เคยได้ยินหลายคนบอกว่าพอคิดจะทำความดีเมื่อไหร่มักจะมีมารมาผจญทุกที บางครั้งก็ไม่มีเวลา บางครั้งก็เจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล บางครั้งอยากใส่บาตรพระ แต่พอจัดเตรียมข้าวปลาอาหารรอแล้วรออีกไม่มีพระเดินผ่านมาสักที แต่พอเราไม่ได้เตรียมอะไรวันนั้นกลับมีพระเดินผ่านหลายรูป ความพร้อมทั้งผู้ให้และผู้รับไม่ค่อยจะเกิดขึ้นพร้อมกันเลย
การทำความดีนั้นเป็นหนึ่งในคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากทำดี อยากได้ดี อยากมีความสุข แต่ทว่าบางครั้งการทำดีกับผลตอบแทนคือความสุขนั้นบางครั้งมักจะเดินสวนทางกัน สิ่งที่คอยขัดขวางไม่ให้คนทำดีหรือทำให้คนตายจากความดีเรียกว่า “มาร” แปลสั้นๆว่าผู้ให้ตายหรือผู้ฆ่า หรือสิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากคุณความดีหรือจากผลที่หมายอันประเสริฐ, สิ่งที่ล้างผลาญคุณความดี, ตัวการที่กำจัดหรือขัดขวางบุคคลมิให้บรรลุ ผลสำเร็จอันดีงาม ซึ่งผู้ฆ่าคนจากความดี พระพุทธศาสนาแสดงไว้ในวิสุทธิมรรค 1/270 และในอรรถกถา เถรคาถา 2/24,383,441 สรุปได้ห้าประการคือ
1. กิเลสมาร หมายถึงมารคือกิเลส, กิเลสเป็นมารเพราะเป็นตัวกำจัดและขัดขวางความดี ทำให้สัตว์ประสบความพินาศทั้งในปัจจุบันและอนาคต คนที่ยังมีจิตใจที่เต็มไปด้วยกิเลสเครื่องเศร้าหมองภายในต่างๆมักจะไม่อยากทำดี อาจจะเกิดความสงสัยในการกระทำก็ได้ถึงกับมีบางคนพูดกันเล่นๆว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” จากนั้นก็ยกตัวอย่างเศรษฐีคนมีเงินทั้งหลายขึ้นมาอ้าง บางคนรวยเพราะขายสุราเมรัย ทั้งๆที่สุราเป็นข้อห้ามผิดศีล แต่คนชายสิ่งมึนเมาเหล่านี้กับรวยไปตามๆกัน คนที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริงก็อาจสงสัยว่าไหนบอกว่าประกอบอาชีพที่ผิดศีล ไม่ดี แต่ทำไมคนพวกนี้จึงรวยเป็นต้น ต้องแยกให้ออกระหว่างความรวยกับความดี บางครั้งก็เดินสวนทางกัน ปัญหานี้นับเป็นปัญหาที่ค้างคาใจของใครอีกหลายคน
2. ขันธมาร หมายถึงมารคือเบญจขันธ์ได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณรวมกันเป็นมนุษย์ สัตว์ บุคคล เป็นต้น ขันธ์ห้าเป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัยปรุงแต่ง มีความขัดแย้งกันเองอยู่ภายใน ไม่มั่นคงทนนาน เป็นภาระในการบริหาร ทั้งแปรปรวนเสื่อมโทรมไปเพราะชราพยาธิเป็นต้น ล้วนริดรอนทำลายโอกาสมิให้บุคคลทำกิจหน้าที่ หรือบำเพ็ญคุณความดีได้เต็ม ปรารถนา อย่างแรง อาจถึงกับพรากโอกาสนั้นโดยสิ้นเชิง บางคนสังขารไม่เอื้ออำนวยต่อการทำดี อาจมีความไม่สมบูรณ์ทางร่างกายหรือจิตใจก็ได้ เลยเป็นเหตุให้ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำเป็นต้น หากคิดใหม่ว่าสุขภาพร่างกายไม่ใช่ปัญหาของการทำความดีก็สามารถทำดีได้ทุกโอกาส
3. อภิสังขารมาร หมายถึงมารคืออภิสังขาร, อภิสังขารเป็นมาร เพราะเป็นตัวปรุงแต่งกรรม นำให้เกิดชาติ ชรา เป็นต้น ขัดขวางมิให้หลุดพ้นไปจากสังขารทุกข์ สังขารเป็นเครื่องปรุงแต่งจิตหรือความคิด หากตั้งความคิดไว้ผิดโอกาสที่จะทำความดีก็จะค่อยๆลดน้อยและเลือนหายไปในที่สุด พระพุทธศาสนาจึงมีคำหนึ่งในองค์แห่งมรรคหรือทางในการปฏิบัติธรรมคือคิดดีคิดชอบหรือสัมมาสังกัปปะ การกระทำเริ่มต้นที่ความคิด ถ้าคิดถูกคิดดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
4. เทวปุตตมาร หมายถึงมารคือเทพบุตร, เทพยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดแห่งชั้นกามาวจรตนหนึ่งชื่อว่ามาร เพราะเป็นนิมิตแห่งความขัดข้อง คอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไว้ มิให้ล่วงพ้นจากแดนอำนาจครอบงำของตน โดยชักให้ห่วงพะวงในกามสุขไม่หาญ เสียสละออกไปบำเพ็ญคุณความดียิ่งใหญ่ได้ เทพบางองค์ได้เสพสุขในวิมานเพราะการกระทำจึงคอยขัดขวางคนอื่นไม่ให้ทำดี อย่างกรณีของวัสสวัสตีมารที่คอยขัดขวางการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า ถึงกับส่งธิดามารมาเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญสมาธิภาวนาที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ มารตนนี้ยังตามราวีพระพุทธเจ้าโดยตลอดได้โอกาสเมื่อไหร่ก็จะขัดขวางทันที
5. มัจจุมาร หมายมารคือความตาย, ความตายเป็นมาร เพราะเป็นตัวการตัดโอกาส ที่จะก้าวหน้าต่อไปในคุณความดีทั้งหลาย บางคนอาจคิดว่าตอนยังเป็นหนุ่มสาวยังไม่ต้องรีบทำความดีก็ได้ รอให้แก่ก่อนค่อยเข้าวัดฟังธรรมจะได้มีเวลาทำความดีอย่างเต็มที่ บางคนไม่มีโอกาสได้แก่ด้วยซ้ำไป อาจเสียชีวิตในขณะที่ยังเป็นหนุ่มสาวก็ได้ ยิ่งในยุคปัจจุบันยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ บางคนนอนหลับอยู่ดีๆไม่มีโอกาสได้ตื่นเลยก็มี บางพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดพาบ้านเรือนและคนอีกหลายคนจมหายไปกับกระแสน้ำ บางคนมีโอกาสเข้าวัดเพียงครั้งเดียวคือตอนเผาบนเชิงตะกอน
พระพุทธศาสนามีคำสอนในเรื่องการทำความดีไว้มากมายเช่นควรทำความดีเสียแต่วันนี้ หรือทำดีไม่ต้องรอ มีโอกาสเมื่อใดควรรีบลงมือทำทันที แต่ถ้าจะถามว่าจะทำดีอย่างไร เริ่มต้นตรงไหนนั้น เรื่องนี้ต้องว่าพูดกันอีกในวันต่อๆไป เพียงแต่วันนี้ให้รู้จักสิ่งที่จะคอยขัดขวางไม่ให้คนทำดีที่เรียกว่ามารเสียก่อน จะทำดีมีมารมาผจญ เคยมีพระภิกษุรูปหนึ่งเสนอว่า “มารบ่มีบารมีบ่เกิด แต่ถ้าปล่อยให้มารเตลิดก็จะเกิดปัญหา”
คนส่วนมากอยากได้ดีแทบทั้งนั้น แต่ไม่อยากทำดังคำกลอนว่า “อยากได้ดีไม่ทำดีนั้นมีมาก ดีแต่อยากหากไม่ทำน่าขำหนอ อยากได้ดีต้องทำดีอย่ารีรอ ดีแต่ขอรอแต่ดีไม่ดีเลย” อยากได้ดีต้องลงมือทำ กรรมชั่วต้องละจึงจะเห็นดี
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
24/08/53