เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาเนื่องจากฝนตกหนักน้ำสาดกระหน่ำมายังกุฏิที่พัก มีโน็ตบุ๊คเก่าๆอยู่เครื่องหนึ่งที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการทำงาน เขียนหนังสือ เขียนบทความ เผยแผ่ทางเว็บไซต์ ใช้งานมานานเกินสามปีแล้ว หมดประกันเรียบร้อย อยู่ดีๆเครื่องหยุดทำงานไปเฉยๆ เวลามีประกันไม่เป็นไร พอหมดประกันเริ่มมีปัญหาจึงไปให้ร้านซ่อมที่พันทิพย์พลาซ่า แหล่งที่ขายเครื่องมือทางคอมพิวเตอร์ ในขณะที่นั่งรอเลยมีโอกาสสนทนากับพนักงานขาย
ช่วงเวลาที่รอช่างซึ่งบอกว่าไม่น่าเกินหนึ่งชั่วโมง แต่เวลาซ่อมจริงๆนานกว่าสามชั่วโมง จึงมีเวลาเหลือขณะรอไม่รู้จะเดินไปไหนก็เลยได้ฟังคนขายพูดไปเรื่อยๆ เขาเล่าต่อไปว่า “ทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ขายของไม่ค่อยได้ คนไม่ค่อยมีกำลังซื้อ อีกอย่างสินค้าออกใหม่ๆมีมาก คนซื้อตามไม่ค่อยทัน จึงดูเหมือนกับว่าคนคนขายมากกว่าคนซื้อ จึงต้องเปลี่ยนวิธีการคือจากขายอย่างเดียวตอนนี้เลยต้องรับซ่อมไปด้วย ซึ่งก็พอมีรายได้จ่ายลูกจ้างอย่างที่เห็นนี่แหละ สินค้าทุกวันนี้เน้นที่ความสวยงาม แต่ไม่ค่อยทนเหมือนสมัยก่อน บางอย่างใช้ได้ไม่กี่วันก็ต้องซ่อมแล้ว”
อาชีพพ่อค้าแม่ค้าน่าจะเป็นอาชีพที่ดีที่สุดอาชีพหนึ่งเพราะมีความอิสระ ไม่ต้องขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ฝนจะตกแดดจะร้อน น้ำจะท่วม ฟ้าจะแล้งก็ยังขายได้ กลับมาถึงวัดเปิดพระไตรปิฎกได้พบกับคุณสมบัติของพ่อค้าที่จะทำให้ร่ำรวยนั้น มีแสดงไว้ในปาปณิกสูตร อังคุตรนิกาย ติกกนิบาต (20/459/111) ความว่า “พ่อค้าผู้ประกอบด้วยองค์สามประการ ย่อมถึงความมีโภคทรัพย์มากมายเหลือเฟือไม่นานเลยคือพ่อค้าในโลกนี้ เป็นคนที่มีตาดี มีธุระดี ถึงพร้อมด้วยบุคคลที่จะเป็นที่พึ่งได้”
จากนั้นจึงมีคำอธิบายขยายความว่า “เป็นคนที่มีตาดี” ความว่า “พ่อค้าในโลกนี้ย่อมรู้สิ่งที่จะพึงซื้อขายว่า สิ่งที่พึงขายนี้ ซื้อมาเท่านี้ ขายไปเท่านี้ จักได้ทุนเท่านี้ มีกำไรเท่านี้
พ่อค้าชื่อว่ามีธุระดีคือพ่อค้าในโลกนี้ เป็นคนฉลาดที่จะซื้อและขายสิ่งที่ตนจะพึงซื้อขาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย พ่อค้าชื่อว่าเป็นคนมีธุระดี
พ่อค้าชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคนซึ่งจะเป็นที่พึ่งได้แก่พ่อค้าในโลกนี้ อันคฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีผู้มั่งคั่ง ผู้มีทรัพย์มากมีโภคะมาก ทราบได้เช่นนี้ว่าท่านพ่อค้าผู้นี้แล เป็นคนมีตาดี มีธุระดี สามารถที่จะเลี้ยงบุตรภรรยา และใช้คืนให้แก่เราตามเวลาได้ เขาต่างก็เชื้อเชิญพ่อค้านั้นด้วยโภคะว่า แน่ะท่านพ่อค้าผู้สหาย แต่นี้ไปท่านจงนำเอาโภคะไปเลี้ยงดูบุตรภรรยา และใช้คืนให้แก่เราตามเวลา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พ่อค้าผู้ประกอบด้วยองค์สามประการนี้แล ย่อมจะถึงความมีโภคะมากมายเหลือเฟือไม่นานเลยฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรมสามประการฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมถึงความเป็นผู้มากมูนไพบูลย์ในกุศลธรรมไม่นานเลย ธรรมสามประการคือภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีจักษุ มีธุระดี ถึงพร้อมด้วยภิกษุพอจะเป็นที่พึ่งได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้มีจักษุหมายถึงภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกข์นิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้มีธุระดีคือภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่น ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้มีธุระดี
ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยภิกษุพอจะเป็นที่พึ่งได้คือภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเข้าไปหาภิกษุ ผู้เป็นพหูสูต เรียนจบคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ตามเวลา แล้วไต่ถาม สอบสวนว่า ท่านผู้เจริญ พระพุทธพจน์นี้อย่างไร ความแห่งพระพุทธพจน์นี้อย่างไร ท่านเหล่านั้น ย่อมเปิดเผยธรรมที่ยังไม่เปิดเผย ย่อมทำธรรมที่ยังมิได้ทำให้ตื้นแล้วให้ตื้น และย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยมิใช่น้อยแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยภิกษุพอจะเป็นที่พึ่งได้อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรมสามประการนี้แล ย่อมถึงความเป็นผู้มากมูนไพบูลย์ในกุศลธรรมทั้งหลายไม่นานเลย
พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบพ่อค้ากับภิกษุว่าต้องมีลักษณะอย่างเดียวกัน แต่คำอธิบายไม่เหมือนกัน พ่อค้าต้องการมีสิ่งที่มี ส่วนพระสงฆ์นั้นมีในสิ่งที่ไม่มี พ่อค้าต้องเป็นคนที่มีตาดี มีธุระดี ถึงพร้อมด้วยบุคคลที่จะเป็นที่พึ่งได้ ส่วนภิกษุต้องเป็นผู้มีจักษุ(ตาดี) มีธุระดี ถึงพร้อมด้วยภิกษุพอจะเป็นที่พึ่งได้
ใครที่กำลังคิดจะทำธุรกิจด้วยการค้าขายก็ลองนำไปพิจารณาดูว่าตนเองมีคุณสมบัติของพ่อค้าครบถ้วนบริบูรณ์หรือไม่ คาดการณ์อะไรถูกต้องแม่นยำหรือไม่(มีตาดี)ขยันหรือไม่(ธุระดี) และมีแหล่งเงินทุนหรือไม่(มีที่พึ่ง)อาจสรุปได้สั้นๆว่า “พ่อค้าต้องตาดี มีธุระ หาที่พึ่ง จึงจะร่ำรวย” หากครบตามนี้จะขายอะไรก็ได้ที่มีคนซื้อ โอกาสรวยเป็นไปได้สูง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
07/04/54