ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         วันเด็กอีกปีแล้วแต่ปีนี้รู้สึกเงียบๆคงเพราะไม่ได้เดินทางไปไหน โรงเรียนที่ตั้งอยู่ข้างวัดก็ไม่ได้จัดงานวันเด็ก เขาจัดมาก่อนหน้าหนึ่งวันแล้ว วัดก็เงียบเหงาเพราะเถรานุเถระต่างก็เดินทางไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้นจะไปเที่ยวงานวันเด็กความเป็นเด็กก็ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นมันหลบซ่อนอยู่ภายในเหมือนกำลังหลับใหล สิ่งที่ทำได้จึงต้องหาดูว่าคำขวัญวันเด็กในปีนี้ว่าอย่างไร สมัยเป็นเด็กไม่เคยจำคำขวัญได้สักที พอกลับมาค้นดูจึงรู้ว่าคำขวัญในสมัยนั้นคือ“เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี”ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้จักเพราะเป็นสมัยปฏิวัติต้องเริ่มต้นที่คำขวัญที่ว่า"ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้าจงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า" แต่ที่จำได้ดีและได้นานที่สุด ตอนนั้นอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างความเป็นเด็กและความเป็นหนุ่มแล้วคือ “เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ”
 

         ทุกคนต้องเคยเป็นเด็กมาก่อนที่จะเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นคนชราภาพ จากนั้นก็เหลือไว้แต่ชื่อ บางคนผ่านไปเพียงไม่กี่ปีคนก็ลืมกันแล้ว คนโบราณจึงนิยมนำอัฐิหรือกระดูกของคนตายมาใส่ไว้ในเจดีย์หรือไม่ก็ใส่ในช่องกำแพงพระอุโบสถ บางคนอาจจะมีภาพถ่ายและมีประวัติชาตะ เมื่อไหร่ มรณะเมื่อใด ถึงประเพณีในวันสำคัญเช่นสงกรานต์ก็จะพากันมาบังสุกุลอัฐิครั้งหนึ่ง จุดธูปเทียนบอกกล่าวว่ายังจำได้แต่ไม่มีเวลามาหา เพราะทำงานคนละอย่างกัน

 

 

          ในแต่ละปีนายกรัฐมนตรีก็จะให้คำขวัญในวันเด็ก ซึ่งมักจะเป็นถ้อยคำสั้นๆสื่อถึงสิ่งที่เด็กควรกระทำในแต่ละปี ในปี พ.ศ.2555 นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้คำขวัญในวันเด็กว่า  “สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” ฟังแล้วรู้สึกดี  สองสามปีมานี้ได้ยินคำว่า “ความสามัคคี” บ่อยมาก อะไรคือความสามัคคีที่นายกรัฐมนตรีอยากให้เป็น และอยากให้เด็กเข้าใจ หากคนในสังคมมีความรักสามัคคีกัน แม้จะมีความเห็นขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็อยู่ร่วมกันได้
         ความรู้คู่ปัญญา แสดงว่าความรู้กับปัญญานี้แยกกันแต่ให้มาด้วยกัน นัยของความหมายนั้นอาจจะบ่งถึงบางทีคำว่าความรู้บ่งถึงว่ามาจากการศึกษาซึ่งวัดกันได้ว่าจบชั้นไหน ระดับไหน จึงจะเรียกว่าคนมีความรู้ แต่บางครั้งคนที่เรียนจบในระบบการศึกษาสูงๆอาจจะไม่มีปัญญาก็ได้ เรียกว่าเป็นคนมีความรู้แต่ไม่มีปัญญา
         ส่วนปัญญานั้นเกิดจากภายในต้องสร้างเอง บางครั้งคนมีปัญญาอาจจะไม่ได้เรียนจบในระบบการศึกษาใดๆเลย แต่เขามีปัญญา ๆด้พบกับคนขับรถรับจ้างคนหนึ่ง แกบอกว่าผมเรียนจบชั้นประถมปีที่สอง จึงสมัครงานอื่นไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าอย่างน้อยต้องจบชั้นประถมปีที่สี่หรือประถมปีที่หก ผมไม่ได้เรียนต้องย้ายหนีตามพ่อแม่ไปหลายจังหวัดจึงขี้เกียจเรียน จึงกลายเป็นคนตกค้างในสังคมไทยไป เวลาที่เขาบอกว่าจบชั้นไหนผมก็เพียงแต่เขียนว่า “ประถมปีที่สอง” แต่ก็ทำงานหาเงินได้ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวส่งลูกชายเรียนถึงระดับปริญญาตรี กำลังจะจบในอีกไม่กี่ปีนี้

 

          อีกคนหนึ่งที่เป็นนักร้องโด่งดังในอดีต จบเพียงชั้นประถมปีที่สอง อ่านหนังสือไม่ออก แต่เธอมีความจำดี จนได้รับการขนานนามว่า “ราชินีลูกทุ่ง” เพลงที่เธอร้องยังคงเป็นอมตะตราบจนถึงปัจจุบัน
        ผู้เขียนจำได้ว่าเคยเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับอาจารย์ท่านหนึ่งในช่วงสั้นๆ ตอนนั้นอาจารย์อายุมากแล้ว อาจารย์สอนภาษาอังกฤษเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก จากนั้นก็ไม่ได้เรียนต่อที่ไหน ไม่จบปริญญาตรี แต่ได้รับเชิญให้บรรยายในระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท เขียนตำราภาษาอังกฤษไว้หลายเล่ม วิชานี้นักศึกษาสอบผ่านได้ยากมาก แต่ผู้ที่สอบได้คะแนนในระดับสูง มักจะเก่งภาษาอังกฤษ บางคนเรียนจบถึงระดับปริญญาเอก  เคยไปนั่งฟังอาจารย์สอนวิชาโครงสร้างภาษาอังกฤษโดยที่ไม่ได้ลงทะเบียนเรียน เพราะตอนนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์ท่านนั้น เพราะท่านบอกว่า “ผมจะสอนเป็นปีสุดท้าย เทอมหน้าหาคนมาสอนแทนผมด้วย” อยากรู้ว่าวิชานี้อาจารย์สอนอย่างไรจึงขอเข้านั่งฟัง แต่ไม่ได้ต่อเนื่อง อาจารย์อธิบายตามหลักการที่อาจารย์ถนัดนั่นคือเขียนโครงสร้างไว้ก่อน จากนั้นจึงหาคำภาษาอังกฤษมาใส่ จากนั้นก็อธิบายตามโครงสร้างไปเรื่อย จนนักศึกษาสามารถหาคำใหม่มาแต่งเป็นประโยคได้ ก่อนจะขึ้นโครงสร้างใหม่

 

 
         อาจารย์ท่านนั้นเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ยังมีผลงานตามร้านหนังสือต่างๆให้คนได้อ่าน เป็นหนังสือที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ  ปัญญากับความรู้แม้จะมีนัยคล้ายกันแต่ก็แตกต่างกัน คนมีความรู้อาจจะไม่มีปัญญา แต่คนมีปัญญาต้องมาจากความรู้ ถ้าหากความรู้มาควบคู่กับปัญญานั่นเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากเห็น อยากมี อยากได้ ส่วนจะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน
         “คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” เรื่องนี้เป็นความคาดหวังของบรรดาผู้ใหญ่ที่อยากเห็นเด็กไทยรักษาความเป็นไทยไว้ แต่คำว่า “ความเป็นไทย”นั้นให้คำนิยามได้ยาก จะนิยามความหมายว่าอย่างไร ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนตอบยาก ถ้าจะอธิบายความเป็นอินเดียดูง่ายๆจากเครื่องแต่งตัว ผู้หญิงอินเดียส่วนหนึ่งยังคงนุ่งสาหรี่เหมือนกับในอดีตเมื่อพันปีก่อน แม้จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปบ้าง แต่ยังคงเป็นสาหรี่ คนทุกระดับชั้นจะนุ่งสาหรี่คล้ายกัน แต่ราคาต่างกัน “การนุ่งผ้าสาหรี่” คือความเป็นอินเดียอย่างหนึ่ง เห็นที่ไหนก็พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นคนอินเดียหรือมีเชื้อสายอินเดีย

 
         แต่สำหรับคนไทยแล้ว หากไปอยู่ในต่างประเทศ เดินสวนกันไปมาหากไม่พูดภาษาไทยแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นคนไทย ภาษาพูดเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง การแต่งตัวเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง หากคนไทยอยู่ในประเทศไต้หวันหรือฟิลิปปินส์ แม้จะเดินสวนกันไปมาก็แทบจะดูไม่ออก
         ใส่ใจเทคโนโลยี เรื่องนี้ไม่ว่ากัน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้า สินค้าทางเทคโนโลยีบางอย่างผลิตจากประเทศไทยมีคุณภาพระดับมาตรฐานสากลด้วย ครั้งหนึ่งกำลังเดินดูสินค้าแผนกอิเลคทรอนิก ที่ประเทศสวีเดน หลายท่านจับกล้องยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตในประเทศไทย ไม่กล้าซื้อเพราะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย แต่ชาวสวีเดนคนหนึ่งเห็นว่ามีคนไทยอยู่ด้วยจึงยกกล้องและหันมายกให้ดูป้ายว่า “Made in Thailand” เขายกนิ้วให้บอกว่าเป็นสินค้าที่ดีมาก ในขณะที่ข้างๆกันมีสินค้ายี่ห้อเดียวกันผลิตจากประเทศจีน แม้จะเหมือนกันทุกประการ แต่ราคาต่างกันมากครึ่งต่อครึ่ง

 

 

          วันเด็กปีนี้รู้สึกเงียบๆ เพราะเด็กที่โรงเรียนคงไปเที่ยวที่อื่น ไม่ได้จัดงานที่โรงเรียน และวันนี้ก็ไม่กล้าออกไปไหน ขอเป็นเด็กที่กำลังชราภาพ หรืออาจจะเรียกตามสำนวนกำลังภายในว่า “เฒ่าทารก” วันนี้พยายามปลุกความเป็นเด็กขึ้นมาในวันเด็ก แต่ความเป็นเด็กเหมือนกับหายสาบสูญไปกับกาลเวลา เหลือไว้แต่กลิ่นอายแห่งความทรงจำที่ลางเลือน

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
14/01/55

 

 

 

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ จากนายกรัฐมนตรีในปีต่าง ๆ

 


          ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็กจึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อ ๆ มา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้


 พ.ศ.2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม - จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม 
 พ.ศ.2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

 พ.ศ.2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ -  ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด

 พ.ศ.2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ -  ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย

 พ.ศ.2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ -  ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด 
 พ.ศ.2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ -  ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
 
 พ.ศ.2507 - งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
 
 พ.ศ.2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี 
 พ.ศ.2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี

 พ.ศ.2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

 พ.ศ.2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

 พ.ศ.2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ

 พ.ศ.2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส 
 พ.ศ.2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

 พ.ศ.2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ 
 พ.ศ.2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

 พ.ศ.2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - สามัคคีคือพลัง

 พ.ศ.2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ - เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี 
 พ.ศ.2519 - หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช - เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้

 พ.ศ.2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย 
 พ.ศ.2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ 
 พ.ศ.2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - เด็กไทยคือหัวใจของชาติ 
 พ.ศ.2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ - อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

 พ.ศ.2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม 
 พ.ศ.2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย 
 พ.ศ.2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม 
 พ.ศ.2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา

 พ.ศ.2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม 
 พ.ศ.2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

 พ.ศ.2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม 
 พ.ศ.2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ - นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

 พ.ศ.2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

 พ.ศ.2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม 
 พ.ศ.2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ - รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา

 พ.ศ.2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน - สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม

 พ.ศ.2536 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม 
 พ.ศ.2537 - นายชวน หลีกภัย - ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม 
 พ.ศ.2538 - นายชวน หลีกภัย - สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม 
 พ.ศ.2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา - มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด

 พ.ศ.2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ - รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

 พ.ศ.2541 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย 
 พ.ศ.2542 - นายชวน หลีกภัย ขยัน - ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

 พ.ศ.2543 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

 พ.ศ.2544 - นายชวน หลีกภัย - มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

 พ.ศ.2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส

 พ.ศ.2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี

 พ.ศ.2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร - รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน

 พ.ศ.2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร  - เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด

 พ.ศ.2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร  - อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

 พ.ศ.2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

 พ.ศ.2551 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ - สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม

 พ.ศ.2552 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

 พ.ศ.2553 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

 พ.ศ.2554 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

 พ.ศ.2555 - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - "สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี"

 

 

ที่มา:http://hilight.kapook.com/view/17298

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก