ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         สงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว ช่วงนี้กลับคืนสู่สภาวะแห่งความเป็นธรรมดา ต้องกลับมาทำงานตามหน้าที่กันต่อไปใครมีหน้าที่อะไรก็ว่ากันไป หน้าที่นั้นแม้จะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ แต่เมื่อรับหน้าที่มาแล้ว กินข้าวเขาแล้วก็ต้องยอมให้เขาใช้ เหมือนบรรดาเหล่าข้าราชการทั้งหลายรับเงินเดือนเขาแล้ว จะบอกว่าไม่อยากทำไม่ได้ การงานและการใช้ชีวิตต้องแยกกันให้ออก ถึงเวลาทำงานก็ต้องทำ ส่วนการใช้ชีวิตก็ต้องควบคู่กันไปด้วย หากคิดเสียว่าเรายังโชคดีที่ได้มีโอกาสได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ในขณะที่อีกหลายร้อยชีวิตพลันหายสาบสูญไปกับสงกรานต์ไม่มีโอกาสได้กลับมาทำงานและใช้ชีวิตอีกเลย
 

         มีเวลาว่างเพราะหยุดงานหลายวัน งานอื่นไม่มีนอกจากอ่านหนังสือ หันไปดูโทรทัศน์บ้างในบางครั้ง ในห้องแคบๆมีเพียงตัวเราคนเดียว ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันหนังสือก็อ่านไม่จบสักเล่ม โทรทัศน์ก็ดูไม่ต่อเนื่องเพราะขี้เกียจและเบื่อกับโฆษณาขายสินค้าที่มีมากกว่ารายการที่ดูเสียอีก เมื่อทำอะไรได้ไม่เต็มที่จึงหันกลับมาพิจารณาตน ไตร่ตรองมองตน ปิดโทรทัศน์ ปิดหนังสือจากนั้นก็เริ่มพิจารณาอารมณ์จากลมหายใจของตนเอง


         จะเอาอะไรนักหนากับชีวิตเกิดมาแล้วก็ต้องตายสลายไปกับอากาศธาตุ หากไม่ทำความดีไว้ เมื่อจากโลกนี้ไปจะมีอะไรติดตัวไปด้วยเล่า ร่างกายก็ต้องถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน วิญญาณก็ไม่รู้จะไปทางไหน นอกจากจะไปตามบุญกรรมที่ทำไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ อยากเป็นอะไรอยากจะไปไหนเริ่มต้นที่จิตของเราเอง
         ควันธูปที่จุดบูชาพระลอยอ้อยอิ่งขึ้นเบื้องบน แม้ว่าบางครั้งจะถูกลมพัดลอยไปตามทิศทางลม แต่เมื่อยู่ในสภาวะปรกติลมสงบ ควันธูปก็จะลอยขึ้นเบื้องบนเหมือนเดิม จากนั้นก็หายไปกับอากาศธาตุ ตามธรรมชาติควันธูปจะลอยขึ้นเบื้องบนเสมอ
         ชีวิตก็ต้องก้าวไปข้างหน้า ธรรมชาติภายในมักจะคิดอยากทำความดีเสมอ แต่โอกาสและสภาพแวดล้อมบางครั้งก็ต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ควันธูปบอกให้เราทราบว่าชีวิตต้องมุ่งตรงสู่ความดีสูงสุดอันเป็นเหมือนของสูง ส่วนกระแสลมที่พัดพาให้ควันธูปเปลี่ยนทิศทางนั้นก็เหมือนโลกธรรมที่คอยกระหน่ำนำพาให้ชีวิตเดินผิดทางอยู่เรื่อยไป โลกนี้ย่อมมีลมเสมอ วันใดที่ไม่มีลมพัดเลยวันนั้นจะร้อนมาก ลมทำให้เย็นสบาย แต่ลมก็มักจะทำให้สิ่งทั้งหลายเปลี่ยนแปลงไปในอีกเส้นทางหนึ่ง ได้ข่าวมีแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย และอาจจะมีสึนามิสะเทือนมาถึงเมืองไทยด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธาตุลม ธาตุดินและธาตุน้ำไม่ปรกติ โลกก็สะเทือน หากลมเปลี่ยนทิศชีวิตก็เปลี่ยนไป เหมือนควันธูปที่ปรกติจะลอยขึ้นเบื้องบน แต่เมื่อถูกลมพัดพาก็จะเกิดความแปรปรวนไปตามทิศทางลม

 

         หันไปดูดอกไม้หน้าแท่นบูชาพระซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามในเทศกาลสงกรานต์ พอผ่านไปเจ็ดวัน ดอกไม้นั้นก็เหี่ยวแห้ง ไม่สดชื่นงดงามเหมือนในวันแรกๆต้องนำไปทิ้ง บางงานมีดอกไม้ประดับตกแต่งมากมาย มองดูแล้วสวยงาม นอกจากจะประดับตกแต่งให้มีความงามแล้ว ยังปกปิดสิ่งบางอย่างที่ไม่น่ามอง คนส่วนมากมักจะมองแต่ด้านหน้ามองในสิ่งที่เขาอยากให้เห็น มีน้อยคนที่จะไปดูด้านหลัง ซึ่งบางครั้งเบื้องหลังความงดงามนั้นจะมีอะไรที่ไม่น่าดู หากมีการร้อยเรียงจัดวางให้ถูกที่ดอกไม้นั้นจะสวยงามเหมือนธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ร้อยเรียงเหล่าพุทธสาวกอยู่งดงามน่าดูด้วยธรรมวินัย ดังที่พระพุทธองค์ได้ตอบคำถามของพระสารีบุตรดังที่ปรากฏในวินัยมหาวิภังค์ (1/7/9) ความว่าพระสารีบุตรถามว่า “อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี  พระนามสิขี และพระนามเวสสภู ไม่ดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า”

 

         พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบพระสารีบุตรว่า “ดูกรสารีบุตร พระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี พระนามสิขี และพระนามเวสสภูทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวกทั้งหลาย อนึ่ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ของพระผู้มีพระภาคทั้งสามพระองค์นั้นมีน้อย สิกขาบทก็มิได้ทรงบัญญัติ ปาติโมกข์ก็มิได้ทรงแสดงแก่สาวก เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลันดูกรสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากองไว้บนพื้นกระดาน ยังไม่ได้ร้อยด้วยด้าย ลมย่อมกระจาย ขจัด กำจัด ซึ่งดอกไม้เหล่านั้นได้ ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะเขาไม่ได้ร้อยด้วยด้ายฉันใด เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้นเพราะอันตรธานแห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงยังพระศาสนานั้นให้อันตรธานโดยฉับพลัน ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรง  กำหนดจิตของสาวกด้วยพระหฤทัย แล้วทรงสั่งสอนสาวก”

 

         ดอกไม้แม้มาจากแหล่งกำเนิดที่ต่างกัน แต่เมื่อนำร้อยเรียงจัดวางรวมกันก็ทำให้ดูสวยงาม เหมือนหมู่พุทธสาวกแม้จะมาจากกำเนิดชาติพันธุ์ที่แต่งกันแต่เมื่อถูกร้อยเรียงด้วยธรรมวินัยอันเดียวกันก็ทำให้งดงามน่าดูพระสงฆ์อยู่ได้เพราะธรรมวินัย ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นยศถาบรรดาศักดิ์เป็นเรื่องที่มาทีหลัง แม้จะไม่มีสมณศักดิ์ใดๆพระสงฆ์ก็อยู่ได้ด้วยพระธรรมวินัยอยู่แล้ว
         ดอกไม้หากเด็ดจากขั้วตามปรกติจะอยู่ได้ไม่นาน ชีวิตมนุษย์ก็เฉกเช่นดอกไม้อ่อนแก่และแห้งเหี่ยวร่วงโรยไปตามกาลเวลา วัยเด็กเหมือนดอกไม้ที่กำลังตูมมองดูสดชื่นมีชีวิตชีวารอวันเบ่งบานและโตเต็มที่ พอเบ่งบานก็งดงามเหมือนวัยหนุ่มสาวที่มองไปทางไหนมีแต่ความสวยงาม ชีวิตมีความฝัน แต่พอความฝันนั้นเป็นความจริงคือได้ทำงานตามที่อยากทำแล้ว ก็มักจะเบื่อหน่าย คนเราส่วนหนึ่งเบื่อง่ายหน่ายเร็ว ดอกไม้เมื่อเบ่งบานเต็มที่แล้วแม้จะไม่มีใครเด็ดจากขั้วสักวันหนึ่งก็ต้องเหี่ยวแห้งและหล่นจากขั้ว ชีวิตก็เฉกเช่นเดียวกันพอถึงวัยที่มีอายุมากขึ้นก็เริ่มเหี่ยวแห้งและโรยรารอวันปลิดปลงลงสู่ดิน
         ไฟจากเปลวเทียนลุกไหม้ตามปรกติค่อยๆละลายต้นเทียนไปทีละน้อย เปลวเทียนให้แสงสว่างแต่ก็ทำลายต้นเทียนไปในขณะเดียวกัน ไฟให้แสงสว่างแต่ก็กัดกินต้นเทียนไปด้วย  ชีวิตมนุษย์ทำงานก็เพื่อทำมาหากิน ได้เงินมาเพื่อแลกกับอาหารและเครื่องใช้อื่นๆ ชีวิตแรงกายและแรงใจที่ทำงานไปถูกเหมือนถูกเผาไปทีละน้อย ร่างกายย่อมค่อยทรุดโทรมไปตามวัยและกาลเวลา หมดแรงก็หมดไฟในการทำงาน

 

         ดอกไม้ควันธูปและเปลวเทียน มักจะมีให้เห็นในงานพิธีต่างๆ ดอกไม้บูชาพระ เทียนจุดเพื่อให้แสงสว่างบูชาพระ ธูปมีกลิ่นหอมจุดเพื่อบุชาพระเหมือนกัน แต่หากสังเกตให้ดีในสามสิ่งนั้นจะมีคำสอนสอดแทรกอยู่ในนั้นด้วย เป็นคำสอนที่สอนโดยไม่ต้องใช้คำพูด ต้องใช้ปัญญาพิจารณาเอาเอง 
         พิจารณาและไตร่ตรองมองตนจากสิ่งที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้า ดอกไม้บูชาพระมาหลายวันตอนนี้เริ่มเหี่ยวแห้งแล้วเหมือนชีวิตเราเองที่กำลังอับเฉาโรยรา ดอกไม้อยู่ได้เจ็ดวัน แต่ชีวิตเราตอนนี้หากเปรียบกับดอกไม้ก็น่าจะเป็นวันที่ห้าแล้วเหลืออีกเพียงสองวันก็จะต้องทอดทิ้งคืนกลับลงสู่ดิน
         ควันธูปถูกกระแสลมพัดพาไม่มีทิศทางเหมือนชีวิตเราที่กำลังถูกคลื่นแห่งโลกพัดพาไปโดยไร้ทิศทางแม้จะพยายามมองตรงไปยังเบื้องบแต่สภาพแวดล้อมจากงานที่ทำเหมือนกระแสลมที่พัดพาไปตามโลกธรรม หากยังทำงานกับคนหมู่มากก็ต้องยอมรับสภาพที่จะต้องถูกกระทบบ้าง โบราณว่าไว้ว่า “คนรักเท่าผืนหนัง คนขังเท่าผืนเสื่อ” จะทำงานให้ถูกใจคนทุกคนไม่ได้

 

         เปลวไฟจากเทียนค่อยๆลุกไหม้ลามลงตามต้นเทียนไปเรื่อยๆ ไฟหมดเชื้อก็มอดดับเหมือนชีวิตที่ยังมีร่างกายที่เป็นเหมือนเชื้อที่ยังไม่หมดแรงก็ต้องดำเนินต่อไป หากเมื่อใดร่างกายถูกโรคร้ายรุมเร้าก็จะต้องหมดเชื้อเปลวไฟในหัวใจก็มอดดับไปด้วย ช่วงนี้ร่างแม้ภายนอกจะดูเป็นปรกติแต่ทว่าภายในไม่อาจทราบได้ว่าจะมีโรคร้ายอะไรคอยกัดกร่อนให้ทรุดโทรมไป ร่างกายย่อมผุพังไปทุกวันและเป็นรังของโรคอยู่แล้ว
         ดอกไม้เหี่ยวแห้งแล้ว ธูปถูกไฟไหม้จนหมดไปหลายดอกแล้ว เมื่อไม่มีไฟก็ไร้ควัน เทียนก็มอดดับไปหลายลเมแล้วเช่นกัน แต่ลมหายใจยังคงมีอยู่ เป็นเวลาห้าวันมาแล้วยังไม่ได้เดินทางออกไปไหนเลย ไตร่ตรองมองตนอยู่ภายในที่พักคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย อยู่กับดอกไม้ ควันธูปและเปลวเทียน วันนี้ได้เวลาออกไปเผชิญโลกพร้อมที่จะเริ่มต้นทำงานในหน้าที่อีกอย่างหนึ่งแล้ว

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
18/04/55

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก