ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ธรรมยุต รุ่นที่ 17 ได้เสร็จสิ้นการฝึกภาควิชาการที่เรียนมาครบสองเดือนเต็ม วันสุดท้ายได้ไปถวายสักการะสมเด็จพระธีรญาณมุนี ประธานสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ที่พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส จากนั้นจึงออกเดินทางเพื่อฝึกการอบรมภาคนวกรรมที่วัดป่าสิริวัฒนวิสุท์ธิ์ ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือที่ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกว่า “วัดพระพี่นาง” ตั้งอยู่บนภูเขาโคกเผ่น บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
ที่วัดป่าแห่งนี้พอตกตอนกลางคืนอากาศหนาวเย็น พร้อมทั้งมีกระแสลมแรง พัดพากเอาเกษรหมามุ่ยมาตามสายลม แม้อากาศจะเย็นสบายแต่ทว่าพิษสงของเจ้าหมามุ่ยก็ไม่ใช่ธรรมดา หากระมัดระวังไม่ดีอาจจะต้องนอนสะดุ้งทั้งคืนเพราะพิษร้ายของเจ้าหมามุ่ยที่เกิดตามธรรมชาติ แต่พิษนั้นก็ทำอันตรายไม่ได้ เพราะที่เขาโคกเผ่นมีความสงบ เงียบ สงัด ปราศจากเสียงรบกวนความเงียบนี่แหละคืออาวุธที่สำคัญอย่างหนึ่งของนักปฎิบัติธรรม พระธรรมทูตเหล่านี้จะต้องฝึกอบรมทั้งภาควิชาการ ภาคจิตตภาวนา(กรรมฐาน)และภาคนวกรรม(การก่อสร้าง) เพราะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้ว บางครั้งมีความจำเป็นจะต้องพัฒนาวัด หรือก่อสร้างศาสนวัตถุต่างๆขึ้นมา นัยว่าบางประเทศคนงานก่อสร้างหายากและต้องจ้างในราคาที่แพงมาก ดังนั้นจึงต้องอาศัยแรงงานของพระธรรมทูตที่จำพรรษาในแต่ละวัดเป็นผู้ก่อสร้างเสียเอง พระธรรมทูตยุคใหม่จึงต้องมีทั้งวิชาการ วิชาการก่อสร้างและวิชากรรมฐานไปพร้อมๆกัน
ในหนังสือวิสุทธิมรรคได้ระบุว่าพระสามประเภทที่บวชได้นานคือพระฝ่ายปริยัติ(นักศึกษา) พระฝ่ายวิปัสสนา(กรรมฐาน)และพระนวกรรม(ก่อสร้าง) เพราะงานทั้งสามนั้นต้องทำอย่างต่อเนื่อง พระนักศึกษาต้องศึกษาเล่าเรียนไปตามลำดับ จบชั้นนี้ก็ต้องเรียนต่อชั้นสูงขึ้นไป เวลาที่จะคิดเรื่องการลาสิกขาจึงมีน้อยลง พระสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนาก็ในทำนองเดียวกัน ต้องบำเพ็ญเพียรทางจิตเป็นไปตามลำดับ ค่อยๆพัฒนาจิตไปเรื่อยๆตามภูมิธรรม จนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น เมื่อย้อนคิดอีกครั้งก็กลายเป็นครูบาอาจารย์ไปแล้ว ส่วนพระสงฆ์ในฝ่ายนวกรรมหรือการก่อสร้างซ่อมแซมศาสนวัตถุนั้น มองดูภายนอกเหมือนจะง่าย แต่การก่อสร้างทั้งหลายนั้นต้องอาศัยทั้งแรงกาย แรงทรัพย์เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย คิดแต่เรื่องการพัฒนาศาสนวัตถุ ในที่สุดก็เกินเวลาลาสิกขา จึงอุปสมบทอยู่ในพระพุทธศาสนาได้นาน เมื่องานทั้งสามมาอยู่ในพระรูปเดียวกันจึงสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าพระธรรมทูตเหล่านี้จะทำงานในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัดป่าสิริวัฒฯวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ มีศาสนวัตถุที่น่าสนใจหลายอย่างเริ่มต้นตั้งแต่การวางผังในการสร้างวัดก็มีรูปเป็นเรือขนาดใหญ่มองดูไกลๆเหมือนกำลังขับเคลื่อนไปตามกระแสธาร ที่เรียกว่า “เรือราชญาณนาวาทีฆายุมงคล” เป็นปริศนาธรรมว่าธรรมเหมือนเรือที่กำลังขนหมู่สัตว์ไปสู่ฝั่งคืออมตนิพพาน อีกอย่างหนึ่งที่เด่นเป็นสง่าคือ “เจดีย์ศรีพุทธคยา” ที่ใครที่เดินทางมายังวัดแห่งนี้จะต้องไปสักการบูชา แต่สิ่งที่สะดุดตาเมื่อคราที่ได้พบเห็นกลับเป็นสิ่งที่เรียบง่าย แต่ชวนให้สงสัยเป็นอย่างยิ่ง มีพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 5 เมตร สูง 10 เมตร ประกอบด้วยประภามณฑลและฉัตรทองอีก 9 ชั้น สูงประมาณ 4 เมตร จึงกลายเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 14 เมตร เด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ประมาณกลางๆวัด ใครที่เดินไปมาก็ต้องพบเห็น แต่ทว่าพระพุทธรูปองค์นี้ไม่มีหน้า ไม่มีหลัง มีแต่องค์พระจึงกลายเป็นพระที่ไม่มีหน้า
พระพุทธรูปองค์นี้คือพระภควัมบดีหรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “พระอยู่เย็นเป็นสุข” หรือ “พระไม่มีหน้า” จุดประสงค์ของผู้สร้างเคยได้ฟังจากปากคำของพระเทพโมลีประธานดำเนินการสร้างฝ่ายสงฆ์ชี้แจงให้ฟังว่า “ต้องการบอกนัยแก่คนทั่วไปว่า ทำอะไรไม่เอาหน้า หรือทำดีแต่ไม่เอาหน้าในสังคม อันเป็นจุดประสงค์เพื่อบอกให้คนไทยรู้จักปิดทองหลังพระกันบ้าง ไม่ใช่ทำอะไรก็คิดถึงแต่หน้าตาและชื่อเสียงของตนจนเกินงาม อันเป็นเหตุให้แผ่นดินร้อนเป็นไฟเช่นทุกวันนี้”
พระพุทธรูปองค์นี้มีรูปลักษณะเหมือนพระสังกัจจายน์ อันเป็นการบ่งบอกบอกถึงความสมบูรณ์ ลักษณะเด่นของพระองค์นี้คือไม่มีหน้าหันหลังชนกันจึงมีลักษณะเหมือนกันทั้งสองด้านคือมองด้านไหนก็ได้ เป็นพระที่ไม่มีหน้าไม่มีหลัง อันบ่งถึงปรัชญาในการทำงานว่า “ทำอะไรไม่ต้องมีหน้ามีหลังคือทำดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง อันเป็นลักษณะของคนที่ทำงานเพื่องานจริงๆไม่ต้องกังวลเรื่องการมีหน้าตาในสังคม ซึ่งสังคมปัจจุบันจะทำอะไรมักจะต้องทำเพื่อเอาหน้า ถ้าไม่มีหน้าตามีชื่อเสียงในสังคมส่วนมากจะไม่ทำ แต่การปิดทองหลังพระซึ่งเป็นองค์เดียวกัน แม้คนจะนิยมมองที่หน้าองค์พระ แต่ทว่าด้านหลังก็ต้องปิดทองเหมือนกัน หากหน้าองค์พระสวยงามอร่ามด้วยทองคำ แต่พอไปดูด้านหลังมีแต่ปูนที่ยังตกแต่งไม่เสร็จ ยังไม่ทาสียังไม่ปิดทองด้วยซ้ำ พระนั่นก็ยังไม่สมบูรณ์ มนุษย์ก็เฉกเช่นเดียวกันทำอะไรต้องโชว์ด้านหน้าไว้ก่อน ส่วนเบื้องหลังจะได้มาอย่างไรนั้น ไม่ได้คำนึงถึง เหมือนกับนักการเมืองบางคนเคยกล่าวไว้ว่า “อาชีพนักการเมืองต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะ” ดังนั้นแม้จะต้องโกหกหอกลวงก็ไม่ได้สนใจเพราะจุดมุ่งหมายอยู่ที่ชัยชนะนั่นเอง นัยว่าปัจจุบันมีนักการเมืองประเภทนี้เป็นจำนวนมาก และยังมีอิทธิพลแผ่กระจายไปยังประชาชนทั่วไปอีกด้วย นักการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชน คนทั้งหลายต่างก็ทำตามตัวอย่างที่ได้พบเห็น คนทั่วไปจึงชอบทำงานเอาหน้ากัน
เสียดายแต่พระภควัมบดีองค์นี้ประดิษฐานอยู่กลางป่า แม้จะมีผู้คนมาชมทัศนยภาพของวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จังหวัดนครสวรรค์อยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับประชาชนอื่นๆก็ยังนับว่าน้อย หากนิมนต์พระพุทธรูปองค์นี้ไปประดิษฐานกลางชุมชนขนาดใหญ่ที่มีผู้คนเดินไปมาพลุกพล่านอาจจะเป็นเครื่องเตือนใจมนุษย์ทั้งหลายได้มากยิ่งขึ้น พระพุทธรูปที่ไม่มีหน้ายังไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนเลย วัดนี้น่าจะเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก
พระธรรมทูตเริ่มลงมือปฏิบัติงานกันแล้วโดยสร้างสถานที่คล้ายที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในสังเวชนียสถานที่สำคัญของพระพุทธศาสนา หากมองโดยรวมก็ต้องบอกว่ามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสังเวชนียสถานอื่นๆไม่ว่าจะเป็นสถานที่ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา สถานที่ปรินิพพาน เพราะหากเจ้าชายสิทธัตถะไม่ถือกำเนิดมาในโลกนี้ สถานที่อื่นๆก็จะไม่มี วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ ได้จำลองสังเวชนียสถานทั้งสี่ตำบลมาไว้ที่เขาโคกเผ่น จังหวัดนครสวรรค์แล้ว ใครที่ประสงค์จะเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน แต่ยังไม่พร้อมที่จะเดินทางไปยังอินเดียและเนปาลอันเป็นสถานที่จริง ก็ขอเชิญที่เขาโคกเผ่นได้ เพราะที่นี่ได้จำลองสังเวชนียสถานมาไว้ครบทุกแห่งแล้ว ที่สำคัญยังมีพระพุทธรูปที่เรียกว่า “พระอยู่เย็นเป็นสุข” หรือ “พระไม่มีหน้า” อยู่ที่วัดแห่งนี้ด้วย
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
02/03/54