วัดมัชฌันติการามในคืนมาฆฤกษ์หรือวันเพ็ญเดือนสาม เนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนจากแทบทุกสารทิศหลั่งไหลมาร่วมงานในวันมาฆบูชา บริเวณวัดดูแคบไปถนัดตา เมื่อคลื่นมหาชนต่างเบียดเสียดกันที่ลานหน้าโรงเรียนพระปริยัติธรรม ต่างก็มุ่งหน้าตรงต่อเบ้าหลอมที่กำลังลุกโชนไปด้วยเปลวไฟที่ใช้หล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางชนะมาร ขนาดหน้าตักสามสิบเก้านิ้ว งานนี้มีหลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม นั่งเป็นประธานในการหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยในครั้งนี้
หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโมหรือในนามสมณศักดิ์ที่ "พระครูวิมลสมณวัตร" เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสแห่งวัดเกริ่นกฐิน อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีอายุ 84ปี หลวงพ่อเป็นเจ้าตำรับสุดยอดเครื่องรางของขลังตะกรุดโทนและผ้ายันต์แดง ที่มีประสบการณ์พุทธคุณกล่าวขานเลื่องลือกันไปทั่วทั้งในด้านเมตตา ค้าขาย ปกป้องคุ้มภัย มหาอุด และคงกระพันชาตรี วันนี้หลวงพ่อเมตตามาเป็นประธาน และมีการประชาสัมพันธ์ว่าหลังพิธีหล่อพระเสร็จสิ้นหลวงพ่อจะแจกวัตถุมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมงานด้วย ผู้คนจึงเนืองแน่นเดาเอาว่าคงมีวัตถุประสงค์ไม่ต่างกันเท่าไรนักคือหนึ่งอยากเห็นการหล่อพระพระพุทธรูปทองเหลืองปางมารวิชัย และอยากได้รับแจกวัตถุมงคลฟรี
พระพุทธเมตตา ปางมารวิชัย ประดิษฐาน ณ เจดีย์ศรีพุทธคยา อินเดีย
ตามธรรมชาติของมนุษย์ของฟรีนั้นใครก็อยากได้ แต่เมื่อได้แล้วอาจจะไม่สนใจเลยก็ได้ แต่ขอให้ได้มาก่อน ผู้คนจึงยืนเข้าคิวยาวเหยียด หลวงพ่อเพี้ยนท่านก็ใจดีมีเมตตานั่งแจกวัตถุมงคงซึ่งมีผ้ายันต์แดงอันลือชื่อของหลวงพ่อและพระผงเนื้อว่านรูปเหมือนหลวงปูอ่อน ญาณเตโช อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดมัชฌันติการามที่มรณภาพไปแล้วเป็นเวลาเก้าสิบเจ็ดปีแล้ว แต่ผู้คนยังคงมาปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ไม่เคยขาด โดยเฉพาะในช่วงงานประจำปีในช่วงขึ้น 7 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี และมีงานต่อเนื่องไปจนถึงวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสาม อันเป็นวันมาฆบูชา
พระพุทธรูปที่หล่อในวันมาฆบูชาปีนี้เป็นพระปางมารวิชัย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปปางนี้สรุปว่า “เมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์ได้เสด็จไปประทับใต้ต้นมหาโพธิ์ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมหรือพุทธคยาในปัจจุบัน พระองค์นั่งสมาธิกำหนดจิตเจริญสมาธิภาวนา เพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ แต่จิตของพระองค์ แทนที่จะคิดไปในทางโลกุตตรธรรม กลับหันไปคิดถึงโลกิยสุขเมื่อครั้งอยู่ครองเรือนซึ่งพระองค์เป็นราชโอรสของกษัตริย์แห่งศากยะ การผจญในโลกิยสุขของพระบรมโพธิสัตว์โดยใช้การผจญของมารเป็นสัญญลักษณ์ว่าเป็นพระยาวสวัตตีมารซึ่งคอยติดตามพระองค์อยู่ จึงเข้าขัดขวาง โดยขี่ช้างคิรีเมขละ นำเหล่าเสนามารจำนวนมากเข้ามารบกวน หวังให้พระองค์เกรงกลัวจะได้ลุกขึ้นเสด็จหนีไป แต่พระองค์ก็ยังประทับนิ่งเป็นปกติโดยมิได้ทรงหวั่นไหว พระยามารจึงโกรธมาก สั่งให้เสนามารกลุ้มรุมกันประหารพระองค์ พระองค์จึงทรงนึกถึงบารมี 30ทัศมีทานบารมีเป็นต้น ที่ทรงบำเพ็ญสั่งสมบ่มบารมีมาสี่อสงขัยแสนกัป วันนั้นพระโพธิสัตว์ไม่มีใครเป็นพยานที่จะคัดค้านโต้แย้งกับพระยาวสวัตตีมารเลย จึงชี้ลงที่แผ่นดินขอให้พระแม่พระธรณีเป็นพยานในการบำเพ็ญบารมีเคยบริจาคทานมานับครั้งไม่ถ้วน ทุกครั้งก็จะกรวดน้ำลงยังแผ่นดินเพื่อให้เป็นพยานในการทำความดี วันนั้นแม่พระธรณีได้แสดงตนผุดขึ้นมาจากพื้นดิน บิดมวยผมจนเกิดกระแสน้ำหลากพัดพามารและเหล่าเสนามารไปหมดสิ้นพระยาวสวัตตีมารจึงยอมแพ้หลบหนีไป
อาการที่พระโพธิสัตว์ทรงชี้มือข้างขวาลงยังพื้นแผ่นดิน ส่วนมือซ้ายวางที่หน้าตัก จึงกลายมาเป็นคุณลักษณะของพระพุทธรูปปางมารวิชัยในปัจจุบัน โดยเป็นพระพุทธรูปลักษณะนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์เบื้องขวาคว่ำที่พระเพลา ปลายนิ้วพระหัตถ์ชี้ลงแผ่นดิน อันหมายถึงพระองค์ทรงอ้างพระแม่ธรณีเป็นพยานต่อหน้าพระยามาร ส่วนเครื่องประกอบทั่วไปมักทำเป็นรูปยักษ์มาร และนางแม่พระธรณีบีบมวยผม
ในคาถาพาหุงบทแรกได้สรรเสริญพระพุทธเจ้าทรงชนะมาร นิยมสวดในเวลาถวายพรพระความว่า
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลังอุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมาะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
แปลเป็นไทยได้ความว่า “พญามารเนรมิตแขนตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องก้องกึก พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ ด้วยธรรมวิธีมีทานบารมีเป็นต้น ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน”
มารที่พระพุทธองค์ทรงชนะในที่นี่หมายถึงเทวปุตตมาร ซึ่งเป็นเทพในชั้นสูงสุดแห่งกามาวจรนามว่าวสวัตตีมารที่คอยขัดขวางมนุษย์ไม่ให้ทำความดี และกิเลสมารหมายถึงมารคือกิเลสและอภิสังขารมาร พระองค์ทรงชนะในวันเพ็ญเดือนวิสาขะที่ควงต้นโพธิพฤกษ์ ส่วนมารที่เหลืออีกสองประการคือขันธมารและมัจจุมารนั้นพระพุทธองค์ก็หนีไม่พ้นต้องสิ้นชีพเหมือนคนทั่วไป แต่เรียกอาการนั้นว่า “ปรินิพพาน” หมายถึงดับรอบแล้ว ไม่ย้อนกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกเหมือนปุถุชนคนทั่วไป
เมื่อหล่อพระประทานปางชนะมาร จึงมีผู้คนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสรุปได้สามประการคือหนึ่งมาร่วมงานหล่อพระประธาน สองมาเวียนเทียนในวันมาฆบูชา สามมาเพื่อจะได้รับแจกวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม ส่วนใครจะมาร่วมงานด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม วันมาฆบูชาในปีนี้ที่วัดมัชฌันติการามยังมีชาวพุทธเข้าวัดเป็นจำนวนมาก แม้จะมาปีละครั้งก็ยังดีกว่าไม่มาเลย ได้ทำความดีแม้จะเพียงช่วงเวลาไม่นาน แต่หากทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ย่อมมีผลมาก
มารภายนอกแม้บางครั้งเราจะพ่ายแพ้ แต่ทว่ามารภายในหากเราพยายามต่อสู้จนถึงที่สุดแม้จะมีฤทธิ์เดชสักปานใดก็ตาม สักวันหนึ่งเราก็จะต้องชนะมารจนได้ แพ้มารภายนอกไม่เป็นไร แต่ชนะมารภายในแม้เพียงชั่วครู่ก็ยังได้ชื่อว่าชนะและอยู่อย่างสันติสุขได้ หากมารไม่มีบารมีก็ไม่เกิด แต่หากปล่อยให้มารเตลิดก็จะเกิดปัญหา
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
20/02/54
หมายเหตุ:เว็บไซต์ไซเบอร์วนาราม(cybervanaram.net)กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ให้สดใสขึ้นกว่าเดิม อาจสลับหน้าเว็บใหม่และหน้าเว็บเก่าบ้าง ขอขอบคุณ webwat.org ที่เมตตาออกแบบให้ฟรี โดยไม่คิดมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด