ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

         บางครั้งความเป็นเพื่อนหรือความเป็นสหายอาจจะไม่ได้มาจากการอยู่ร่วมกัน แต่อาจจะมาจากการได้พบกันเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆแต่มีสัมพันธ์ที่สนิทคุ้นเคยเพียงเพราะมาจากการได้พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง แม้จะต่างเพศแผกผิวพรรณแต่ก็สามารถคบหาเป็นเพื่อนกันได้ บางครั้งไม่รู้จักชื่อกันด้วยซ้ำแต่มีความรู้สึกรักและผูกพันเหมือนญาติสนิท ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง  เพื่อนที่จะต้องแก่ เจ็บ ตายเหมือนกันมีอยู่ทั่วโลก เพราะทุกคนย่อมมีความตายเป็นธรรมดา


         วันอาทิตย์ไปฉันเพลวัดอาวุธวิกสิตารามในงานวันศาสนศึกษาปีที่ 21 และฉลองสมณศักดิ์พระราชดิลก(ประณต ปธ. 9,Ph.D) และแสดงมุทิตาพระภิกษุสามเณรผู้สอบไล่ได้เปรียญธรรม สำนักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด กรุงเทพมหานคร วัดนี้จัดการเรียนการสอนแผนกบาลี มีผู้สอบเป็นเปรียญธรรมได้ทุกปี เป็นสำนักเรียนที่ประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งในแต่ละปีมีนักเรียนเข้ามาศึกษาภาษาบาลีจำนวนมาก
         พระอารามหลวงแห่งนี้เป็นสำนักเรียนที่สำคัญสร้างบุคคลากรทางด้านศาสนาเป็นจำนวนมาก มีพระเปรียญธรรม 9 ประโยคหลายรูป มีพระที่เรียนจบปริญญาเอกที่ยังอยู่จำพรรษาในปัจจุบันสามรูป กำลังศึกษต่อทั้งในและต่างประเทศอีกหลายรูป ที่เคยบวชเรียนในอารามแห่งนี้ภายหลังลาสิกขาออกไปจบดอกเตอร์อีกหลายท่าน บุคคลากรเหล่านี้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนาอย่างเอนกอนันต์ ลูกหลานคนจนหากไม่บวชเรียนโอกาสที่จะเรียนจบปริญญาเอกนั้นมีน้อยมาก

 

 

         นอกจากพระสงฆ์แล้ววัดอาวุธวิกสิตารามยังมีแม่ชีที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งคือแม่ชีบุญเรือน สร้างพระผงที่มีคนต้องการมากรุ่นหนึ่งคือพระผง “พุทโธน้อย” ปัจจุบันมีผู้เลื่อมใสศรัทธาเข้าไปสักการะไม่เว้นแต่ละวัน หากพูดถึงพระผงในวงการพระเครื่องจะต้องมีชื่อ “พระพุทธโธน้อย” แห่งวัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด อยู่ด้วย
         ผู้เขียนแม้จะไม่เคยอยู่จำพรรษาที่อารมแห่งนี้แต่ก็มีเพื่อนและครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์หลายรูป ช่วงหนึ่งเคยเป็นนักศึกษามาเรียนที่วัดแห่งนี้ เรียนในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ เรียนอยู่หลายปี เพราะต้องเดินทางไปเรียนทุกอาทิตย์นี่เองจึงได้พบอุบาสิกาที่ไม่รู้จักชื่อคนหนึ่ง เป็นยายชราที่ตอนนั้นอายุใกล้เก้าสิบปีแล้ว ยายมาถวายอาหารแด่พระภิกษุในอารามแห่งนี้แทบทุกวัน ผู้เขียนเองก็เคยได้รับอาหารจากยายหลายครั้ง
         ในงานวันนั้นพยามสอดส่องมองหายายชราคนที่คุ้นเคยกันมานาน แทบทุกปีหากมีโอกาสก็มักจะนั่งสนทนากับยายชราเสมอ ยายอายุมากแล้วนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครมาถวายอาหารเพลที่วัดอาวุธฝั่งธนบุรีแทบทุกวัน อาหารไม่ได้พิเศษอะไรเป็นเพียงข้าวสุกหนึ่งห่อและกับอีกหนึ่งอย่างเท่านั้น แต่ยายกระทำติดต่อกันมานานนับยี่สิบปี หากไม่เจ็บป่วยยายบอกว่าจะมาทุกวัน ผู้เขียนเคยได้รับการถวายอาหารจากยายชราเหมือนกัน วันนั้นนั่งอ่านหนังสือที่ใต้ต้นหูกวาง เห็นยายเดินหลังค่อมผ่านมาจึงเอ่ยทัก ยายจึงนำอาหารมาถวายให้พรเสร็จดูยายมีความสุข ยายนั่งคุยด้วยสักพักก็เดินหลังค่อมไปยังท่าน้ำเพื่อที่จะนั่งเรือข้ามฟากไปยังฝั่งพระนคร ยายมีบ้านพักอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา

 

 

         แม้จะพบกันอีกหลายครั้งแต่ยายก็ไม่เคยเล่าประวัติของตนเองให้ฟังเลย ยายยังเดินงกๆเงิ่นๆหลังงองุ้มจนหน้าเกือบจะติดพื้นอยู่แล้ว แต่ยายยังคงถือห่ออาหารเดินเข้าวัดอาวุธวิกสิตาราม เพื่อถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง พระสงฆ์ที่รับอาหารของยายประจำรูปหนึ่งคือพระครูพันธสีลาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม
          เคยถามยายว่าทำไมจึงชอบทำบุญ ยายบอกว่า “ยายเคยจำคำที่พระเทศน์ได้อยู่คำหนึ่งว่า “การทำบุญนำสุขมาให้” ยายยังจำภาษาบาลีได้ด้วยนะ “สุโข ปุญญัสสะ อุจจโย” ท่องคาถาจบเห็นรอยยิ้มของยายอย่างมีความสุข "ยายจำได้แค่นั้นแหละ พระท่านชอบเทศน์บ่อยๆ  แต่ยายไม่รู้ว่ามาจากไหน จากวันนั้นมายายก็เริ่มทำบุญ ไม่ใช่ถวายอาหารอย่างเดียวนะ นั่งสมาธิภาวนายายก็ทำ แม้จะไม่ได้ทำทุกวันแต่ก็ทำอยู่เป็นประจำ ทำแล้วมีความสุข" พยายามจะถ่ายภาพยายหลายครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ ยายเดินเร็วมาก
         การทำบุญนำสุขมาให้ ที่ยายว่ามาจากพุทธศาสนสุภาษิตในขุททกนิกาย ธรรมบท (25/19/22) ความว่า   “สุโข  ปุญฺญสฺส  อุจฺจโย  การสั่งสมบุญนำสุขมาให้” สิ่งที่ยายจดจำมาได้ แม้จะไม่ตรงตามคำแปลดั้งเดิมนัก แต่ความหมายไม่ได้เปลี่ยนไป ยายอาศัยเพียงความจำจดคำพระเทศน์ได้ข้อเดียวแต่ทำบุญมาตลอดชีวิต สุภาษิตบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องจำมาก เพียงคำเดียวสั้นๆหากดำเนินตามก็อาจจะสำเร็จประโยชน์ได้
         ในงานวันนี้พยายามมองหายายคนที่คุ้นเคยแต่ไม่เห็นหน้าเลย หากยายอยู่น่าจะมีอายุเกินเก้าสิบปีแล้ว จึงเอ่ยถามพระมหารูปหนึ่งว่า “ยายที่เคยมาถวายภัตตาหารเพลประจำยังอยู่หรือไม่” พระมหารูปนั้นบอกว่า "ไม่เห็นมานานแล้ว” สันนิษฐานว่ายายคงเสียชีวิตแล้ว หรือหากว่ายังมีชีวิตอยู่ก็คงเดินทางไปไหนมาไหนลำบากแล้ว

 


         ร่างกายของมนุษย์ย่อมจะมีการแตกดับเป็นธรรมดาเหมือนที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่ภิกษุณีนามว่าอุตตราเถรีซึ่งเป็นภิกษุณีอายุร้อยยี่สิบปี นางชอบถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระภิกษุรูปอื่นๆ จึงมักจะต้องอดอาหารอยู่ประจำ วันหนึ่งภิกษุณีกลับจากบิณฑบาตพบพระพุทธเจ้ากำลังเดินผ่านมา พอถอยกลับจึงสดุดเหยียบชายจีวรตนเองล้มลงได้รับบาดเจ็บ พระพุทธเจ้าจึงแสดงคาถาดังที่ปรากฎในขุททกนิกาย ธรรมบท (25/21/24) ความว่า “รูปนี้แก่หง่อมแล้ว เป็นรังของโรค เปื่อยพัง กายของตนเป็นของเน่าจักแตก เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด”
       คำว่า “รูป” ในที่นี้หมายถึงอัตตภาพคือสรีระชื่อว่าแก่หง่อมแล้วเพราะความเป็นคนแก่ รูปนั้นชื่อว่าเป็นรังของโรคเพราะเป็นสถานที่อยู่อาศัยของโรคทุกชนิด  เปรียบเหมือนสุนัขจิ้งจอกแม้ยังเป็นสุนัขหนุ่มเขาเรียกว่า  “สุนัขจิ้งจอกแก่” เถาหัวด้วนแม้อ่อนเขาเรียกว่า   “เถาเน่า” ฉันใด รูปนี้ก็ฉันนั้นแม้เกิดในวันนั้นเป็นรูปมีสีเหมือนทองคำก็ชื่อว่า "กายเน่า เปื่อยพังเพราะไหลออกเป็นนิตย์  ร่างกายนี้เป็นของเน่า" พึงทราบเถิดว่า  “จะแตก   คือจักทำลายต่อกาลไม่นานนัก เพราะชีวิตของสรรพสัตว์มีความตายเป็นที่สุดทั้งนั้น”
         การเจ็บป่วยจึงเป็นเรื่องธรรมดาเป็นธรรมชาติของกายนี้ สักวันก็ต้องแตกสลายเปื่อยเน่าไปตามกาลเวลา ยายก็คงไปตามธรรมดา แม้เราเองก็คงไม่ต่างอะไรจากคนอื่นๆ ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การยอมรับและทำความเข้าใจกับความเป็นธรรมดาของชีวิตแล้วเร่งทำความดีจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เมื่อเวลาแห่งความจริงมาถึงก็จะได้ไม่เศร้าโศกจนเกินไป และไม่เศร้าใจจนเกินเหตุ
         ก่อนงานจะเริ่มเดินเล่นรอบๆบริเวณงาน เผื่อว่าบางทีอาจจะได้พบยายคนนั้นบ้าง แต่เวลาผ่านไปก็ยังไม่เห็นหน้ายายเลย ไม่รู้ในใจเกิดอะไรขึ้นมาทำไมในงานฉลองผู้สอบบาลีได้และฉลองสมณศักดิ์ซึ่งน่าจะเป็นงานที่เป็นมงคล แต่ทำไมใจกลับไปคิดกังวลถึงคนที่ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้เลย ขณะที่กำลังยืนเล่นและคิดอะไรเพลินๆใต้ต้นหูกวาง โสตสัมผัสพลันได้ยินเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาว่า “หลวงพ่อคะหนูนำอาหารมาถวาย แต่ไม่กล้าเข้าไปในงาน หลวงพ่อช่วยรับหน่อยซิคะ” เป็นเสียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆอายุน่าจะอยู่ราวๆห้าหกปี แต่งตัวมอมแมมเสื้อผ้าเก่าๆ พอรับเสร็จตั้งใจว่าจะถามอะไรหน่อย แต่เด็กคนนั้นเดินแหวกผู้คนหายลับไปทางท่าน้ำหน้าวัดแล้ว

 

 

         อาหารที่เด็กหญิงคนนั้นถวายมีข้าวสุกหนึ่งห่อและแกงอีกหนึ่งถุง แต่ทำไมอาหารที่ได้รับในวันนี้จึงเหมือนกับอาหารที่ยายคนนั้นนั้นเคยถวายเมื่อหลายปีก่อนทุกอย่างเหมือนกันหมดเลย ผิดกันแต่ช่วงของกาลเวลา ถวายใต้ต้นหูกวางต้นเดียวกันที่ทุกวันนี้แผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โตกลายเป็นที่หลบแดดได้แล้ว ตอนที่ยายถวายอาหารครั้งแรกนั้น ต้นหูกวางพึ่งเป็นต้นเล็กๆเท่านั้นเอง ยายคนนั้นก็ไม่รู้จักชื่อ เด็กหญิงคนนั้นก็ไม่รู้จักนาม ทั้งยายชราและเด็กหญิงคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ไม่รู้จักชื่อเหมือนกับชาวโลกอีกหลายล้านคนที่ไม่รู้จักนามเช่นกัน แต่ทุกคนคือเพื่อนที่จะต้องแก่ เจ็บ ตายด้วยกัน

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
19/09/54

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก