ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

        สองสามวันท่าผ่านมามักจะฝันแปลกๆมักจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่เคยไปมาก่อน แต่ผู้คนที่มาปรากฏในความฝันล้วนแต่เป็นคนที่คุ้นเคย รู้จักกันมานานหลายปี แต่ทว่าคนเหล่านั้นล้วนเสียเสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่ภาพที่ปรากฏในความฝันคือมนุษย์ที่ยังมีชีวิต บางคนเสียชีวิตในวัยชรามากแล้ว แต่กลับมาปรากฏในรูปลักษณ์ที่ยังเป็นหนุ่มสาว พยายามคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้ทำไมมาแสดงในช่วงเวลานี้ หรือว่าคนตายเหล่านั้นเริ่มจะมาเชิญให้เข้าร่วมในโลกหน้าแล้ว เราใกล้เวลาที่จะต้องจากโลกนี้ไปแล้วหรืออย่างไร โดยเฉพาะความฝันในคืนวันเสาร์เชื่อกันว่าความฝันนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวคนฝันเอง
 

        ความฝันในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาจำได้ติดตาว่ามีคนมานิมนต์ไปแสดงธรรมในงานศพ มีรถมารับพอเห็นหน้าคนขับรถคืออาว์น้องชายพ่อ ขึ้นรถได้อาว์ก็ขับรถพาไปยังป่าช้าซึ่งตั้งอยู่ในวัดป่าแห่งหนึ่งรกครึ้มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดที่กำลังผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งอยู่ช่วงกลางฤดูหนาว  ใบไม้จึงร่วงหล่นเกลื่อนบริเวณวัด แต่ก็ยังมีต้นไม้อีกหลายชนิดที่ยังคงมีใบหนา ต้นไม้ผลัดใบต่างเวลากัน ใบไม้แห้งถูกลมพัดปลิวว่อนและฝุ่นทรายก็ถูกลมหอบขึ้นยังท้องฟ้าเป็นช่วงๆชาวที่นี้เรียกว่า “ลมหัวกุด”หรือ “ลมแล้ง” ลมจะพัดเป็นวงหมุนเหมือนทรอนาโด แต่มีขนาดย่อมกว่า ต้นไม้ใบหญ้าที่กำลังแห้งจะถูกเจ้าลมชนิดนี้หอบขึ้นยังท้องฟ้า เมื่อลมหมดแรงก็จะปลิวว่อนไปยังที่ต่างๆ อาว์ที่ขับรถให้ในความฝันเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อน

 

        รถจอดสนิทหน้าศาลาข้างๆเมรุเผาศพมีญาติของผู้ตายและชาวบ้านอยู่กันเต็ม คนที่ออกมารับและพาขึ้นไปยังศาลาเห็นหน้าก็จำได้ทันทีคือพ่อของผู้เขียนเอง ท่านเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2545 สิบปีพอดี แต่ในฝันท่านยังเป็นเหมือนคนหนุ่มอายุประมาณสี่สิบปีซึ่งเวลานั้นผู้เขียนอุปสมบทแล้ว พ่อพูดอะไรจำได้ลางเลือน เมื่อไปถึงงานกราบพระประธานและหันไปกราบหลวงพ่อที่นั่งเป็นประธานก็ต้องสะดุ้งเพราะท่านคือพระอุปัชฌาย์ของผู้เขียนเองและท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2535 ท่านไม่พูดอะไร ชี้ให้นั่งลำดับที่สามถัดจากหลวงปู่อีกรูปหนึ่ง จากนั้นพิธีก็เริ่มต้น
        คุณพ่อของผู้เขียนทำหน้าที่เป็นมัคนายก ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการไหว้พระ อาราธนาศีล หลวงพ่อผู้เป็นประธานชี้มาที่ผู้เขียนซึ่งนั่งอันดับที่สามให้เป็นองค์ให้ศีล พอให้ศีลจบ มัคนายกก็อาราธนาเทศน์ เมื่อถามว่าคนเสียชีวิตเป็นใครชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เสียชีวิตเพราะเหตุใด คุณพ่อจึงชี้ให้ดูรูปภาพที่หน้างานในศาลาแห่งนั้น พอเห็นภาพถ่ายก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง คนตายมีนามว่า “พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน” ชาตะเขียนไว้ชัด แต่มรณะเหมือนจงใจเขียนไม่ชัดมันลางเลือนดูไม่ออก
        ในฝันตอนนั้นที่สะดุ้งเพราะเห็นชื่อคล้ายๆกับตัวเองอาจจะเป็นคนอื่นที่บังเอิญมีชื่อเหมือนกันก็ได้ วันนั้นจำได้ว่าการแสดงธรรมเทศนาได้ยกคำสั้นๆขึ้นตั้งว่า “สาเหตุของคนที่มาในงานวันเกิดนั้นสรุปได้สั้นๆว่า “ได้สามัคคีปรองดอง ได้มองเห็นสัจธรรม ได้กระทำที่พึ่ง ได้นึกถึงพระไตรรัตน์” จากนั้นก็อรรถาธิบายไปตามเนื้อหาจนจบตามบทที่ตั้งไว้ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

 

        พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลและได้เวลาประชุมเพลิง หลวงพ่ออุปัชฌาย์เดินนำหน้า หลวงปู่อีกรูปเดินไม่ไหว ผู้เขียนจึงกลายเป็นรูปที่สอง ด้วยความสงสัยจึงบอกสัปเหร่อว่าขอเปิดดูหน้าคนตายได้หรือไม่ สัปเหร่อจึงเปิดให้ดู พอเห็นหน้าคนตายชัดเจนก็ต้องสะดุ้งจริงๆเพราะคนที่นอนนิ่งสงบในโลงนั้นเหมือนพระมหาบุญไทย ปุญญมโน คนที่กำลังถือดอกไม้จันทน์จะวางหน้าศพนั่นเอง คล้ายกันจริงๆเหมือนคนๆเดียวกันแต่วัยต่างกันมาก คนตายยังหนุ่มอยู่เลยอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปี
        เหตุการณ์ต่อจากนั้นคือการประชุมเพลิงยังไม่เกิดขึ้น เพราะพระมหาบุญไทยรูปที่ยังมีชีวิตสะดุ้งตื่นกลางดึก ลุกขึ้นนั่งสวดมนต์และนั่งสมาธิจนสว่าง นอนต่อไม่ได้ กลัวว่าในฝันจะต้องเผาศพตัวเอง คงร้อนน่าดู ศพนั้นยังไม่ถูกเผา พยายามนึกย้อนว่าพระมหาบุญไทยเสียชีวิตเมื่อไหร่ ทำไมที่เขียนบนภาพถ่ายหน้าศพจึงไม่ชัดเจน ภาพนั้นจำได้ว่าถ่ายตั้งแต่สามสิบปีที่แล้ว ยังหนุ่มอยู่เลย ทั้งพระอุปัชฌาย์ พ่อ อาว์ที่เสียชีวิตไปแล้วต้องการจะบอกอะไรจึงมาปรากฏตัวในความฝัน
        ความฝันนั้นมาจากเหตุสี่ประการดังที่แสดงไว้ในอรรถกถาพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์เล่ม1 ภาค 3 หน้าที่ 102 ความว่า “บุคคลเมื่อจะฝันนั้นย่อมฝันเพราะเหตุสี่ประการคือเพราะธาตุกำเริบ  เพราะเคยทราบมาก่อน เพราะเทวดาสังหรณ์ และเพราะบุพพนิมิต”

 

        ในความฝันทั้งสี่อย่างนั้นความฝันที่คนฝันเพราะธาตุกำเริบและเพราะเคยทราบมาก่อนไม่เป็นจริง  ความฝันที่ฝันเพราะเทวดาสังหรณ์จริงก็มี เหลวไหลก็มี เพราะว่าพวกเทวดาโกรธแล้วประสงค์จะให้พินาศโดยอุบายจึงแสดงให้เห็นวิปริตไปบ้าง ส่วนความฝันที่คนฝันเพราะบุพนิมิตเป็นความจริงโดยส่วนเดียว ความแตกต่างแห่งความฝัน แม้เพราะความแตกต่างแห่งมูลเหตุทั้งสี่อย่างนี้คละกันก็มีได้เหมือนกัน พระเสขะและปุถุชนเท่านั้นย่อมฝันเพราะยังละวิปลาสไม่ได้ พระอเสขะทั้งหลายย่อมไม่ฝันเพราะท่านละวิปลาสได้แล้ว
        นึกย้อนดูว่าเราเป็นเพราะสามเหตุจึงได้ฝันอย่างนั้น ร่างกายก็ปรกติธาตุก็ไม่ได้กำเริบ ส่วนอีกสามประการไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด เคยทราบมาก่อนหรือก็ยังไม่อาจระบุได้ชัดเจนเพราะสถานที่เห็นในความฝันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย  เทวดาจะมาบอกหรือก็ไม่อาจชี้ชัดได้ ส่วนบุพพนิมิตก็ไม่อาจระบุได้ คิดไปคิดมาก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จึงยกให้ธาตุกำเริบความฝันจะได้ไม่เป็นความจริง
        ในตำราทำนายฝันประจำวันระบุว่า “หากฝันในคืนวันอาทิตย์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับคนอื่นๆ  ฝันคืนวัน จันทร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับญาติหรือเพื่อนฝูงของท่าน  ฝันคืนวันอังคาร ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับพ่อแม่พี่น้องของท่าน  ฝันคืนวันพุธ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน  ฝันคืนวันพฤหัสบดี ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ ครู อาจารย์ หรือผู้ที่ให้ความเคารพ  ฝันคืนวันศุกร์ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของท่าน หากฝันคืนวันเสาร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับตัวท่านเอง จะมีเรื่องให้ประหลาดใจ หรือไม่ทันตั้งตัว”

 

        คืนที่ผ่านมาเป็นคืนวันเสาร์ หากเชื่อตามตำราก็ต้องบอกว่าฝันนั้นจะเกิดกับตัวคนฝันเอง สองสามวันต่อจากนี้ไปต้องไม่ประมาท คงต้องระมัดระวังให้มาก มีงานอะไรที่ค้างอยู่ควรรีบทำ เพราะหากเสียชีวิตไปในช่วงนี้สิ่งที่คิดไว้อาจจะไม่ได้ทำ พลันก็คิดถึงคำพูดของสตีฟ  จอบส์ อดีตผู้บริหารและก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ที่พึ่งเสียชีวิตไปไม่นานที่ว่า “ชีวิตมันช่างสั้นนัก อีกประเดี๋ยวคุณก็ต้องตายแล้วละ คุณรู้หรือเปล่า ถ้าคุณใช้ชีวิตราวกับว่าแต่ละวันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต วันหนึ่งคุณจะสมหวัง”
          ความฝันกับความจริงเป็นคนละเรื่องกัน ตอนนี้พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน ยังคงอยู่สบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่ก็ยังมั่นใจไม่ได้ว่าจะมีอายุอยู่ดูโลกนี้อีกกี่วัน อาจเสียชีวิตกะทันหันก็ได้ ใครจะไปรู้ ได้แต่เตือนตัวเองการดำเนินชีวิตจึงไม่ควรประมาท และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ยังบรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว ขอให้อยู่ดีมีสุข หากมีทุกข์ก็ให้พ้นจากทุกข์ หากมีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป อีกไม่นานพระมหาบุญไทย ปุญญมโนจะตามท่านเหล่านั้นไป แต่ตอนนี้ขอเวลาสะสางงานที่ยังทำไม่เสร็จก่อน

 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
15/01/55

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก