ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

              ใครที่เคยเดินเข้าป่าทึบจะมองเห็นแต่ต้นไม้ระรานตาเต็มไปหมด จนจำได้ไม่หมดว่าต้นไหนชื่ออะไร ต้นไหนมีประโยชน์ ต้นไหนเป็นพิษ เพราะต้นไม้เหล่านั้นต่างก็ดำรงตัวอยู่ได้ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หากต้นไหนไม่แข็งแรงเพียงพอสู้ต้นอื่นไม่ได้ก็ต้องตายไป ธรรมชาติเที่ยงตรงเสมอมาใครแข็งแรงกว่าผู้นั้นมีสิทธิ์อยู่รอด ดูการแข่งขันกีฬาเอเซี่ยนเกมส์ที่กว่างโจ่วเกมส์แล้วก็ต้องยอมรับความเก่งของนักกีฬาเจ้าภาพที่ได้เหรียญทองเกินร้อยเหรียญไปแล้ว ในขณะที่ทีมนักกีฬาไทยคว้ามาได้หนึ่งเหรียญทองแล้ว จากนักกีฬาเทควันโด้
              ผู้ที่สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาก็เหมือนคนที่กำลังเดินเข้าป่าใหญ่ เห็นแต่ต้นไม้ที่มีรูปร่างคล้ายๆกัน จนแยกไม่ออกว่าต้นไหนคือต้นอะไร จำชื่อได้ไม่หมด บางคนมุมานะอ่านพระไตรปิฎกจนจบแต่ดูเหมือนว่ายิ่งอ่านยิ่งหาบทสรุปไม่ได้ เพราะธรรมมีหลากหลายเหลือเกิน พระภิกษุบางรูปท่องจำพระไตรปิฎกได้ทั้งหมดแต่ก็ยังมีกิเลส ความรู้ที่ได้จากการจำจึงเป็นความรู้ระดับสัญญาคือการจำได้ ยังไม่ใช่การรู้จริงและแจ้ง ซึ่งการรู้จริงและรู้แจ้งนั้นเกิดขึ้นได้จากการปฏิบัติ

 

             พระพุทธเจ้าเคยเปรียบสิ่งที่พระองค์ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น ซึ่งต้นไม้ที่สมบูรณ์จะมีใบดกหนามากมายจนนับไม่ถ้วน เหมือนธรรมที่พระองค์ตรัสรู้มีมากมายแต่สอนได้เพียงบางส่วนเหมือนใบไม้เพียงกำมือเดียว คำสอนนี้มีปรากฎในสีสปาสูตร   สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค (19/1712/434) สรุปความว่า “สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลายสองสามใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลายสองสามใบที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน  
              ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลายสองสามใบที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า             

 

              พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้   นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก” 
              จากพระสูตรนี้แสดงว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า พระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้จึงเทียบได้กับใบประดู่เพียงสองสามใบ ยังมีความรู้อื่นๆที่ไม่ได้มีการจดบันทึกอีกมากมายกว่า พระไตรปิฎกจึงมิใช่คำตอบทั้งหมดของพระพุทธศาสนา แต่เป็นเหมือนแผนที่ที่ทำให้ผู้ศึกษาไม่หลงทาง
              พระพุทธเจ้าได้สรุปคำสอนของที่พระองค์ทรงสอนไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ...    นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา”คำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนาจึงสรุปลงได้ที่อริยสัจสี่คือทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค     

 

              ในหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้” ซึ่งเป็นหนังสือบันทึกคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ ครั้งหนึ่งหลวงปู่ดุลย์ได้ปรารภธรรมให้ลูกศิษย์ฟังว่า “เรา(หลวงปู่ดุลย์) เคยตั้งสัจจะอ่านพระไตรปิฎกจนจบ ในพรรษาที่ 2495  เพื่อสำรวจดูว่าจุดจบของพระพุทธศาสนาอยู่ตรงไหน ที่สุดของทุกข์นั้นอยู่ตรงไหน พระพุทธองค์ทรงกล่าวสรุปไว้ว่าอย่างไร ครั้นอ่านไปตริตรองไปจนจบก็ไม่เห็นตรงไหนที่มีสัมผัสอันลึกซึ้งถึงจิตของเรา ให้ตัดสินได้ว่านี่คือที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ ที่สุดแห่งมรรคผล หรือที่เรียกว่านิพพาน”
              มีอยู่ตอนหนึ่งที่กล่าวถึงพระสารีบุตรที่พึ่งออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามเชิงสนทนาธรรมว่า “สารีบุตร สีผิวของเธอผ่องใสยิ่งนัก วรรณะของของเธอหมดจดผุดผ่องย่องนัก อะไรเป็นวิหารธรรมของเธอ”

 

                 พระสารีบุตรกราบทูลว่า “ความว่างเปล่า(สุญญตา) เป็นวิหารธรรมของข้าพระองค์”
               หลวงปู่ดุลย์ อตุโลสรุปสั้นๆว่า “ในพระไตรปิฎกก็เห็นมีเพียงแค่นี้แหละที่มาสัมผัสจิตของเรา” หลวงปู่ช่างสรุปเนื้อหาในพระไตรปิฎกได้รวบรัด สั้น ย่อและกระชับได้ดีแท้


พระมหาบุญไทย   ปุญญมโน
19/11/53

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก