งานประจำปีวัดมัชฌันติการามถือเป็นประเพณีที่กระทำสืบต่อกันมานานนับร้อยปีแล้ว พอถึงวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนสามของทุกปี วัดมัชฌันติการามจะจัดงานประจำปีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บูรพาจารย์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดมัชฌันติการาม เจ้าอาวาสรูปแรกคือพระครูธรรมสารวิจิตรหรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกันจนติดปากว่า “หลวงปู่อ่อน ญาณเตโช” ท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2457 หากนับจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลายายนานถึง 96 ปีแล้ว
คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมาว่า สมัยที่หลวงปู่อ่อน ญาณเตโชยังมีชีวิตอยู่นั้น พอถึงวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนสามของทุกปีศิษยานุศิษย์ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมงานวันเกิดของหลวงปู่กันถ้วนหน้า เนื่องจากหลวงปู่เป็นพระที่เชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน สร้างวัตถุมงคลไว้มากมากหลายชนิด ส่วนมากจะทำจากสิ่งของที่หาได้ง่ายง่ายๆเช่นกระดูกห่านก็นำมาสร้างเป็นตระกรุด เขียนยันต์ลงไป นัยว่ากลายเป็นของขลัง ป้องกันอันตรายได้ ปัจจุบันกลายเป็นของหายากแล้ว หลวงปู่จะแจกจ่ายให้กับผู้มาร่วมงาน
หลวงปู่จะเลี้ยงสัตว์หลายชนิดเช่นเป็ด ห่าน หมู่ สุนัข แมว เป็นต้น ถ้าคนไม่มีเมตตาธรรมประจำใจจริงจะเลี้ยงสัตว์พวกนี้ไม่ได้ ใจมันร้อนทำให้เกิดความรำคาญ สัตว์ก็รับรู้และสัมผัสถึงความีเมตตาได้จึงพากันมาพึ่งพาอาศัย วัสดุอะไรก็ได้ที่หลวงปู่แจกลูกศิษย์ส่วนมากจะกลายเป็นของขลัง แม้จะไม่โด่งดังเหมือนเกจิอาจารย์ท่านอื่น แต่ชาวบ้านในย่านคลองบางเขนใหม่ซึ่งเป็นคลองที่ไหลผ่านหน้าวัด จะเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่อ่อนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในอดีตชาวบ้านแถบนี้เป็นชาวสวนชาวไร่ ปลูกทะเรียน ส้ม เงาะ มะพร้าว เป็นต้น เมื่อผลไม้สุกได้ที่ก็จะนำผลไม้ไปขายโดยจะต้องพายเรือผ่านกุฏิหลวงปู่ที่ตั้งอยู่หน้าวัดหันหน้าเข้าหาคลอง แม้หลวงปู่จะไม่อยู่ที่กุฏิ ชาวบ้านก็นิยมวักน้ำใส่หัวเรือพลางยกมือไหว้ขอให้ขายดี ใครที่กระทำอย่างนั้นส่วนมากจะขายดีจริงๆ ส่วนใครที่ไม่ได้ทำหรือลืมกระทำเล่าลือกันว่าผลไม้ต่างๆจะขายไม่ค่อยดี ความเชื่อนี้ยังมีคนปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ใครที่บนบานอะไรไว้มักจะไม่ผิดหวัง ในแต่ละเดือนจึงมีลิเกมาแสดงแก้บนให้เห็นอยู่ตลอดปี แต่สิ่งหนึ่งที่หลวงปู่ไม่รับบนคือการเกณฑ์ทหาร หากใครไม่อยากเป็นทหารมาบนกับหลวงปู่มักจะจับได้ใบแดงได้เป็นทหารกันทุกคน
วัดมัชฌันติการาม มีฐานะป็นวัดราษฎร์ หน้าวัดติดกับคลองบางเขนใหม่โดยมีซอยวงศ์สว่าง 11 ผ่านเขตแยกวัดกับโรงเรียนวัดมัชฌันติการามอยู่คนละฝั่งซอย เลขที่วัด 102 วัดมัชฌันติการาม ถนนวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
เจ้าจอมมารดาเที่ยง ผู้ได้ให้การอุปถัมภ์ในการสร้างวัด เริ่มต้นนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด มีผู้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เจ้าจอมมารดาเที่ยง เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4 ทรงเข้ามาอุปถัมภ์ในปีพุทธศักราช 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดมัชฌันติการาม”เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เจ้าจอมมารดาเที่ยง ผู้ทรงอุปถัมภ์ต่อการสร้างวัด คำว่า “มัชฌันติก” ตามภาษาบาลีแปลว่า “เวลาเที่ยงวัน” คนสร้างวัดและอุปถัมภ์วัดชื่อเที่ยงซึ่งเป็นเจ้าจอมคนทั่วไปจึงนิยมเรียกว่า “วัดน้อย”สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงรับเป็นพระธุระในการผูกพัทธสีมาในปีพุทธศักราช 2417 ส่วน "วัดหลวง" ที่เชื่อกันว่าสร้างในยุคเดียวกันกับวัดน้อย ที่อยู่ซอยถัดไปปัจจุบันกลายเป็นวัดร้างไปแล้ว เหลือไว้แต่ชื่อซอยคือ "ซอยวัดหลวง"
งานประจำปีเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 ภาคเช้านิมนต์พระเถรานุเถระมาสวดพุทธมนต์ บังสุกุล ทำบุญอุทิศให้แก่บูรพาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรทั้งวัด พิธีเสร็จสิ้นในภาคบ่าย
พอตกตอนเย็นจะเป็นงานบันเทิงมีทุกอย่างเท่าที่เคยมีมาในอดีต มีเวทีแสดงดนตรีหน้าศาลาการเปรียญ มีการตักบาตรร้อยแปด ถวายสังฆทาน ซื้อโลงศพถวายศพไร้ญาติ ซื้อกระเบื้องมุงหลังคาศาลา สอยดาว ชิงช้าสวรรค์ และอีกจิปาถะที่งานวัดควรจะมี ฯลฯ ส่วนสำคัญของงานคือการปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่อ่อน ญาณเตโช
ศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้าง
บริเวณรอบวัดจึงคราคร่ำไปด้วยผู้ด้วยที่มาเที่ยวงานประจำปีของวัด บางวันมีวงดนตรีชื่อดังมาแสดงให้ดูด้วย ในแต่ละวันจึงมีเสียงอึกทึกครึกโครมเสียงโฆษณาประชาสัมพันธ์ เสียงเพลงจากร้านค้าต่างๆ ข้างๆกุฏิเจ้าอาวาสยังมีเวทีหมอลำซิ่งอีกต่างหาก เรียกว่าบรรเลงกันเต็มที่ไปจนถึงเวลาเที่ยงคืนงานจะจึงเลิก หลังเที่ยงคืนทุกอย่างจึงกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ปีหนึ่งมีงานครั้งเดียวทุกคนจึงได้เที่ยวงานวัดอย่างเต็มที่ มนุษย์นั้นหากเป็นคนดีจริง แม้จะเสียชีวิตไปแล้วเป็นร้อยปีก็ยังมีคนระลึกถึง ตรงกันข้ามกับคนชั่วคนเลว บางคนตายไปยังไม่ถึงปีผู้คนก็ลืมชื่อกันแล้ว
ใครจะมาร่วมงานประจำปีของวัดมัชฌันติการาม ก็เชิญได้ตามสะดวก งานมีถึง 9 วัน 9 คืน วันสุดท้าย(18 กุมภาพันธ์)มีการหล่อพระประธานเพื่อประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ใครจะมาร่วมสร้างพระหล่อพระประธานเป็นสมบัติฝากไว้ในพระพุทธศาสนาขอเชิญได้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
วัดมัชฌันติการาม
12/02/54
รายนามเจ้าอาวาสมัชฌันติการามจากอดีตถึงปัจจุบัน
1.พระครูธรรมสารวิจิตร (หลวงปู่อ่อน ญาณเตโช) พ.ศ.2440 - 2457
2.พระอาจารย์กล่อม พ.ศ.2458 – 2460
3.พระอาจารย์สำราญ พ.ศ.2461 – 2464
4.หลวงตาอินทร์ พ.ศ.2465 – 2468
5.พระครูชม (มาจากวัดราชบพิธ) พ.ศ.2469 – 2475
6.พระอาจารย์คำภา พ.ศ.2476 – 2486
7.พระครูวิจิตรธรรมสาร (วิสุธรรม จนฺทสาโร น.ธ.โท,ป.ธ.4) พ.ศ.2487 – 2540
อีกรูปหนึ่งแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส แต่ก็มีคนรู้จักและเคารพมากคือหลวงตาพันธ์ อาจาโร มีอายุเกือบร้อยปี มรณภาพวันที่ 9 สิงหาคม 2548 สิริรวมอายุได้ 94 ปี 10 เดือน 21 วันมีรูปหล่อเคียงข้างกับพระครูวิจิตรธรรมสารภายในพระอุโบสถ
8.พระครูธีรสารปริยัติคุณ (เดช กตปุญโญ น.ธ.เอก,ป.ธ.3,ศน.บ.M.A.,Ph.D) พ.ศ.2540 - ปัจจุบัน