มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยจัดงานสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการเรียนการสอนทางไกล เว็บมาสเตอร์ไซเบอร์ได้รับเชิญให้ไปบรรยายเรื่องจริยธรรมในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกับหัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวๆสุขุมวิท วันนั้นต้องไปบรรยายในโรงแรม กลายเป็นพระเข้าโรงแรมไปโดยปริยาย ยังโชคดีที่ไปด้วยกันสองรูป หากไปรูปเดียวมีภาพปรากฎออกมาคงไม่น่าดูสักเท่าไหร่ แล้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหนมีความเป็นมาอย่างไร หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาก่อน
มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยนั้นเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า “ปัจจุบัน มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาต่างๆ หลายแห่งในประเทศไทย ได้เริ่มให้มีการใช้บทเรียนออนไลน์ (Online) เป็นส่วนเสริมในการเรียนการสอน แต่ยังไม่มีหลักสูตรออนไลน์ ที่ผู้เรียนสามารถเรียนออนไลน์จนจบได้รับปริญญาบัตร ในการพัฒนาบทเรียนนั้น มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาแต่ละแห่ง จะใช้ทรัพยากรของตนเอง แต่เนื่องจากการเรียนบทเรียนออนไลน์นั้น จะเรียนที่ใดก็ได้ และหลักสูตรของมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา ที่เหมือนกัน ก็มีมาตรฐานเดียวกัน หากมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา ได้มีการพัฒนาบทเรียนออนไลน์ร่วมกัน และแต่ละแห่งสามารถนำบทเรียนออนไลน์ไปใช้ได้ (Shared e-Courseware) ก็จะเป็นการประหยัดทรัพยากร ประหยัดค่าใช้จ่ายของแต่ละแห่ง นอกจากนี้ ยังช่วยให้มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา ที่ขาดแคลนอาจารย์ในบางสาขาวิชา สามารถมีบทเรียนออนไลน์ที่ได้มาตรฐานในสาขาวิชานั้นได้” สรุปว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีอาคารเรียน แต่ใช้พื้นที่บนโลกไซเบอร์เป็นห้องเรียน
มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยดำเนินการโดยที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ และมีนโยบายจะส่งเสริม การอุดมศึกษาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงได้จัดตั้งโครงการ Thailand Cyber University (TCU) ขึ้น เพื่อให้บริการ การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e–Learning) แก่ประชาชน ทุกระดับ ทุกอาชีพ ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา (Inter-University Network : UniNet) เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ประชาชน เข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น และเพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้
ในอนาคตมหาวิทยาลัยเบอร์ไทยจะเป็นสรรพวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์รวมของสรรพวิทยาการ) ศูนย์กลางการศึกษาผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ครอบคลุมการศึกษาในทุกระบบ ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) การศึกษานอกระบบโรงเรียน (Non Formal Education) และการศึกษาตามอัธยาศัย (In-Formal Education) ที่ประชาชนทุกคน สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ มีระบบการเทียบโอนความรู้จากการศึกษาในแต่ละระบบ เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการศึกษาจากระบบหนึ่ง สามารถจะเทียบโอนความรู้ เข้าสู่การศึกษาในอีกระบบหนึ่งได้ ตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ซึ่งจะเป็นการบูรณาการ การศึกษาทุกระบบเข้าด้วยกัน เกิดเป็นระบบการศึกษาที่รองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน มีความยืดหยุ่น ต่อเนื่อง และเสริมกัน มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับตามหลักมาตรฐาน”ใครที่อยากเรียนในมหาวิทยาลัยไซเบอร์แห่งนี้ สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaicyberu.go.th/
การเรียนปริญญาตรี โท เอกทางอินเทอร์เน็ตคงเป็นบทสรุปของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แม้จะดำเนินการมาหลายปีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ามีใครได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้หรือยัง หรือหากมีจบไปแล้วกี่คน หลวงตาไซเบอร์แม้จะแก่แล้วแต่ก็กำลังเรียนและเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่ แต่เรียนเพื่อความรู้ไม่ได้เรียนเพื่อปริญญา เรียนตามอัธยาศัยว่างเมื่อไหร่ก็เข้าเรียน แต่พักหลังๆไม่ค่อยได้เข้าห้องเรียนสักเท่าไหร่
ความเจริญทางเทคโนโลยีดูเหมือนจะไม่เคยหยุดนิ่งยังคงมุ่งหน้าสู่ความทันสมัยอยู่เรื่อยๆจนคนธรรมดาทั่วไปตามไม่ค่อยทัน เคยเห็นแต่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชที่เปิดสอนทางไกล เคยสมัครเรียนมาครั้งหนึ่งแล้ว ปรากฎว่าสอบไม่ผ่านแม้แต่วิชาเดียว เพราะความรับผิดชอบต่อตนเองมีน้อยมาก อีกอย่างมีงานอย่างอื่นมากจึงไม่สามารถเรียนจบหลักสูตรได้ สมัครเรียนไว้หลายที่แต่ยังไม่จบสักแห่ง แต่ก็ยังคาดว่าจะจบในโอกาสต่อไป จบอะไรไม่รู้จบเห่หรือจบตามหลักสูตร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ด้วยตัวมันเอง
เทคโนโลยีเป็นสิ่งใหม่ที่เข้ามาแทนที่แทบทุกอย่าง ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งดูเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในสรวงสวรรค์ เพราะมนุษย์สามารถควบคุมอุณหภูมิได้แล้ว อากาศร้อนก็เปิดแอร์ หนาวก็ใช้ฮิตเตอร์ จนดูเหมือนอุณหภูมิอยู่ในสภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะยังเป็นฆราวาส พระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดาได้สร้างปราสาทสามฤดูให้ เจ้าชายจึงไม่เคยรับรู้ความทุกข์มาก่อนเพราะอุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงโดยการปรับให้เหมาะกับสภาพทำให้อยู่สบายตลอดปี
ความเจริญแบบนี้ทำให้มนุษย์หลงลืมภูมิปัญญาโบราณที่บรรพบุรุษคิดค้นและสร้างสรรค์มาก่อน ผู้คนกำลังหลงลืมของเก่า กำลังเมากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ชีวิตฉันขาดมันไม่ได้ จึงมุ่งแต่แสวงหาเพื่อสนองกิเลสตัณหาไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น เมื่อมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาก็แย่งกันซื้อแม้ว่าราคาจะแพงเท่าไหร่ก็ต้องเสาะหาให้ได้มาเป็นเจ้าของให้ได้ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็จะกลายเป็นคนตกยุคไป
ครั้งหนึ่งหลวงพ่อพระพุทธจนวราภรณ์(จันทร์ กุสโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เชียงใหม่ ได้เขียนเป็นคติเตือนใจไว้ในมงคลชีวิตประสิทธิพรว่า “ไม่หลงของเก่า ไม่เมาของใหม่ คือหัวใจของการพัฒนา”แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่หลวงพ่อเตือนไว้ยังสามารถนำมาใช้ได้ในสังคมปัจจุบัน เมื่อนำของเก่าและของใหม่มาผสมผสานกันจนกลมกลืนกลายเป็นสิ่งใหม่ก็จะนำไปสู่การพัฒนาที่ถูกทาง
มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย แม้จะพัฒนาสื่อการเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยใช้ความเจริญทางเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานจนกลายเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในโลกเสมือนจริง แต่วิชาที่นำมาสอนก็ยังมีวิชาเก่าของคนโบราณเช่นการทำอาหารไทยเป็นต้น ผสมผสานกับวิชาการใหม่ๆเช่นการเขียนเว็บไซต์ การสร้างเว็บเทคโนโลยีโดยใช้โปรแกรม Word วิชาการรอบรู้เท่าทันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ อินเทอร์เน็ต การสร้างสื่อการสอนอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตหนังสืออิเล็คทรอนิคส์จากเว็บเป็นต้น
ปัจจุบันการเรียนการสอนได้พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีมหาวิทยาลัยต่างๆเสนอวิชาและขอเปิดหลักสูตรจำนวนมาก ผู้ที่ไม่มีโอกาสเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยทั่วไปได้ ก็สามารถสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยได้ตลอดเวลา เพราะปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้ครอบคลุมไปแทบทุกพื้นที่ของโลกแล้ว ในอนาคตอันใกล้ก็จะได้เห็นการศึกษาธรรมะทางไกลจากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ตอนนี้กำลังศึกษาแนวทางและยกร่างหลักสูตรพระพุทธศาสนากับเทคโนโลยีอีกไม่นานคงนำเสนอทางมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยได้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
18/09/53
ฟังเสียงการบรรยาย "จริยธรรมในยุคอีเลนนิ่ง" : พระครูโสภณศาสนกิจ และพระมหาบุญไทย ปุญญมโน