งานสืบสานประเพณีวันสงกรานต์ที่วัดมัชฌันติการาม แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนที่อื่น แต่ผู้คนต่างก็มาร่วมงานกันอย่างล้นหลาม ช่วงเช้าฟังเทศน์ บังสุกุลอิฏฐิร่วมกันที่ศาลาการเปรียญ และยังร่วมบริจาคทรัพย์ให้กองทุนคนเป็นโรคเรื้อนและโรคเอดส์ในสังฆราชูปถัมภ์อีกด้วย หลวงตาไซเบอร์ได้รับมอบหมายให้เป็นองค์แสดงธรรม กัณฑ์เทศน์ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ได้มอบให้กองทุนด้วย คนป่วยที่ไม่มีทางรักษาน่าสงสาร พอภาคบ่ายจึงมีพิธีสรงน้ำและรดน้ำพระสงฆ์ จากนั้นพุทธศาสนิกชนจึงร่วมสาดน้ำในวันสงกรานต์อย่างสนุกสนาน
กำลังถ่ายภาพอยู่เพลินๆพลันมีเสียงจากด้านข้างเอ่ยขึ้นว่า“วันนี้ผมรู้สึกรักเมืองไทยเป็นพิเศษ” หันไปจึงได้เห็นคุณพ่อดร. เชาว์ถือกล้องถ่ายภาพอยู่เหมือนกัน ท่านเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปอันเป็นพระประธานที่อัญเชิญมาที่ลานพระอุโบสถ จากนั้นจึงสรงน้ำพระภิกษุสามเณร และรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ พวกเด็กๆต่างขอรดน้ำท่าน ดร.กันเป็นแถว ทุกคนมีรอยยิ้มและละเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน วันนี้ไม่มีใครมียศฐาบรรดาศักดิ์ ทุกคนสามารถรดน้ำและเล่นกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนชรา จะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม
หลวงตาไซเบอร์กับท่านดร.เชาว์ ทำหน้าที่ถ่ายภาพงานวันสงกรานต์ แม้จะพยายามหลบน้ำแล้วก็ตามก็ยังเปียกปอนไปตามๆกัน เรายืนสนทนากันข้างๆพระอุโบสถวัดมัชฌันติการาม ในขณะที่ผู้คนต่างก็พากันสรงน้ำพระภิกษุสามเณรและละเล่นสาดน้ำกันอย่างมีความสุข วันนี้ทุกคนจึงมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข
ดร.เชาว์ยังพูดต่อไปว่า “ผมเดินทางมาแล้วเกือบทั่วโลกแทบทุกประเทศเดินทางแทบทุกเดือน แต่ไม่เคยเห็นประเทศไหนมีพิธีที่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับประเทศไทย แม้จะเคยพบเห็นประเพณีมาหลายอย่างเช่นที่อินเดียประเพณีที่ถือว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครในโลกคือ “พิธีกุมภเมลา”ซึ่งจัดขึ้นทุกห้าปี มีคนเข้าร่วมงานประมาณสิบล้านคน แต่นั่นนานๆเขาจัดที แม้จะมีคนเข้าร่วมงานมากแต่ผมว่าความยิ่งใหญ่ไม่ติดตาตรึงใจเหมือนสงกรานต์ที่ประเทศไทย”
หลวงตาไซเบอร์ฯได้ทีจึงบอกว่า “ไม่เข้าข้างตัวเองมากไปหน่อยหรือคุณพ่อดอกเตอร์”
ดร.เชาว์ “อาจจะมีส่วนของความเป็นชาตินิยมอยู่บ้าง แต่หากคิดดูจริงๆ ประเพณีสงกรานต์จัดทั่วประเทศ น่าจะมีคนเข้าร่วมงานมากกว่าสิบล้านคน อีกอย่างจัดติดต่อกันสามวันสามคืน ต่างฝ่ายต่างจัด โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ทุกคนมาร่วมงานกันที่วัด แม้จะไม่ใช่ประเพณีไทยทั้งหมด เพราะมีส่วนผสมของลัทธิพราหมณ์อยู่บ้าง แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของพุทธศาสนาไม่ได้สูญเสียไป ดีเสียอีกที่มีการประยุกต์เข้ากับวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาอื่นได้ ทุกศาสนาน่าจะอยู่กันในสังคมอย่างสันติสุขได้”
หลวงพ่อโสมนันทะ จากประเทศศรีลังกา ซึ่งจะมาร่วมงานประเพณีสงกรานต์ที่ประเทศไทยแทบทุกปีเดินเข้ามาหาพลางเอ่ยขึ้นลอยๆว่า “อาตมาว่าการไหว้พระเขี้ยวแก้วที่เมืองแคนดี้ และพิธีไหว้ต้นโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระยิ่งใหญ่แล้ว แต่ว่ามนต์เสน่ห์ของสงกรานต์ที่เมืองไทยกลับมีความน่าประทับใจไม่แพ้กัน อาตมาว่ามันเหมือนกับทุกคนเป็นญาติกันหมด แม้อาตมาจะฟังภาษาไทยไม่ได้ทั้งหมด แต่ทว่าสัมผัสถึงความเป็นญาติกันได้” พูดจบท่านก็หันไปให้อุบาสิการดน้ำ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกัน
ยายสอนและยายซิวมาขอรดน้ำแต่วิธีการรดของทั้งสองคือราดรดลงมาจากไหล่จึงต้องเปียกปอนไปทั้งสองคน แถมน้ำยังใส่น้ำแข็งลงไปอีกเพิ่มความเย็นยะเยียบ แต่ไม่มีใครบ่น ไม่มีใครต่อว่า เพราะนั่นคือความเข้าใจของยายสอนและยายซิวว่าน้ำยิ่งเย็นยิ่งทำให้คนสบายหายร้อนได้ หากคนใจสงบเย็นก็เอาชนะคนใจร้อนได้เหมือนกัน น้ำดับความร้อนทางกาย ใจที่เย็นสงบก็จะดับความร้อนภายในได้
พวกเด็กๆที่ไม่รู้จักชื่ออีกหลายคนมาขอร่วมวงด้วย ทั้งหลวงตาและดอกเตอร์คุยกันไป พอเห็นจังหวะเหมาะๆก็ถ่ายภาพเก็บไว้ สามสาววัยเหลือน้อยยังยิ้มและยืนให้ถ่ายภาพอย่างมีความสุข แต่ไม่รู้จะเคยภาพตัวเองทางเว็บไซต์หรือไม่ เพราะดูตามอายุแล้วน่าจะเลยวัยที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแล้ว
มองเห็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กำลังเดินพบปะสนทนากับประชาชนที่พากันนั่งพักเหนื่อยใต้ร่มไม้ มีคนบอกว่านี่คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไปในเขตบางซื่อ แต่หลวงตาไซเบอร์ฯไม่ได้สนใจการเมืองสักเท่าไหร่จึงจำชื่อไม่ได้ แต่ก็ยังภาคภูมิใจแทนเจ้าอาวาสว่าสงกรานต์ปีนี้มีผู้คนจากหลายอาชีพมาร่วมงาน แม้แต่ว่าที่ท่าน ส.ส.ก็ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย
สงกรานต์ปีนี้ได้ข่าวว่ามีการบันทึกลงกินเนสบุ๊คด้วยว่ามีการละเล่นน้ำด้วยปืนฉีดน้ำนานติดต่อกันสิบนาทีมีผู้เข้าร่วมจำนวนถึง 3470 คน และยังมีการเล่นคลื่นมนุษย์บนถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่นอีกนัยว่ามีคนเข้าร่วมนับหมื่นคน สิ้นสงกรานต์น่าจะมีสถิติโลกอีกหลายอย่าง ในช่วงนี้ประเทศไทยมีความสงบ จึงละเล่นกันอย่างสนุกสนาน
เห็นตาดีเดินถือขันน้ำผ่านฝูงชนเข้ามาด้วยร่างที่เปียกปอนมาพร้อมกับตาแก้ว ทั้งสองผู้เฒ่าคงกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว จึงกวักมือเรียก ตาดีสรงน้ำเสร็จแล้วจึงให้พรแกว่าขอให้มีอายุยืน สุขภาพแข็งแรง จากนั้นจึงขอให้ตาดีให้พรบ้างในฐานะเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง ตาดีบอกว่า “ขอให้ร่างกายแข็งแรง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ มีอายุอยู่ถึงสงกรานต์ปีหน้า สาธุ” ส่วนตาแก้วได้แต่ยิ้มไม่ได้ให้พรอะไร จากนั้นทั้งสองผู้เฒ่าก็ยกมือไหว้ และต้องรีบเดินต่อไปเพราะมีคนมาขอรดน้ำอีกหลายคน
เมื่อประชาชนรดน้ำบางตาแล้วถึงเวลาที่พระภิกษุสามเณรจะพากันรดน้ำขอพรจากเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและหลวงพ่อโสมนันทะจากศรีลังกาซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่สุดในงานสงกรานต์ปีนี้ เจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสให้พรสั้นๆแต่เป็นประโยคเดียวกันเหมือนนัดกันไว้ว่า “ขอให้จบปริญญาเอก และขอให้สอบประโยคเก้าให้ได้”
ได้แต่เปล่งอุทานในใจว่า "โอ้โห...ชั้นสูงสุดทั้งทางโลกทางธรรมเลยนะนั่น" ฟังคำให้พรของหลวงพ่อทั้งสองแล้วหนาวยิ่งกว่าน้ำอบใส่น้ำแข็งเสียอีก
สงกรานต์ปีนี้คนไทยทุกหมู่เหล่าคงมีความสุขกันถ้วนหน้า สุขกายสุขใจในวันสงกรานต์ ชีวิตต้องหยุดพักบ้าง จึงจะมีแรงกายแรงใจทำงานตามหน้าที่ต่อไป เสร็จสิ้นประเพณีสงกรานต์เมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที ช่วงนี้ขอมีความสุข ลืมทุกข์โศกลืมโรคภัยไว้ชั่วคราว
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
14/04/53
ฟังดนตรีบรรเลงสนุกๆสักสองเพลง
บรรเลงเพลงแห่
{mp3}hae{/mp3}
ดนตรีแห่งานทั่วไป
{mp3}dontreehae{/mp3}
อยากฟังมากกว่านี้ไปที่ http://www.cybervanaram.net/index.php?option=com_content&view=article&id=342:2010-11-23-13-19-20&catid=1:2009-12-15-05-21-26&Itemid=2