ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

    หลังทำวัตรเย็นตามปรกติจะเป็นช่วงเวลาของการทำความสะอาดบริเวณวัดเช่นกวาดวิหารลานเจดีย์ซึ่งเป็นกิจวัตรที่พระภิกษุสามเณรจะร่วมกันทำ วันนั้นออกจากพระอุโบสถเดินมายังท่าน้ำถือไม้กวาดตั้งใจว่าจะทำความสะอาดบริเวณใต้ต้นโพธิ์ที่มีใบไม้หล่นเกลื่อน กวาดใบไม้กองสุมรวมกันรอสามเณรมานำใบไม้ไปทิ้ง แต่กระแสลมพัดมาอย่างแรงใบไม้ที่กวาดรวมกันไว้ปลิวว่อนกระจายจากองที่รวมกันไว้ พื้นที่ใต้ต้นโพธิ์จึงเต็มไปด้วยใบไม้อีกครา จึงนั่งพักรอลมสงบจะได้เริ่มกวาดอีกครั้ง จากนั้นก็จึงได้สังเกตบริเวณรอบโพธิ์ต้นนั้น
 

        ใบไม้มีหลายหลากสีสามารถแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา บางครั้งเขียวสดใส บางครั้งออกสีเหลือง บางครั้งแห้ง สีเขียวและสีเหลืองของใบไม้ส่วนมากมักจะอยู่บนต้นไม้ เมื่อถูกลมพัดก็จะเคลื่อนไหวไปตามกระแสลม บางครั้งฟังไปคล้ายบทเพลงที่กำลังขับกล่อมโลก ส่วนใบไม้แห้งตามปรกติจะอยู่ใต้ต้นไม้ ถึงเวลาที่จะต้องร่วงหล่นจากกิ่งก้านและกองสุมรวมกันอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้นนั่นเอง ต้นไม้ยิ่งสูงใหญ่ใบยิ่งหนา และใบยิ่งมากก็ต้องมีใบไม้แห้งมากตามไปด้วย

 

        ในยุคปัจจุบันหาต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ยากแล้ว เพราะต้นไม้สามารถทำประโยชน์ได้ ยิ่งเนื้อแข็งยิ่งดีจึงมีคนตัดต้นไม้ให้ไม้ล้มลงและนำไปแปรสภาพเป็นเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ สินค้าที่ทำมาจากไม้มักจะมีราคาแพง โต๊ะเก้าอี้หรือเครื่องใช้ในบ้านที่ทำจากไม้ยิ่งมีราคาแพง
         ตามชนบทหากอยากเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ก็จะต้องเดินเข้าวัด โดยเฉพาะวัดป่าที่ยังรักษาสภาพป่าและต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้ได้ บางแห่งหากอยากให้ต้นไม้ยังคงอยู่คู่กับป่าก็มักจะทำพิธี “บวชต้นไม้” โดยใช้ผ้าจีวรคลุมรอบต้นไม้ ชาวบ้านก็จะไม่กล้าตัดไม้ต้นนั้น ยังเกรงกลัวต่อการกระทำ เพราะเชื่อกันว่าเมื่อต้นไม้เมื่อทำพิธีบวชแล้วก็เป็นเฉกเช่นกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง หากตัดต้นไม้ก็เท่ากับฆ่าพระรูปหนึ่ง ความเชื่อเรื่องบาปกรรมยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาป่าและต้นไม้ไว้ได้ และต้นไม้ใหญ่มักจะมีเหล่าเทวดามาสิงสถิตอยู่ด้วย เป็นประเภทที่เรียกว่า “รุกขเทวดา” รุกข แปลว่าต้นไม้ รุกขเทวดาจึงแปลตามตัวอักษรว่า “เทวดาที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้”
        เคยได้ยินเรื่องเล่าขานจากหลวงพ่อรูปหนึ่งว่า “ที่วัดแห่งหนึ่งมีการทำถนนซึ่งจะต้องตัดผ่านวัดและมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นขวางทางอยู่ จึงจำเป็นจะต้องตัดต้นไม้ทิ้ง เพื่อจะได้สร้างถนน ในบรรดาต้นไม้หลายต้นนั้นมีต้นไทรขนาดใหญ่ต้นหนึ่งเกิดและเจริญเติบโตอยู่ที่วัดแห่งนั้นมานานแล้ว  ถึงแม้ว่าเจ้าอาวาสมรณะไปหลายรูปแล้ว แต่ต้นไทรต้นนั้นก็ยังอยู่ และในการทำถนนในครั้งนั้นต้นไทรต้นนั้นก็จะต้องถูกตัดด้วย

 

        หลวงพ่อเจ้าอาวาสแม้จะไม่อยากตัดต้นไม้แต่เพื่อความเจริญต้องการมีถนนที่สะดวกต่อการสัญจรก็จำเป็นต้องตัดใจสั่งให้ตัดไทรต้นนั้น กลางดึกในคืนที่เงียบสงบ มีเพียงสายลมที่แผ่วพลิ้วมาตามความสงัด เจ้าอาวาสกำลังหลับสนิทก็พลันเข้าสู่ภวังค์แห่งความฝัน เหมือนกับว่ามีครอบครัวหนึ่งมาขอเข้าพบมีพ่อ แม่และลูก ผู้เป็นพ่อบอกกับเจ้าอาวาสว่า ท่านรื้อบ้านพวกผม พวกผมไม่มีบ้านอยู่ จากนั้นก็ชี้ไปที่ต้นไทรใหญ่ต้นนั้น ผมอยู่ที่นั่นมานานแล้ว อยู่อย่างมีความสุข แต่วันนี้ต้องกลายเป็นผู้เร่ร่อนหาที่พักพิงไม่ได้ จะให้ทำอย่างไร”
        หลวงพ่อเจ้าอาวาสมักจะเล่าให้คนอื่นๆฟังเสมอว่า “จำได้ว่าคืนนั้นบอกให้สามคนพ่อแม่ลูกย้ายมาอยู่ยังต้นไม้ขนาดกลางต้นหนึ่งหน้ากุฏิ ซึ่งเมื่อพวกเขารับคำก็ลาจากไป หลวงพ่อเจ้าอาวาสมักจะบอกกับพระลูกวัดและชาวบ้านเสมอว่า “ต้นไม้ต้นนี้มีเทวดาสิงสถิตอยู่อย่าได้คิดทำลายหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร เดี๋ยวเทวดาโกรธขึ้นมามันจะยุ่ง”
        ต้นไม้ต้นนั้นปัจจุบันยังอยู่ที่หน้ากุฏิเจ้าอาวาสและเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครกล้าไปรบกวน เพราะเชื่อกันว่ามีเทวดาอาศัยอยู่จริงๆ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านนั้นอาจจะฝันจริงหรืออาจจะใช้ความฝันเป็นอุบายในการรักษาต้นไม้ก็ได้ แต่อุบายนั้นได้ผลเพราะต้นไม้ยังอยู่ไม่มีใครกล้าตัดไม้ต้นนั้นเลย  บางครั้งการอาศัยความฝันก็รักษาชีวิตของสิ่งหนึ่งไว้ได้

 

 

        ใต้ต้นโพธิ์หน้าวัด น้ำในลำคลองยังคงไหลเอื่อยและมีเศษขยะแทรกมากับสายน้ำ น้ำในคลองมีสีดำเข้มมีกลิ่นเหม็นอ่อนๆโชยแทรกผ่านนาสิก  แหงนหน้าดูต้นโพธิ์กำลังผลัดใบ บนต้นมีใบสีเขียวอ่อนๆตามกิ่งก้านสาขา ส่วนบริเวณใต้ต้นมีใบไม้หล่นเกลื่อน พอลมสงบจึงเริ่มลงมือกวาดใบไม้แห้งใต้ต้นโพธิ์นำมากองรวมกันไว้อีกครั้ง แต่ไม่นานใบไม้แห้งจากต้นก็หล่นร่วงลงมาอีก กระแสลมมาจากไหนไม่ทราบพัดมาอย่างแรง ใบไม้ที่สุมเป็นกองก็กระจายไปตามแรงลมปลิวว่อนไร้ทิศทางอีกครั้ง
        ชีวิตมนุษย์เล่าใช่มีทิศทางหรือไม่ เรากำลังเดินไปทางไหนกัน ประกอบอาชีพการงานมีรถ มีบ้าน มีลูกจากนั้นก็ส่งลูกเรียนกว่าจะจบจนสามารถทำงานได้ก็ต้องใช้เวลา หากเปรียบเทียบชีวิตมนุษย์กับใบไม้ไยจะแตกต่างกัน เริ่มต้นในวัยเด็กเหมือนใบไม้อ่อนดูเหมือนจะบอบบางอ่อนไหว ถึงจะถูกลมพัดก็พลิ้วไปตามลม เด็กและคนหนุ่มสาวอาจจะต้องประสบกับสิ่งยั่วยวนต่างๆแม้จะหวั่นไหวไปตามกระแสบ้าง แต่ก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ลมหายใจยังอยู่ชีวิตก็ยังอยู่ เหมือนใบไม้อ่อนที่ยังอยู่บนต้น อาจจะมีบ้างที่ทนแรงลมไม่ได้ต้องหล่นจากขั้วทั้งที่ยังเป็นใบอ่อน เหมือนเด็กและคนหนุ่มสาวบางคนที่จะต้องจากโลกนี้ไปก่อนวันเวลาอันควรจะเป็น

 

 

        ใบไม้พอผ่านกาลเวลาไปสักพักก็จะกลายเป็นใบเขียวแก่มั่นคงแข็งแรงสามารถที่จะทนสู้กับแรงลมได้ มนุษย์ก็เฉกเช่นเดียวกันในวัยกลางคนส่วนมากมักจะมีครอบครัวมีฐานะที่มั่นคง สามารถฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการจนสามารถตั้งหลักปักฐานที่มั่นคงแข็งแรง เหมือนต้นไม้ที่ยืนต้นเริ่มแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นที่พึ่งพิงแก่สรรพสัตว์อื่นๆได้ ฝูงนกฝูงกามาพึ่งพาอาศัยดอกผลและร่มเงาพักร้อนได้ ใบยิ่งหนานกยิ่งมาก หรือว่าคนยิ่งมีสมบัติมากก็ยิ่งจะเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้มาก
        พออายุเริ่มมากขึ้นเริ่มเข้าวัยชราก็เหมือนใบไม้แก่เต็มที่ออกสีเหลืองรอวันแห้งและพร้อมที่จะหล่นจากขั้วได้ทุกเมื่อ พระพุทธเจ้าแสดงชีวิตมนุษย์ของคนวัยชราไว้ว่าเป็นเฉกเช่นใบไม้เหลือง ดังที่ปรากฏในขุททกนิกาย ธรรมบท (25/28/32 ) ว่า “บัดนี้ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง อนึ่งบุรุษแห่งพระยายม  (คือความตาย) ปรากฏแก่ท่านแล้ว ท่านตั้งอยู่ในใกล้ปากแห่งความเสื่อม อนึ่งแม้เสบียงทางของท่านก็ยังไม่มี ท่านนั้นจงทำที่พึ่งแก่ตน  จงรีบพยายาม เป็นบัณฑิต  ท่านกำจัดมลทินได้แล้ว ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน จักถึงอริยภูมิอันเป็นทิพย์”

 

        กำลังเดินเข้าสู่ความตาย แต่ยังไม่มีเสบียงในการเดินทาง ดูไปน่าหดหู่ใจยิ่ง อะไรคือเสบียง ผู้รู้บอกไว้ว่าเสบียงในการเดินทางไปสู่โลกหน้าของมนุษย์คือบุญกุศล ต้องรีบทำให้มากไว้ ไม่ควรรอเวลาเพราะชีวิตมนุษย์ไม่แน่นอนเฉกเช่นกับใบไม้อาจจะร่วงหล่นหลุดจากขั้วเวลาใดก็ได้ ไม่เลือกว่าจะเป็นใบไม้อ่อน ใบไม้เหลืองหรือใบไม้แก่
        สายัณหกาลดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วเหลือไว้แต่แสงสีทองเหมือนกับจะบ่งบอกว่าเวลาแห่งทิวาวารเหลือน้อยแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รัตติกาล ใบไม้เหลืองยังคงหล่นจากขั้วเป็นช่วงๆบางใบปลิวว่อนไปตามกระแสลมก่อนที่จะสงบนิ่งอยู่กับพื้นดินรอวันเวลาแห่งการเน่าเปื่อยและคืนสภาพกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ชีวิตมนุษย์เล่าไยไม่เป็นเฉกเช่นกับใบไม้ ซึ่งวันหนึ่งก็ต้องจากโลกนี้ไปเหมือนใบไม้ที่หล่นจากขั้วคืนกลับลงสู่พื้นปฐพี

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
17/01/55

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก