำและเล่าอัตชีวประวัติของตนเองไปเรื่อยๆ
คนหนุ่มกับความฝันเป็นของคู่กัน “ตอนเป็นหนุ่มผมฝันไว้ตั้งหลายอย่าง ทำงานหาเงินซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่งงานมีครอบครัว ส่งลูกเรียนหนังสือสูงๆ แต่ผมทำไม่ได้สักอย่าง เพราะเงินที่ได้มาหมดไปกับการเที่ยวเตร่เฮฮาตามประสาคนหนุ่ม ได้มาก็หมดไป จึงไม่เคยทำความฝันให้เป็นจริงได้เลย” ชายชราหยุดเหมือนกำลังนึกย้อนถึงอดีต
ชายชรายังคงพูดต่อไปส่วนหลวงตายืนฟังเรื่องราวของชายชราคนนั้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าเรือข้ามฝากจะผ่านมาผ่านไปหลายรอบแล้ว หลวงตาก็ยังไม่ยอมขึ้นเรือข้ามฝากจากไปสักที ยังอยากฟังเรื่องที่มีคนอยากเล่า อย่างน้อยก็ทำให้คนเล่าเรื่องมีความสุข ดูเหมือนว่าชายชราคนนั้นจะไม่เปิดโอกาสให้หลวงตาได้โต้ตอบเลย เขายังคงเล่าเรื่องราวของตัวเองต่อไป
แม่น้ำเจ้าพระยายังคงทำหน้าที่อย่างสัตย์ซื่อไหลเอื่อยต่อไปเหมือนไม่เคยสิ้นเรี่ยวแรง ในขณะที่ชีวิตชายชรากำลังอ่อนล้าและเรี่ยวแรงเหลือน้อยลงทุกวัน เรือลากโยง เรือด่วน เรือข้ามฝาก ลำแล้วลำเล่าผ่านมาผ่านไป เกิดเป็นระรอกคลื่นเข้ากระทบฝั่ง ก่อนจะสงบนิ่ง แต่ไม่นานก็ต้องมีคลื่นมาอีกครั้ง ชีวิตมนุษย์ไยไม่เป็นเฉกเช่นกับแม่น้ำ ดำเนินต่อไปท่ามกลางกระแสคลื่นที่มากระทบ บางครั้งเป็นอุปสัคที่คอยขัดขวางไม่ให้เดินหน้าได้อย่างสะดวกเหมือนคลื่นที่เกิดจากแม่น้ำ แต่บางครั้งชีวิตก็สงบเงียบเหมือนแม่น้ำที่ปราศจากคลื่น
สิ่งที่คอยขัดขวางมนุษย์ไว้พระพุทธศาสนาเรียกว่า “มาร” แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ให้ตาย” หรือ “มาร” แปลตามความหมายได้แก่ “สิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากคุณความดีหรือจากผลที่หมายอันประเสริฐ สิ่งที่ล้างผลาญความดี ตัวการที่กำจัดหรือขัดขวางบุคคลมิให้บรรลุผลสำเร็จอันดีงาม”
การดำเนินชีวิตจึงไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ย่อมมีอุปสัคนานาประการคอยขัดขวาง แต่หากเราอยู่กับ “มาร” อย่างเข้าใจ มารก็เหมือนคลื่นในแม่น้ำที่คอยรบกวนให้น้ำไม่สงบนิ่ง คลื่นกับแม่น้ำเป้นของคู่กัน มารกับชีวิตมนุษย์ก็เป็นของคู่กัน ชีวิตมนุษย์ก็ต้องคอยผจญกับคลื่นที่สาดชัดเข้ามา ต้องยอมรับมัน เข้าใจมัน แม้น้ำยังมีเวลาสงบนิ่ง ชีวิตมนุษย์ก็ต้องมีวันสงบนิ่งได้เหมือนกัน ชีวิตของสมณะก็มีคลื่นที่เรียกว่าความคับแค้นใจด้วยอำนาจแห่งความโกรธคอบรบกวน ดังที่แสดงไว้ในจาตุมสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ (13/190/155) ความว่า “เมื่อบุคคลกำลังลงน้ำพึงหวังได้ภัยสี่อย่างคือภัยเพราะคลื่น ภัยเพราะจระเข้ ภัยเพราะน้ำวน ภัยเพราะปลาร้าย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยสี่อย่างนี้แล เมื่อบุคคลกำลังลงน้ำ พึงหวังได้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยสี่อย่างนี้ก็ฉันนั้น เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้ออกบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยนี้ พึงหวังได้ภัยสี่อย่างคือ ภัยเพราะคลื่น ภัยเพราะจระเข้ ภัยเพราะน้ำวน ภัยเพราะปลาร้าย”
คลื่นในพระสูตรนี้หมายถึงความคับแค้นใจด้วยอำนาจแห่งความโกรธ จระเข้หมายถึงความเห็นแก่ปากท้อง น้ำวนหมายถึงกามคุณทั้งห้า และปลาร้ายหมายถึงมาตุคาม หากเมื่อใดความโกรธเกิดขึ้นภายในจิตใจพึงรู้ว่าตอนนั้นกำลังถูกคลื่นมากระทบเข้าแล้ว ความโกรธต้องเก็บไว้ภายใน ส่วนความดีใจแสดงออกภายนอกได้
เรือข้ามฝากผ่านมาอีกรอบแล้ว จึงบอกลาชายชราคนนั้น ได้เวลาที่จะต้องเดินทางแล้ว ชีวิตของคนๆหนึ่งก็เหมือนนิยายเรื่องหนึ่ง แต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน อดีตช่างปูนกรรมกรก่อสร้างและคนเก็บขยะชราคนนั้นเคยเป็นผู้สร้างตึกที่สูงตระหง่าน มีห้องหับนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีสักห้องที่ว่างพอที่จะให้ชายชราคนสร้างตึกคนนั้นได้ครอบครองเป็นเจ้าของตึกที่ตัวเองสร้าง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
01/05/55
พบรักปากน้ำโพ
{youtube}a0Im6VRxc0Q&feature=related{/youtube}
พบรักปากน้ำโพ
{youtube}aESCKfNrAac{/youtube}