ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

 

 

        มนุษย์ทุกคนย่อมมีความหลังและความทรงจำที่ฝังแน่นอยู่ในดวงจิต แม้อยากจะลบให้เลือนหายไปจากจิตแต่ทว่าภาพแห่งอดีตมักจะตามติดเหมือนเงาตามตัว บางครั้งเป็นเพียงภาพที่เลือนลาง แต่บางครั้งกลับแจ่มชัดเหมือนภาพถ่ายที่ถ่ายนานแล้ว อาจจะลบเลือนหรือเก่าไปบ้าง แต่ทว่าเจ้าความหลังบางอย่างมันฝังแน่นจนยากที่จะลบออกได้ เป็นภาพแห่งความทรงจำที่ไม่เคยเลือนหาย เพียงแต่ว่าใครจะเลือกจำอะไร บางอย่างเราอยากลืมมันกลับจำ แต่บางอย่างเราอยากจำกลับเลือนลาง
 

        ไม่ได้กลับบ้านเกิดมาร่วมยี่สิบปีแล้ว พอกรุงเทพมหานครเกิดน้ำท่วม พลันนึกถึงบ้านเกิดขึ้นมาทันใด  อันที่จริงก็ไม่มีญาติผู้ใหญ่เหลืออยู่แล้ว แม่ก็ย้ายหนีน้ำท่วมไปอีกจังหวัดหนึ่ง จึงมักจะไปเยี่ยมแม่ที่บ้านใหม่ ส่วนบ้านเกิดค่อยๆเลือนหายไปจากจินตนาการ แต่ทว่าบ้านที่เคยอยู่มานานร่วมยี่สิบปี ตั้งแต่เล็กจนโตพอฝันเมื่อไหร่ความทรงจำในวันเด็กมักจะโผล่เข้ามาในจินตนาการทุกที สิ่งที่มนุษย์คุ้นเคยแม้จะจากไปนานก็ยังฝังแน่นอยู่ในดวงจิต ลบเลือนได้ยาก เพื่อทบทวนความทรงจำ จึงตัดสินใจหนีน้ำท่วมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดดูสักครั้ง แม้จะยังลังเลว่าคงมีคนที่ยังจำได้เพียงไม่กี่คนก็ตาม

 

        เมื่อเข้าวัดป่าที่เคยวิ่งเล่นสมัยเป็นเด็กเนื่องเพราะตอนนั้นโรงเรียนอยู่ในวัด จึงต้องเรียนที่ศาลาวัด ในขณะที่โรงเรียนแห่งใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ ผู้เขียนกว่าจะเรียนจบชั้นประถมปีที่สี่ตามเกณฑ์บังคับในสมัยนั้นจึงต้องเรียนถึงสามแห่ง โรงเรียนแห่งแรกอยู่ไกลเกินไป ถึงหน้าฝนน้ำหลากท่วมถนนที่จะเดินทางไปโรงเรียนแทบทุกปี จึงย้ายมาสร้างใหม่ใกล้ๆหมู่บ้าน แต่ในขณะที่กำลังสร้างโรงเรียนจึงต้องอาศัยศาลาวัดเป็นที่เรียนชั่วคราว จึงคุ้นเคยกับวัดมาตั้งแต่เด็ก
        สมัยนั้นบ้านกับวัดมีที่นาของชาวบ้านกั้นอยู่ และมักจะมีน้ำหลากในหน้าฝนทุกปีจึงต้องมีสะพานไม้ สำหรับเดินข้ามคำนวณได้ประมาณเกือบสามกิโลเมตร เด็กๆเดินไปเรียนหนังสือที่วัดวันไหนขี้เกียจจะไม่ข้ามสะพานแต่จะเดินตามคันนาแทน และแกล้งตกน้ำจนเปียกปอนทำให้ไปเรียนไม่ได้ ตำราเรียนมีกระดานชะนวนอันเดียว เรียนวิชาไหนก็บันทึกลงกระดาน พอขึ้นวิชาใหม่ก็ลบทิ้ง จึงไม่เคยมีบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรเหลือไว้เลย วิชาการทั้งหลายต่างก็บันทึกอยู่ในความทรงจำหมด แต่ก็แปลกไม่มีบันทึกแต่จำได้ แต่สมัยปัจจุบันมีตำราเรียนจำนวนมาก มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยแต่ทำไมจำไม่ค่อยได้ มักได้หน้าลืมหลังเสมอ


        หน้าวัดมีบึงขนาดใหญ่ หลังวัดมีบุ่งและลำน้ำพะเนียงที่ไหลลงแม่น้ำพองก่อนจะสิ้นสุดที่เขื่อนอุบลรัตน์ แต่สมัยนั้นชาวบ้านนิยมเรียกว่าเขื่อนพองหนีบ ถามลุงเสาร์คนเก่าคนแก่คนหนึ่งว่า “บึงกับบุ่ง” มันก็คือหนองน้ำเหมือนกัน มันต่างกันตรงไหน ลุงเสาร์บอกว่า “บึงคือหนองน้ำขนาดใหญ่ ส่วนบุ่งคือหนองน้ำขนาดเล็ก หมู่บ้านนี้มีบึงแห่งเดียว แต่มีบุ่งหลายแห่ง” ฟังแล้วถึงบางอ้อ บึงแห่งเดียว บุ่งหลายแห่งในอดีตปัจจุบันจะกลายเป็นพื้นน้ำเดียวกันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนอุบลรัตน์ไปแล้ว ผู้เขียนจึงคุ้นเคยกับน้ำมาตั้งแต่เด็ก อาหารการกินไม่เคยลำบาก ในน้ำมีปลา ในป่ามัผักให้รับประทานตลอดปี ปัจจุบันอ่านพบว่าคนกินปลามักจะสมองดี แต่ผู้เขียนสมองไม่ค่อยดีแต่เรียนเก่ง จึงจบชั้นประถมปีที่สี่ก่อนเพื่อนรุ่นเดียวกัน สมัยนั้นเรียนชั้นเตรียมหนึ่งปีก่อนจะเข้าเรียนชั้นประถมปีที่หนึ่ง เนื่องจากครูสมัยนั้นบอกว่าผู้เขียนเรียนเก่ง ครูจึงให้เรียนชั้นเตรียมและขึ้นชั้นประถมปีที่สองเลย จึงไม่เคยเรียนชั้นประถมปีที่หนึ่ง เป็นนักเรียนที่แปลกดี แต่ความเก่งไม่ค่อยคงทน พักหลังไม่เก่งแล้วได้หน้าลืมหลัง สิ่งที่เคยจำได้ก็เลอะเลือน มันมักจำใรสิ่งที่อยากลืม แต่มักจะลืมในสิ่งที่อยากจำ
        อาชีพหลักคือทำนาส่วนอาชีพรองคือทำการประมงน้ำจืด คุณตาและยายอายุมากแล้วจะนอนเฝ้าแพปลาที่มีอวนติดอยู่ ชาวบ้านที่นี่เรียกว่า “สะดุ้งใหญ่” ผู้เขียนสมัยเป็นเด็กก็มักจะพักอยู่กับตาะยายที่แพปลา ตอนกลางคืนตื่นขึ้นมายกอวนได้ปลาก็นำไปขาย คุณตามักจะบอกว่า “หากเอ็งอยากเรียนหนังสือสูงๆก็ต้องหาเงินเอง” ดังนั้นวันเสาร์อาทิตย์จึงหาเงินเองโดยการนอนเฝ้าแพปลา บางคืนแทบไม่ได้นอน แต่ก็แปลกช่วงเสาร์อาทิตย์ปลามักจะติดอวนมากจนขายได้เงินส่งตัวเองเรียนจนจบชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ซึ่งก็เทียบได้กับชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก เวลาไปเรียนหนังสือก็นั่งเรือโดยสารไปขึ้นท่าเรือที่หน้าเขื่อนอุบลรัตน์ จากนั้นก็นั่งรถโดยสารเดินทางไปเรียนที่จังหวัดขอนแก่น วิถีชีวิตเป็นอยู่อย่างนี้หลายปีจนเรียนจบ จากนั้นพ่อแม่และตายายก็หมดปัญญาส่งให้เรียนต่อได้ ความรู้ที่เล่าเรียนมาไม่ได้ใช้ประกอบอาชีพตามสาขาที่เรียนจบมาเลย

 

        ชีวิตในเพศฆราวาสสิ้นสุดลงหลังจากเกณฑ์ทหาร แม่ขอให้บวชตามประเพณีหนึ่งพรรษา แต่ชีวิตคามเดาไม่ได้ ผู้เขียนจึงบวชลืมสึกตามสำนวนของชาวบ้าน และอยู่มาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน บวชแล้วก็หนีจากบ้านเกิดไปจำพรรษาที่อื่น ยังไม่เคยจำพรรษาที่วัดบ้านเกิดเลย จนกระทั่งพ่อแม่ย้ายบ้านหนีน้ำท่วมไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง จากนั้นมาก็ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดนัก ผ่านไปผ่านมาจำได้ลางๆว่าครั้งสุดท้ายเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ผู้คนที่เคยรู้จักก็ลืมเลือนไปเกือบหมดแล้ว คนรุ่นใหม่ก็แทบจะไม่มีใครรู้จัก นี่คือธรรมชาติกาลเวลาไม่เคยหยุดนิ่งยังคงทำหน้าที่กลืนกินสรรพสิ่งไปตามหน้าที่ สิ่งที่ไม่พบกันนานย่อมจะถูกลบเลือนไปตามธรรมดา
        วันนี้ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากจำแทบไม่ค่อยได้ อย่าว่าแต่ผู้คนเขาก็จำเราไม่ได้ เราก็จำเขาไม่ได้ แต่ชาวบ้านที่นี่อัธยาศัยไมตรีดีเยี่ยมเดินไปไหนมีแต่คนยกมือไหว้และทักทายตามธรรมเนียม คนมีอายุห้าสิบปีขึ้นไปส่วนมากทักทายสองครั้ง ครั้งแรกทักทายตามธรรมเนียม ส่วนครั้งที่สองเริ่มจะจำได้แม้จะลางเลือน แต่พอพูดคุยไปได้สักพักเรื่องราวในอดีตค่อยๆผุดขึ้นมาในความทรงจำ จึงเริ่มถามนั่นถามนี่และเอ่ยชื่อได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นคนที่ไม่เคยเปลี่ยนชื่อ แม้ชื่อจะดูบ้านนอกแต่เป็นชื่อที่พ่ออุตสาห์ใช้เวลาคิดเป็นปีจึงได้ชื่อนี้มา พ่อบอกไว้อย่างนั้น

 

        ปัจจุบันไม่มีสะพานไม้เก่าอันนั้นให้เห็นแล้วเพราะได้กลายเป็นถนนแทน ทุ่งนาที่เคยเป็นนาข้าวก็มีแต่น้ำ บึงและบุ่งเก่าก็ได้รับการขุดลอกและปรับปรุงจนมีทัศนียภาพที่งดงาม ในเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เกิดเงาสะท้อนกับทิวไม้ดูมีพลังงดงามตามธรรมชาติ หยิบกล้องได้ก็เดินไปที่หน้าวัดยกกล้องขึ้นถ่ายภาพ ในขณะที่ควายฝูงหนึ่งกำลังเดินกลับบ้าน ชาวบ้านเดินผ่านไปผ่านมามองแล้วก็ยิ้ม นานๆจะมีคนทักทายสักครั้ง พวกเด็กเพียงแต่สงสัยว่าหลวงตาถ่ายภาพไปทำไม ส่วนคนที่มีอายุทักทายและเอ่ยถามว่าถ่ายภาพไปทำอะไร เมื่อบอกว่าถ่ายภาพทิวทัศน์ที่เป็นความงามของแสงอาทิตย์กับพื้นน้ำบางคนก็ได้แต่ยิ้มมองแล้วก็ผ่านไป บางคนชวนคุย บางคนเพียงแต่ทำหน้าสงสัย คงนึกในใจว่า “มันงดงามตรงไหน” ความงดงามหรือไม่งามอยู่ที่คนมอง  ผู้ที่เห็นภาพนี้ทุกวันจนเกิดความเคยชิน มองดูแล้วเห็นเพียงความเป็นธรรมดา ส่วนผู้ที่จากไปนานและกลับมาเยือนจึงมีอดีตและควาทรงจำแฝงอยู่ด้วย จึงอยากจะเก็บภาพไว้ในจินตนาการที่กำลังลบเลือนก อดีตบางอย่างแม้จะผ่านไปนานสักเท่าไรก็ตาม หากในใจยังมีความทรงจำ อดีตนั้นก็เหมือนยังเป็นปัจจุบันที่ยังตราตรึงอยู่ในจินตนาการไม่อาจลบเลือนได้ สำหรับผู้เขียนแล้ว แม้อดีตจะเป็นเรื่องที่ผ่านไปนานแล้ว ก็ไม่อยากจะลบมันออกจากความทรงจำ อดีตที่เคยลำบากยากจนก็เหมือนปัจจุบันที่ยังอนาถาเหมือนเดิม มนุษย์มีความทรงจำบางอย่างที่ลบไม่ออก แต่เราเลือกจำในส่วนที่ดีได้
        วันนี้ได้เห็นอาชีพเก่าที่ยังมีคนทำ แพปลายังเรียงรายตามสายน้ำ แม้พื้นที่บางแห่งจะถูกน้ำท่วม แต่คนที่นี่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป แพกลางน้ำเปลี่ยนทางย้ายที่ได้ หากที่ไหนไม่ค่อยมีปลาก็ย้ายไปที่ใหม่ หรือหากน้ำลดเหลือน้อยก็ค่อยๆยย้ายไปยังที่มีมีน้ำมาก อาชีพนี้ทำได้ตลอดปี สำหรับชาวบ้านหลังเขื่อนอุบลรัตน์ที่ไหนมีน้ำมากพอ ที่นั่นมีแฟปลา ชาวบ้านเขาไม่กลัวน้ำ น้ำมากแพลอย น้ำน้อยแพหาย
 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
02/11/54

 

 

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก