ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

       วันธรรมสวนะที่ผ่านมาเป็นองค์แสดงธรรมประจำปักษ์ในพระอุโบสถ พอแสดงธรรมจบอุบาสกท่านหนึ่งมานั่งสนทนาด้วย คำสนทนาตอนหนึ่งอุบาสกท่านนั้นถามว่าปีนี้มีพระสงฆ์รูปใดได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฯ บ้าง คำถามนี้ตอบง่ายเพราะมหาเถรสมาคมพึ่งประกาศรายชื่อพระสงฆ์ที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์มาเพียงไม่กี่วัน แต่คำถามต่อไปนี้สิตอบยาก เมื่อเขาถามว่า "เมื่อไหร่ท่านจะได้เป็นเจ้าคุณฯ" ฟังคำถามจบต้องอึ้งอยู่นาน 
 

       เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้เพราะสมณศักดิ์มาจากการพิจารณาของกรรมการมหาเถรสมาคมว่าใครมีความเหมาะสมควรจะได้เลื่อนสมณศักดิ์ หากจะบอกว่าพิจารณาตามอายุพรรษาก็ไม่ได้อีก เพราะบางรูปพรรษายังไม่มากก็มีสมณศักดิ์ถึงรองสมเด็จพระราชาคณะแล้ว บางท่านพรรษามากแล้วยังเป็น "พระอาจารย์หรือพระมหา" อยู่เหมือนเดิม
       ประเด็นต่อมาเรื่องของหน้าที่หรือตำแหน่งทางการปกครองเช่นเจ้าคณะจังหวัด หากยังเป็นพระครูก็ควรเลื่อนให้เป็นเจ้าคุณ เรื่องนี้สมเหตุสมผล เพราะประเทศไทยมีเจ้าคณะจังหวัดจริงๆไม่มากนัก บางรูปเป็นเจ้าคณะจังหวัดสามจังหวัดพร้อมกันก็มีเช่นเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เนื่องจากมีวัดน้อยและมีพระสงฆ์ในเขตปกครองไม่มาก 

 

 

       ในจังหวัดหนึ่งๆก็ยังมีเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในส่วนของเจ้าอาวาสยังแยกเป็นเจ้าอาวาสพระรามหลวง เจ้าอาวาสวัดราษฎร์อีก ท่านเหล่านี้มีสิทธิ์ในการได้เลื่อนสมณศัดิ์เป็นเจ้าคุณฯทั้งนั้น บางวัดผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารมหลวงก็เป็นเจ้าคุณฯ โดยสรุปแล้วพระสงฆ์ที่ควรได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญหรือที่นิยมเรียกว่าเจ้าคุณนั้น ส่วนมากก็จะอยู่ในเกณฑ์ของการพิจารณานี้เป็นเบื้องต้น
       ในพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม (2) ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร (3) ควบคุมและส่งเสริมการศาสนาศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์ (4) รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา (5) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น 
       งานที่สำคัญของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบันตามที่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ระบุไว้จึงสรุปได้ 4 ประการคือ งานด้านการปกครอง ด้านการศึกษา ด้านการเผยแผ่ และด้านสาธารณูปการ

       พระสงฆ์ทางฝ่ายปกครองได้รับการพิจารณามากที่สุด ต่อมาคือด้านการเผยแผ่ ส่วนพระสงฆ์ที่อยู่ในด้านการศึกษาและสาธารณูปการได้รับการพิจารณาน้อยที่สุด ถึงแม้ว่างานของพระสังฆาธิการจะครอบคลุมงานทั้งสี่ด้านนี้ด้วยก็ตาม แต่ก็ยังเน้นหนักที่ตำแหน่งหน้าที่การงานทางด้านการปกครอง

 


       ในปีพุทธศักราช 2554 นี้ พระสงฆ์ที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "เจ้าคุณใหม่" ฝ่ายธรรมยุตมีผู้ที่คุ้นเคยและเคารพอยู่ถึงสองท่านในสิบท่าน คือพระครูปลัด สัมพิพัฒนวราจารย์ (สมคิด) วัดราชบพิธได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระอุดมธีรคุณ" และพระครูปลัดสัมพิพัฒนวิริยาจารย์(ดร.สุเทพ) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระเมธาวินัยรส" พระครูปลัดท่านแรกเป็นอาจารย์สอนที่คณะศาสนาปรัชญา พระครูปลัดท่านที่สองเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่พระครูปลัดทั้งสองท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณใหม่ในปีนี้ 
       คำว่า “เจ้าคุณ" เป็นคำที่ใช้เรียกพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นสามัญขึ้นไป ซึ่งก็เรียงลำดับจากเบื้องต้นไปเรื่อยๆคือ พระราชาคณะชั้นสามัญ(นิยมเรียกว่า "เจ้าคุณฯ" เช่น พระเมธีธรรมสาร นิยมเรียกสั้นว่า "เจ้าคุณเมธีฯ" พระราชาคณะชั้นราชเช่นพระราชปรีชาญาณ พระราชาคณะชั้นเทพเช่นพระเทพดิลก พระราชาคณะชั้นธรรมเช่นพระธรรมบัณฑิต พระราชาคณะชั้นรองสมเด็จฯ เช่นพระพรหมมุนี พระราชาคณะชั้นสมเด็จฯเช่นสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ซึ่งเป็นสมณศักดิ์สูงสุดของคณะสงฆ์ไทย หากเลื่อนจากสมเด็จอีกครั้งก็ต้องเป็นสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีตำแหน่งเดียว ปัจจุบันคือเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ปัจจุบันพระชนมายุ 98 ปีแล้ว

 

 

       สรุปว่าลำดับสมณศักดิ์ของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบันมีดังนี้ 
              สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 1 พระองค์
              สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ 8 รูป
              พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ 19 รูป
              พระราชาคณะชั้นธรรม 35 รูป
              พระราชาคณะชั้นเทพ 66 รูป
              พระราชาคณะชั้นราช 144 รูป
              พระราชาคณะชั้นสามัญ 394 รูป
              พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี-โท-เอก-พิเศษ(ไม่จำกัดจำนวน)
              พระครูฐานานุกรม ตั้งได้ตามจำนวนที่ปรากฏในสัญญาบัตรของพระราชาคณะ
              พระครูประทวนสมณศักดิ์ (พระครูผู้อุปการะการศึกษา)(ไม่จำกัดจำนวน)
       เจ้าคุณฯในแต่ละปีจึงได้เลื่อนไม่มากนัก ดูจากปีนี้ (2554) มีพระสงฆ์ที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณใหม่ 42 รูป แบ่งเป็นฝ่ายมหานิกาย 32 รูป ฝ่ายธรรมยุต 10 รูป จากข้อมูลของกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานศาสนสมบัติ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ระบุว่ามีวัดในประเทศไทยที่มีพระสงฆ์ทั่วประเทศ 33,902 วัด ส่วนจำนวนพระสงฆ์ไม่มียอดที่แน่นอนเพราะบางท่านบวชแล้วก็ลาสิกขาออกไป แต่ที่อยู่ประจำคาดว่าน่าจะมีประมาณสามแสนรูป การคัดเลือกพระสงฆ์เพื่อเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณอย่างเช่นปีนี้ 42 รูป จากพระสงฆ์สามแสนรูป จึงไม่ใช่เรื่อง่าย

 

 

       ผู้เขียนเป็น "พระมหา" มานานแล้ว การที่จะได้เป็นพระมหาต้องเรียนและสอบอย่างเดียว ซึ่งระบบการศึกษาของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบันอาจแยกออกเป็นสี่แผนกคือ "แผนกนักธรรม แผนกบาลี แผนกปริยัติสามัญ และแผนกอุดมศึกษา" ในเฉพาระแผนกบาลีมีการเรียนการสอนทั่วประเทศ พระสงฆ์สามเณรรูปใดที่สอบได้เปรียญธรรมสามประโยคขึ้นไปจึงมีสิทธิเรียกคำนำหน้าว่า "พระมหา" หากเป็นสามเณรก็จะมีคำว่า "เปรียญ" ต่อท้ายเช่น สามเณรมโน มีบุญ(เปรียญ) เป็นต้น กำหนดประโยคสูงสุดไว้คือเปรียญธรรม 9 ประโยค เทียบเท่ากับปริญญาตรี พระสงฆ์ท่านใดที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคก็เป็นบัณฑิต เข้ารับปริญญาบัตรที่วัดพระแก้ว แต่ในปีหนึ่งๆมีพระที่สอบผ่านเปรียญธรรม 9 ประโยคปีละไม่ถึง 100 รูป พระมหาเปรียญเหล่านี้รอเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "เจ้าคุณ" อย่างเดียว หมดสิทธิ์เป็น "พระครู"

       ในส่วนของสมณศักดิ์ พระมหาตั้งแต่เปรียญธรรม 7 ประโยคขึ้นไปเทียบเท่ากับ "เจ้าคุณฯ" หมายถึงหากได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ก็ต้องเป็นเจ้าคุณทันที ไม่ต้องเป็นพระครูมาก่อนก็ได้เช่นพระมหาบุญไทย เปรียญธรรม 7 ประโยค หากได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ก็จะกลายเป็นเจ้าคุณฯ ทันที แต่เท่าที่เห็นและเป็นอยู่พระมหาบุญไทยคงมีโอกาสเป็นเจ้าคุณฯน้อยมาก เพราะวัดก็ไม่ได้โด่งดังมีชื่อเสียง หน้าที่ทางการปกครองในคณะสงฆ์ก็ไม่มี แต่ทว่าพระมหาบุญไทยก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แข่งเรือแข่งพายพอแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาไม่ขอแข่งกับใคร สู้ทำหน้าที่ของตนต่อไปให้ดีที่สุดก็พอ สอนนักธรรม สอนบาลีที่วัดมัชฌัชติการามแทบทุกวัน สอนพระนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นงานประจำ พระมหาบุญไทยจึงเป็นได้แค่เพียง "ว่าที่เจ้าคุณฯ" ไปอีกนาน
 

 

พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
26/11/54

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก