แม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนหลายล้านคน ผู้คนสองฝากฝั่งลำน้ำที่เคยใช้เป็นเส้นทางสัญจร ขนส่งสินค้า วันนี้เงียบเหงามองไปทางไหนมีแต่น้ำที่กำลังจะล้นฝั่ง เรือโดยสารที่เคยรับส่งผู้โดยสารก็พลันหยุดวิ่ง เรือขนส่งสินค้าก็หยุดเดิน เจ้าพระยาจึงเป็นเหมือนคนหนุ่มในวัยคึกคะนองที่กำลังจะแผลงฤทธิ์ได้ทุกเมื่อ เหมือนกำลังรอโอกาสว่าจะโจมตีจุดไหนก่อน
เขตบางพลัดถูกกระหน่ำโจมตีก่อนเมื่อพนังกั้นน้ำแตก กระแสน้ำจึงเอ่อล้นเข้าท่วมจนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนสายนี้ต้องปิดเส้นทางจราจรโดยเร่งด่วน ตามปกติทางก็แคบอยู่แล้วเพราะกำลังก่อสร้าง เมื่อมีน้ำท่วมจึงเกิดวิกฤตขึ้นมาทันใด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้เขียนยังแวะไปเยือนเพื่อเก่าท่านหนึ่งที่วัดอาวุธวิกสิตาราม ยังพูดกันเล่นๆอยู่ว่า หากน้ำท่วมจริงก็ขอเชิญไปพักที่วัดมัชฌันติการามได้ทุกเมื่อ ไม่คิดว่าผ่านไปเพียงสองวันน้ำได้ท่วมจริงๆ
โทรศัพท์ทักทายได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่กำลังอ่อนล้า ท่านบอกว่าต้องใช้แรงกายมากเพราะต้องขนกระสอบทรายวางตามแนวถนนป้องกันน้ำไม่ให้ทะลักเข้าท่วมวัด แต่ก็ยังเอาไม่อยู่น้ำมาแรงมาก ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ นั่งดูน้ำที่ค่อยเพิ่มปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนน้ำกำลังพิโรธ มาแรงและเร็วเพียงไม่กี่นาทีก็เอ่อล้นท่วมลานวัดและบ่าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านข้างๆวัด การต่อสู้กับน้ำที่กำลังไหลบ่ามาด้วยกำลังแรงอย่างนี้ก็ต้องยอมแพ้ คนที่อยู่ริมฝั่งน้ำได้แต่เฝ้าระวังกระแสน้ำหลาก ช่วงนี้หากน้ำมาแรงจริงๆกระสอบทรายที่มีราคาค่อนข้างแพงก็คงเอาไว้ไม่อยู่
นั่งรถกลับจากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ศาลายา นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้ประสบภัยมีคนอาศัยอยู่หลายร้อยคนแล้ว ตามปกติจะต้องผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ขึ้นสะพานพระรามเจ็ด แต่วันนี้เส้นทางถูกปิดจึงต้องอ้อมขึ้นสะพานพระรามแปด มาทางเทเวศน์ เข้าบางกระบือ ผ่านสี่แยกโรงเรียนโยธินบูรณะรถกำลังจะขึ้นสะพานเห็นนกฝูงใหญ่จับกลุ่มตามสายไฟฟ้า บางตัวบินถลาวนไปเวียนมา เหมือนกำลังจะบอกข่าวอะไรสักอย่าง คนโบราณเชื่อว่าหากเห็นนกกำลังจะอพยพแสดงว่ากำลังจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น หรือว่าฝูงนกเหล่านี้กำลังบอกข่าวว่าน้ำกำลังจะท่วมกรุงเทพฯจริงๆ
ผ่านวัดบางโพโอมาวาสเห็นมีน้ำไหลซึมออกมาตามตรอกซอกซอย พลันนึกถึงท่านเจ้าอาวาสวัดบางโพที่เคยบอกว่า วัดผมน้ำไหลซึมเข้าพระอุโบสถแล้ว หากพนังกั้นพังมีหวังจมอยู่ใต้น้ำ ตอนนี้ฝากความหวังไว้กับความแข็งแกร่งของกำแพงริมฝั่งเจ้าพระยาว่าคงจะทานแรงดันของน้ำไหว วัดและบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาต่างก็ต้องหวาดผวาไปตามๆกัน
บางโพในวันนี้ถนนโล่งมีรถวิ่งน้อยมาก ผ่านหน้าวัดสร้อยทอง มองเห็นผู้คนกำลังเฝ้าดูตามริมฝั่งเจ้าพระยา ซึ่งขณะนั้นระดับน้ำกับระดับถนนสูงต่างกันมาก น้ำสูงกว่าถนนประมาณหนึ่งเมตร หากพนังกั้นน้ำพัง ถนนที่มุ่งหน้าสู่นนทบุรีก็ต้องท่วม เส้นทางตามถนนพิบูลสงครามถูกปิดแล้ว ต้องเลี้ยวเข้าถนนวงศ์สว่างอย่างเดียว
หากพนังกั้นน้ำเจ้าพระยาพัง ถนนวงศ์สว่างซึ่งอยู่คนละฝั่งกับถนนจรัญสนิทวงศ์ก็คงหนีไม่พ้นต้องถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกัน ในยามนี้ต้องเตรียมพร้อมที่รับมือกับน้ำท่วมเหมือนชาวกรุงเทพฯคนอื่นๆ กลับถึงวัดเจ้าอาวาสสั่งให้ขนกระสอบทรายมากั้นบริเวณรอบๆพระอุโบสถทางเข้าทั้งสี่ด้าน หากน้ำมาจริงๆจะได้ทะเลาเบาบางลง จากนั้นได้สั่งให้เตรียมพร้อมให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมพร้อมที่จะใช้เป็น ที่พักพิงของพระภิกษุสามเณรและประชาชนที่อาจจะถูกน้ำท่วมได้
ช่วงนี้หัวเราะไม่ได้ ร่ำให้ไม่ออกแล้ว เพราะไม่รู้ว่าน้ำจะทำลายพนังกั้นน้ำมาเมื่อไหร่ คิดถึงคำพูดของหลวงพ่อวัดปุรณาวาสที่วัดท่านกำลังถูกน้ำท่วม ท่านให้สัมภาษณ์นักข่าวหากจำไม่ผิดท่านบอกว่า "กลุ้มนักมักตาย ง่ายนักมักพลาด" ฟังแล้วเริ่มจะเข้าใจ คนส่วนหนึ่งกำลังอยู่กับความกลุ้มใจ กังวลใจ ห่วงหน้าพวงหลัง เกิดการต่อสู้ทางความคิดในการตัดสินใจว่า "จะย้ายออกจากพื้นที่หรือจะทนอยู่ด้วยความกลัวต่อไป คนส่วนหนึ่งคิดเข้าข้างตัวเองว่าน้ำคงไม่ท่วมมาถึงเรา จึงไม่ค่อยเตรียมตัว พอน้ำหลากมาโดยไม่คาดฝัน จึงทำอะไรไม่ถูก อีกอย่างด้วยประสบการณ์ที่ไม่เคยเห็นน้ำท่วมใหญ่มาก่อน บางคนบอกว่าอยู่มาห้าสิบปีแล้วยังไม่เคยถูกน้ำท่วม จึงสรุปเอาเองว่าปีนี้ไม่นานเดี๋ยวน้ำก็คงลด เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา จึงไม่ได้เตรียมพร้อมในการอพยพ พอน้ำมาจริงๆจึงทำอะไรไม่ถูก จะขนสิ่งไหนไปก่อนหรือหลัง บางคนยกโทรทัศน์ หรือบางคนแบกตู้เย็น บางคนอุ้มสุนัข เพราะความตกใจตอนนั้นคงคิดไม่ออกว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่จะต้องนำติดตัวไป
ความกังวลใจเป็นเหมือนโรคร้ายประการหนึ่งมันค่อยๆกัดกร่อนทอนกำลังกาย ทำลายกำลังใจ ยิ่งตามร้านค้าต่างๆเริ่มไม่มีสินค้าขายกันแล้ว ร้านค้าบางแห่งไม่มีสินค้าอุปโภคขายเลย คนซื้อไปกักตุนกันหมด ใครๆก็กลัวกันทั้งนั้น เมื่อน้ำมาจริงๆไม่มีอะไรจะกินจะอยู่กันอย่างไร พระพุทธศาสนมีคำสอนอยู่บทหนึ่งในขุททกนิกาย ธรรมบท (25/42) ว่า "ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา แปลว่า ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง" หากความหิวเกิดขึ้นย่อมยากที่จะดำรงชีพอยู่ได้
คนที่ประสบกับอุบัติเหตุส่วนหนึ่งมาจากความประมาทพลาดพลั้งและความวางใจว่าภัยภิบัติคงไม่มาถึงเรา บางคนอยู่อาศัยที่บ้านริมฝั่งแม้น้ำเจ้าพระยามานานหลายสิบปีก็ยังไม่เคยถูกน้ำท่วม จึงคิดด้วยความเคยชินว่าสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นย่อมไม่เกิดขึ้น พอมันเกิดเหตุโดยไม่คาดฝันขึ้นมาจึงทำให้พลาดพลั้งได้ เตรียมพร้อมไว้หากย้ายได้ก็ควรย้าย หากน้ำไม่ท่วมก็กลับมาใหม่ได้ ถือเสียว่าไปพักผ่อนต่างจังหวัดสักพักก็ได้
ในพระพุทธศาสนามีศาสนสุภาษิตที่ปรากฎในมหาชนกชาดก(28/450)ตอนหนึ่งว่า "อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วนสฺสติ" แปลเป็นไทยตามสำนวนพระไตรปิฎกว่า "ความคิดที่ยังไม่ได้คิดก็มีบ้าง ความคิดที่คิดแล้วเสื่อมหายไปบ้าง" แต่ในหนังสือพุทธศาสนสุภาษิตเล่มสาม แปลด้วยสำนวนใหม่ว่า "สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้ สิ่งที่คิดไว้ก็เสียหายได้"
สำนวนแปลทั้งสองสำนวนนี้แม้จะต่างกัน แต่หากแปลตามตัวหนังสือภาษาบาลี สำนวนในหนังสือพุทธศาสนสุภาษิตฟังดูเข้าใจง่ายกว่า บางอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด หรือสิ่งที่เราคิดอาจไม่มีก็ได้ เหมือนอย่างกรณีที่กำลังเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานครในช่วงนี้ หลายคนคิดว่าคงป้องกันน้ำได้ แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด เพราะน้ำท่วมจริงๆ กว่าจะรู้สึกตัวว่าคิดผิด น้ำก็ท่วมบ้านจนเหลือแต่หลังคาแล้ว
แม่น้ำเจ้าพระยาคงทำหน้าที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนไทยต่อไป หากในยามปกติช่วงนี้สองฝั่งริมน้ำเจ้าพระยาผู้คนคงออกมาชมความงามที่ถูกประดับตกแต่งด้วยสีสรรแห่งสายน้ำในเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บางคนเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำกระทงจะได้ลอยไปตามกระแสน้ำเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ผู้คนสองฟากฝั่งต่างเฝ้าดูปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาว่าจะล้นฝั่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเมื่อไหร่ น้ำเหลือก็หลากมา เจ้าพระยาน้ำก็กำลังจะล้นฝั่ง ริมสองฟากฝั่งเจ้าพระยาในยามนี้มีสายตาของผู้คนจากทุกสารทิศเฝ้าจับตาดูอย่างกังวลใจ หากน้ำล้นพนังกั้นน้ำหรือพนังกั้นน้ำสองฝั่งแตกเมื่อไหร่ กรุงเทพก็คงไม่ต่างอะไรกับเมืองบาดาล
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
25/10/54