รักกันวันนี้ดีกว่าเผื่อว่าพรุ่งนี้มีอันเป็นไป.... เสียงเพลงจากที่พักคนงานที่กำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญภายในวัดแว่วมากับสายลม วันนี้มาแปลกแตกต่างจากวันอื่นๆ เพราะตามปกติคนงานพวกนี้จะฟังเพลงลูกทุ่งหรือเพลงหมอลำ ซึ่งมีท่วงทำนองเร้าใจ ฟังแล้วชวนให้ขยับแข้งขยับขาเป็นที่สุด ส่วนเพลงที่มีเนื้อหาหวานเศร้าเหงาหงอยคนงานเหล่านี้ไม่ค่อยฟัง ทุกวันนี้เพลงเหล่านี้ได้กลายเป็นบทเพลงที่อมตะไปแล้ว สถานีวิทยุไม่ค่อยเปิดอยากฟังต้องซื้อหามาฟังเอง
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของความรักนั้นพูดกันไม่มีวันจบ เพราะโลกนี้ส่วนหนึ่งอยู่กันด้วยความรักและความชัง หากความรักสมหวังก็ดีไปแต่หากรักไม่สมหวังมักจะมีเรื่องวุ่นวาย เกิดการแย่งชิงจนถึงขั้นเข่นฆ่าประหัตประหารเสียชีวิตไปก็มีให้เห็นไม่น้อย แม้เนื้อหาของบทเพลงจะเน้นหนักที่ความรักของชายหนุ่มหญิงสาวก็ตาม แต่ความรักเช่นนี้แหละที่เป็นรักที่สร้างโลก หากไม่มีความรักเผ่าพันธุ์ของมนุษย์อาจหมดไปจากโลกแล้วก็ได้ หนังและเพลงก็บรรเลงมาจากชีวิตคน
รักกันวันนี้ดีกว่าเผื่อว่าพรุ่งนี้มีใครมาชิง.....คนที่มีสามีรูปหล่อ หรือคนที่มีภรรยาสวยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะคนรูปหล่อ คนสวยนั้นย่อมเป็นที่ปรารถนาของคนที่ยังหนาไปด้วยราคะตัณหา ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่พระราชพระมหากษัตริย์ คนที่มีภรรยาสวยก็ไม่แน่ว่าจะอยู่กันยืด อาจจะต้องเลิกรากันไปก็ได้ ความสวยอาจไม่ใช่หลักประกันของความรักเสมอไป
ในพระพุทธศาสนาพูดถึงเรื่องของการแย่งชิงรักหักสวาทไว้ในอรรถกถา ขุททกนิกาย ธรรมบทสรุปความว่า “ครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลกษัตริย์แห่งแคว้นโกศลเสด็จเที่ยวชมพระนครเพื่อดูความสงบเรียบร้อยและดูความเป็นอยู่ของประชาชน ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง สตรีนางหนึ่งเปิดหน้าต่างมองการเสด็จของพระราชา บังเอิญพระราชาก็มองขึ้นไปพอดีได้เห็นเพียงแว็บเดียวก็เกิดความรักในหญิงคนนั้นขึ้นมาทันใด พอกลับเข้าพระราชวังก็ให้อำมาตย์ไปสืบดูว่าเธอเป็นใคร แต่งานมีครอบครัวหรือยัง พออำมาตย์มารายงานข่าวจึงทราบว่าเธอไม่ใช่หญิงตัวเปล่าเล่าเปลือยเธอแต่งงานมีสามีมีครอบครัวไปแล้ว แต่ทว่าเจ้าราคะตัณหามันไม่เข้าใครออกใคร อีกอย่างทิฐิมานะของกษัตริย์อยากได้อะไรต้องได้ตามใจปรารถนา พลันความคิดอย่างหนึ่งก็เข้าครอบงำหาเรื่องฆ่าสามีเธอเสียแล้วแย่งเอาเมียมันมาเป็นสมบัติ จึงให้เรียกสามีของหญิงนั้นมาแล้วตั้งให้เป็นทหารเพื่อจะได้หาความผิดและประหารชีวิตเสีย ชายคนนั้นแม้จะกราบทูลว่าไม่ต้องการเป็นข้าราชการ แต่ก็ไม่อาจฝืนต่ออำนาจของพระราชาได้ และรู้ตัวดีว่ามูลเหตุทั้งหลายทั้งปวงเกิดจากการมีภรรยาสวยนั่นเอง
เขาจึงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่พระราชาหาความผิดอะไรเขาไม่ได้ แต่พระราชาทนต่อกระแสแห่งราคะไม่ไหวจะต้องหาทางให้เขาทำผิดให้ให้ได้ วันหนึ่งจึงรับสั่งให้เรียกบุรุษนั้นมาแล้วตรัสสั่งว่า “พ่อหนุ่มเธอจงเดินทางไปที่แม่น้ำแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีดินสีอรุณอยู่จงนำเอาดอกโกมุทและดินสีอรุณมาให้เรา จงมาให้ทันในเวลาที่เราอาบน้ำในเย็นวันนี้ ถ้ามาไม่ทันเธอจะถูกประหาร”หนทางไกลตั้งห้าโยชน์(ประมาณ 80 กิโลเมตร เดินทางไปกลับต้องใช้เวลาถึง 160 กิโลเมตร แค่ได้ยินคำสั่งก็หมายถึงโทษประหารชีวิตแล้ว นัยว่าดอกโกมุทและดินสีอรุณมีอยู่เฉพาะแต่ในภพแห่งนาคเท่านั้น
แต่ชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนฉลาดให้ภรรยาสวยคนนั้นหุงหาอาหารและออกเดินทาง ไปถึงแม่น้ำแห่งใดก็โปรยข้าวปลาอาหารลงยังแม่น้ำพลางบอกว่าขอถวายอาหารเหล่านี้แก่พวกพญานาค ไม่นานพญานาคก็ปรากฎตัว และนำดอกโกมุทและดินสีอรุณมาให้ ในที่สุดเขาก็รีบเดินทางกลับมาทันเวลา แต่พระราชสั่งให้ปิดประตูเมืองก่อน เขาจึงประกาศให้ชาวเมืองได้รับทราบว่า “พระราชาอยากให้เขาตาย จึงให้ไปหาดอกโกมุทและดินสีอรุณมาให้ เมื่อข้าพเจ้านำมาให้แล้วกลับปิดประตูเมือง พระราชาต้องการจะแย่งภรรยาข้าพเจ้า” เมื่อเข้าเมืองไม่ได้จึงไปอาศัยนอนข้างๆวัดเชตวัน
ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลก็นอนไม่หลับอยู่ตลอดราตรี เพราะทรงรำพึงถึงหญิงอยู่ ความรุ่มร้อนเพราะกามก็เกิดขึ้น ท้าวเธอทรงคิดอยู่ตลอดราตรีว่า “สว่างเมื่อใด เราก็สั่งประหารบุรุษผู้เป็นสามีของนางเสีย เมียมันก็จะต้องตกเป็นเมียของเรา” เฝ้าคิดถึงความสุขที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ จึงไม่อาจจะบรรทมหลับได้
สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับกลางคืนจึงยาวนานนัก ดังที่แสดงไว้ในขุททกนิกาย ธรรมบท (25/15/16) ความว่า “ราตรียาวแก่คนผู้ตื่นอยู่ โยชน์ยาวแก่คนผู้เมื่อยล้า สงสารยาวแก่คนพาลผู้ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม”โปรดพิจารณาดูเอาเองคืนใดที่นอนไม่หลับเหมือนกับว่าเวลามันยาวนานกว่าปกติ ส่วนผู้ที่เดินทางไกลนั้นความอ่อนล้าทำให้หนทางที่จะก้าวยิ่งยาวไกลออกไปอีก คนผู้ที่ไม่ศึกษาให้เข้าใจความจริงยิ่งจะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกนับครั้งไม่ถ้วน
“พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แปรผันยอกย้อนลวงหลอนเปลี่ยนใจ เผื่อว่าโลกแตกสลายไป วันนี้เล่าใครจะอยู่คู่ฉัน” สำหรับชายหนุ่มสามีของหญิงคนนั้นบทเพลงนี้คงอธิบายได้ดีที่สุด แม้ว่าคืนนั้นเขาอาศัยเชตวันวิหารเป็นที่พักพิง แต่ยังมองหาอนาคตไม่เห็น เรื่องของความรักที่เกิดจากตัณหาราคะเกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่สถานการณ์เปลี่ยนไป รูปแบบก็อาจจะสลับซับซ้อนยากที่จะเข้าใจ แต่มูลเหตุมาจากรากฐานเดียวกันคือตัณหาราคะนั่นเอง
รักกันวันนี้ดีกว่าเผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกัน..... เมื่อรักไม่ต้องรอ แต่รักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงรักที่เกิดจากตัณหาราคะ เพราะรักประเภทนั้นไม่ใช่รักที่ยั่งยืน แต่ความรักที่เกิดจากความเข้าใจเกื้อกูลกันช่วยเหลือกัน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านจะอยู่ด้วยกันได้นานและยั่งยืนตลอดไป แม้จะต้องจากกันไปแต่รักในใจยังอยู่ เสียงเพลงจากที่พักคนงานเงียบไปนานแล้ว แต่บทเพลงในใจของใครบางคนพึ่งเริ่มต้น
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
27/02/54
พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่
{youtube}0DbC56xhiio&feature=related{/youtube}
พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่
{youtube}pWI5XBCApAo&feature=related{/youtube}
พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่
{youtube}G7p3FZgSIPc&feature=related{/youtube}
พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่
{youtube}enIaPXxGdFc{/youtube}