ดูเหมือนว่าวันลอยกระทงคนไทยทั่วประเทศจะมีความสุขมากที่สุดวันหนึ่ง คนเฒ่าคนแก่ หนุ่มสาว ต่างก็ร่วมลอยกระทงกันถ้วนหน้า เพราะแต่ละวัดต่างก็ได้จัดงานในวันลอยกระทงขึ้นแทบทุกแห่ง ในขณะการแข่งขันกีฬาที่กว่างโจวเกมส์นักกีฬาไทยก็ได้เหรีญทองเพิ่มขึ้นอีกหลายเหรียญ อีกอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้เสด็จลอยพระประทีปที่ท่าน้ำหน้าโรงพยาบาลศิริราชด้วย แม้ว่าในหลวงจะทรงพระประชวร แต่ก็ยังเสด็จลอยพระประทีป ภาพเรือประดับด้วยประทีปไหลผ่านในหลวงเห็นพระองค์ท่านทรงถ่ายภาพดูแล้วเป็นภาพที่แสดงออกถึงความสุข
ก่อนจะลอยกระทงเห็นหลายท่านต่างก็ตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะปล่อยกระทงให้ลอยไปตามกระแสน้ำ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังอธิษฐานว่าอย่างไร แต่คงคาดเดาได้ว่าคงให้ทุกข์โศกโรคภัยหายไปพร้อมกับกระแสน้ำ เหลือบไปเห็นผู้สูงอายุท่านหนึ่งตัดเล็บใส่ลงไปในกระทง เมื่อสอบถามจึงได้ทราบว่าตั้งใจจะให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายให้หายไปกับกระแสน้ำ เมื่อสิ่งที่ไม่ดีในร่างกายปล่อยไปตามสายน้ำน้ำแล้ว ที่เหลืออยู่จึงเป็นสิ่งที่ดีงาม เรื่องนี้เป็นความเชื่อของคนโบราณ
คำว่า “อธิษฐาน” มาจากภาษาบาลีว่า “อธิฏฐาน” แปลว่าความตั้งใจแน่วแน่ การอธิษฐาน การติดแน่น ที่อยู่อาศัย
การตั้งใจแน่วแน่แล้วลงมือปฏิบัติตามที่ตนตั้งใจความหมายที่แปลตามภาษาชาวบ้านน่าจะเป็นการกระทำด้วยความตั้งใจไม่ท้อถอย บุคคลที่มีความเพียรไม่ย่อท้อต้องยกให้เจ้าชายสิทธัตถะก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะเริ่มตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะทำความเพียรเพื่อการบรรลุเป็นพระพุทธเจ้านั้น นับเป็นคำอธิษฐานที่เด็ดเดี่ยวมาก ดังที่ปรากฎในทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย ปฐมปัณณาสก์ (20/251/48) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลายได้ยินว่า เราเริ่มตั้งความเพียรอันไม่ย่อหย่อนว่าจะเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น และกระดูก ก็ตามที เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไปก็ตามเถิด หากยังไม่บรรลุผลที่บุคคลพึงบรรลุได้ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่นของบุรุษแล้ว จักไม่หยุดความเพียรเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลายโพธิญาณ อันเรานั้นได้บรรลุแล้วด้วยความไม่ประมาท ธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยี่ยม อันเรานั้นได้บรรลุแล้วด้วยความไม่ประมาท”ใครที่มีความตั้งใจมั่นอย่างนี้คงมีไม่กี่คน เรียกว่าทำงานโดยเอาชีวิตเข้าแลก หากในวันนั้นเจ้าชายสิทธัตถะละเลิกความเพียรเสียในกลางครัน โลกนี้ก็คงไม่มีพระพุทธศาสนาในวันนี้ แต่นี่เพราะเจ้าชายสิทธัตถะตั้งจิตอธิษฐานด้วยจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง ไม่หวั่นไหว โลกจึงมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก
พระพุทธเจ้ายังยืนยันว่าคนอื่นๆก็สามารถตั้งจิตอธิษฐานแล้วลงมือกระทำได้เหมือนกันทุกคน ดังข้อความในวรรคต่อมาว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้เธอทั้งหลายจะพึงเริ่มตั้งความเพียรอันไม่ย่อหย่อนว่า จะเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น และกระดูกก็ตามที เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไปเถิด ยังไม่บรรลุผลที่ บุคคลพึงบรรลุได้ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความ บากบั่นของบุรุษแล้ว จักไม่หยุดความเพียรเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลายแม้เธอทั้งหลายก็จักทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลาย ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตต้องการนั้น ด้วยความรู้ยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ต่อกาลไม่นานเลย”
ชีวิตต้องมีจุดเริ่มต้น แต่ใครจะเริ่มต้นจากจุดไหนนั้นต้องแสวงหาเอาเอง หากจะเริ่มต้นใหม่หลังวันลอยกระทงก็เริ่มต้นได้ เมื่อตั้งจิตอธิษฐานแล้วก็จงลงมือทำในสิ่งที่ตนตั้งความปรารถนาไว้อย่างเต็มความสามารถ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สิ่งใดก็ตามหากได้กระทำด้วยความเพียรพยายามแล้ว แม้จะไม่สำเร็จตามที่ต้องการแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ได้เดินตามความฝัน
ธรรมะที่ควรตั้งไว้ในใจหรืออธิษฐานธรรม พระพุทธศาสนาแสดงไว้ในธาตุวิภังคสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ (14/682/329) ความว่า “ ก็ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกรภิกษุ คนเรานี้มีธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจสี่อย่างนั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้วคือมีปัญญาเป็นธรรมควรตั้งไว้ในใจ มีสัจจะเป็นธรรมควรตั้งไว้ในใจ มีจาคะเป็นธรรมควรตั้งไว้ในใจ มีอุปสมะเป็นธรรมควรตั้งไว้ในใจ” หากมีธรรมะทั้งสี่ประการนี้คอยกำกับภายในจิตใจอยู่ตลอดเวลา ที่ท้อก็ไม่หวั่น ที่ฝันไว้ก็จะกลายเป็นจริง
ลอยกระทงแล้วคนไทยมีความสุข ลอยกระทงแล้วคงสุขใจ วันนี้เริ่มต้นทำงานในวันแรกหลังจากที่ได้ร่วมงานประเพณีลอยกระทง ขอให้ทุกคนสร้างฝันให้เป็นจริง อย่าลืมคำอธิษฐานที่ได้ให้ไว้ต่อหน้าพระแม่คงคา หากในช่วงเวลาหนึ่งปียังไม่สำเร็จ ปีหน้ามาอธิษฐานใหม่
แสงไฟจากกระทงที่ล่องไหลไปตามกระแสน้ำ ส่งประกายสะท้อนกับพื้นน้ำอย่างงดงาม เว็บมาสเตอร์ไซเบอร์วนาราม ลงมือผลิตกระทงเองด้วยฝีมือของช่างมือสมัครเล่น ได้ท่อนกล้วยกับใบตองจากวัสดุที่พระภิกษุสามเณรอุบาสกอุบาสิกาวัดมัชฌันติการามช่วยกันทำ พอทำเสร็จมองดูด้วยสายตาตนเองอย่างมีความสุข ภาคภูมิใจในฝีมือที่สารมาถทำกระทงได้สำเร็จ สามเณรหลายรูปมองดูกระทงของหลวงตาแล้ว บางรูปถามว่าเป็นกระทงหรือเป็นเพียงท่อนกล้วยประดับดอกไม้กันแน่
ได้เวลาเดินไปที่ท่าน้ำ ช่างภาพพยายามถ่ายภาพแต่ไม่ได้ภาพที่สวยสักภาพเดียว จากนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานในใจเงียบๆคนเดียว จะอธิษฐานว่าอย่างไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ แต่มีบทสรุปสั้นๆว่า หากจะสำเร็จขอให้กระทงลอยไปตามกระแสน้ำ แต่ถ้าจะไม่สำเร็จขอให้กระทงลอยเข้าฝั่ง ตอนนั้นดูกระแสลมแล้วมั่นใจว่าลมจะต้องพัดนำพากระทงไปกลางแม่น้ำแน่นอน พอปล่อยกระทงลงน้ำไปแล้ว สักพักกระแสลมก็เปลี่ยนทิศกระทงที่กำลังล่องลอยจะออกสู่กลางแม่น้ำอยู่แล้วก็พลันวกกลับค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งอย่างแช่มช้า หัวใจพลันสลายเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยเข็มสักร้อยเล่มกลางหัวใจ ปีนี้คงไม่สำเร็จอีกเหมือนเดิม พลันก็เกิดสุภาษิตบทหนึ่งขึ้นในใจว่า “อย่าไว้ในทาง(น้ำ) อย่าวางใจลม”
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
22/11/53