ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

          ในการศึกษาพุทธประวัติตั้งแต่สมัยที่อุปสมบทใหม่ๆนั้น แม้จะอ่านจะศึกษาอย่างไรก็นึกภาพไม่ออกเพราะไม่เคยเห็นสถานที่จริงมาก่อน พระอาจารย์ผู้สอนก็ไม่เคยเดินทางไปยังสถานที่จริงมาก่อนเหมือนกัน แต่ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานกว่าสองพันกว่าปี สถานที่ย่อมจะต้องแปรเปลี่ยนไปจากสภาพจริงในอดีต การไม่เคยไปดูสถานที่จริงทำให้เกิดจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสามารถนึกภาพจากตัวอักษรได้ ภาพทุกภาพจึงเป็นภาพในจินตนาการที่แสนบรรเจิด แม้จะศึกษาจากตำราเล่มเดียวกันแต่ภาพร่างในจิตใจของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
 

          มีความคิดอยู่ในใจตั้งแต่บวชพรรษาแรก แม้ว่าตอนนั้นจะไม่ได้คิดว่าจะบวชอยู่นาน ว่าหากมีโอกาสจะต้องเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดียให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ทว่าการเดินทางไปอินเดียครั้งแรกนั้นไปที่เมืองหลวงคือเดลี ต้องรอเวลาเกือบครึ่งปีจึงได้มีโอกาสไปเยือนสังเวชนียสถาน แต่การเดินทางไปครั้งแรกไปได้เพียงสามแห่งคือสถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน สำหรับสถานที่ประสูติซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศเนปาลนั้นเดินทางไปไม่ถึง ต้องรอเวลาอีกนานหลายปีจึงได้เดินทางไปถึงสถานที่จริงๆ

ลุมพินี


          ยุคสมัยปัจจุบันการเดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเหมือนในอดีต เพียงแต่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินก็สามารถเดินทางไปยังดินแดนที่อยากไปแล้ว สำหรับสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้านั้น แม้จะเดินทางไปหลายครั้งแต่ก็ยังอยากไป เพราะทุกครั้งที่ได้ไปเยือนยังสถานที่จริงเหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ในเวลาก่อนที่พระพุทธองค์ใกล้จะปรินิพพาน พระอานนท์ได้แสดงความอาลัยต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าว่าเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วจะไม่ได้เห็น ไม่ได้เข้าไปนั่งใกล้พระพุทธเจ้าแล้วดังข้อความที่ปรากฎในมหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค (10/131/113) ความว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อน พวกภิกษุผู้อยู่จำพรรษาในทิศทั้งหลายย่อมมาเพื่อเฝ้าพระตถาคต พวกข้าพระองค์ย่อมได้เห็น ได้เข้าไปนั่งใกล้ภิกษุเหล่านั้นผู้ให้เจริญใจ ก็โดยกาลล่วงไปแห่งพระผู้มีพระภาค พวกข้าพระองค์จักไม่ได้เห็น ไม่ได้เข้าไปนั่งใกล้ พวกภิกษุผู้ให้เจริญใจ”

พุทธคยา

 

          พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้แสดงสังเวชนียสถานสี่ตำบลว่าหากพุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสได้ไปนมัสการจะได้ไปสวรรค์ดังข้อความว่า “ดูกรอานนท์ สังเวชนียสถานสี่แห่งเหล่านี้ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา สังเวชนียสถานสี่แห่งคือ 
            (1) สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ 
          (2)สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้     
          (3)สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตทรงยังอนุตตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้
          (4)สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตาม ระลึกว่า พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในที่นี้  

สารนาถ

 

          สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้แล เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ดูกรอานนท์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จักมาด้วยความเชื่อว่าพระตถาคตประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ก็ดี พระตถาคตทรงยังอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ก็ดี พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้ก็ดี ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยวจาริกไปยังเจดีย์ มีจิตเลื่อมใสแล้ว จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์” 
          นั่นเป็นข้อความที่ปรากฎในมหาปรินิพพานสูตร คำว่า “สถานที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา” ในอดีตกับสภาพที่ปรากฎในปัจจุบันมีอยู่จริง แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ยังเป็นสถานที่ที่ควรไปสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพุทธ หรือหากจะเดินทางไปหลายครั้งก็ไม่เป็นไรยิ่งไปยิ่งมีความรู้สึกว่าได้เข้าใกล้พระพุทธเจ้าทุกครั้ง
          สรุปว่าสถานที่ทั้งสี่แห่งคือสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนาและสถานที่ปรินิพพาน ทุกแห่งมีอยู่จริงและมีอนุสรณ์สถานให้เป็นที่ระลึกถึง ผู้เขียนเองแม้จะเคยเดินทางไปหลายครั้งแล้ว แต่หากมีคนเชิญก็ยังอยากไป เพราะไปเมื่อไหร่ก็เหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับทุกครั้ง

กุสินารา

 

         สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ก็ไม่เป็นไรเพราะเรามีสิ่งที่เป็นเหมือนตัวแทนของพระพุทธศาสนาอยู่ใกล้ตัวอยู่แล้วสรุปได้สั้นๆว่า “พุทธรูปา โพธิรุกขา เจติยา ถูปา ธัมมขันธา” เรามีพระพุทธรูปอันเป็นเหมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้าอยู่ในวัดวาอารามทั่วประเทศ มีต้นโพธิ์ที่เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้อยู่แทบทุกพื้นที่ มีเจดีย์และสถูปอยู่ทั่วประเทศ และมีพระไตรปิฎกและหนังสือธรรมะต่างๆมากมายให้ได้ศึกษา 
          กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถานสี่ตำบลที่ประเทศอินเดีย เนปาล และได้นิมนต์หลวงตาไซเบอร์ฯเว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนาราม ให้ร่วมเดินทางไปในโครงการนี้ด้วยในช่วงวันที่ 13-20 มีนาคม 2555 โดยใช้งบประมาณจากกองทุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อเป็นการฉลองพุทธชยันตีแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครบ 2600  ปี ได้เวลาออกเดินทางไปเยือนถิ่นอินเดียอีกแล้ว

 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
13/03/55

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก