ช่วงนี้กรุงเทพมหานครฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ปัญหาที่ตามมาคือเมื่อฝนตกรถก็ติด จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก บางคนไปไม่ทันงาน เมื่อต้องนั่งอยู่บนรถนานๆเข้าอาการเครียดก็เกิดขึ้น เพราะรถติดนั้นไม่ดีแน่น้ำมันจะต้องจ่ายมากขึ้น เวลาทำงานก็น้อยลง ในขณะที่บางพื้นที่ของประเทศกำลังเรียกหาฝนแต่ฝนเหมือนกับจะไม่เอื้อ ฝนตกผิดที่ กรุงเทพมหานครไม่ต้องการฝนแต่ชาวนาชาวไร่ในชนบทมีความต้อการฝนมาก แต่ฝนเจ้ากรรมกลับมาตกในที่ที่คนไม่ต้องการ
โทรศัพท์ที่เคยใช้มานานหลายปีซื้อมาตั้งแต่ปี 2547 คงต้องถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่เสียทีเพราะปัญหาเรื่องแบ็ตเตอร์รี่ต้องเพิ่มพลังบ่อยๆ แต่ก่อนครั้งเดียวใช้ได้นานเป็นอาทิตย์ แต่ปัจจุบันต้องวันเดียวก็หมดแล้ว บางครั้งโทรได้เพียงสองครั้งหมดอีกแล้ว แม้จะยังใช้การได้แต่ก็ต้องพกเครื่องประจุไฟฟ้าไปด้วยตลอด จึงตัดสินว่าคงต้องถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่เสียที คิดได้ในช่วงที่ฝนตกหนักนี่แหละ
ในรอบหลายปีมานี้ไม่เคยสนใจอ่านหนังสือเกี่ยวกับโทรศัพท์เลย เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องอ่าน โทรศัพท์ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ห้าหกปี จึงเปลี่ยนครั้งหนึ่ง เพราะถือคติว่าโทรศัพท์มีไว้ติดต่อกับคนอื่นที่อยู่ห่างไกลกันเท่านั้น วันหนึ่งๆก็แทบจะไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมอย่างอื่นอีกเลย แต่พอยุคสมัยของการใช้โทรศัพท์เปลี่ยนไปจึงต้องหันกลับมาคิดใหม่
พอบอกว่าจะซื้อโทรศัพท์เท่านั้นก็มีผู้ชำนาญการด้านโทรศัพท์ทะยอยมาให้คำแนะนำ คนแรกบอกว่า “ทุกวันนี้มันต้อง 3G แล้วครับ ต้องซื้อรุ่นที่มันสนับสนุน 3G เพราะอีกไม่นานเมืองไทยก้ต้องใช้ ซื้อไว้ก่อนดีกว่า โทรศัพท์รุ่นที่คนนิยมคือ Black Berry มีหลายรุ่นหลายราคาสามารถเชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ยิ่งอาจารย์มีเว็บไซต์ยิ่งมีความสำคัญเพราะสามารถเข้าดูได้ทุกเวลาทุกสถานที่ ผมสนับสนุนซื้อยี่ห้อนี้รับรองไม่ผิดหวัง”
อีกคนค้านว่า “ผมว่าซื้อ Apple iphone เลยครับ ปัจจุบันเป็น Apple iphone 4 แล้วสวยมาก ใช้งานได้สารพัด กล้องถ่ายรูปก็มีความละเอียดสูง เวลาสนทนากันสามารถเห็นหน้ากันได้เลย รุ่นนี้กำลังเป็นที่นิยมในอเมริกา หากซื้อมาใช้รับรองเป็นคนที่ทันสมัยที่สุด”
อีกคนเสนอว่า “ผมว่าซื้อ HTC ดีกว่า รุ่นที่ออกมาใหม่ๆเช่น Wildfire, Desire, Legend, Mini แต่ละรุ่นสอดยอดทั้งนั้นครับ รองรับการใช้งานทุกอย่าง ไม่ผิดหวังแน่นอน
มีอีกคนเสนอว่า “Samsung ดีกว่าครับที่กำลังโฆษณาทางโทรทัศน์ Galaxy S นะสุดยอดครับสู้กับ iphone ได้อย่างสบาย คนกำลังนิยม
ยังมีอีกหลายท่านที่เสนอว่าควรซื้อรุ่นนั้นรุ่นนี้เช่น Nokia,Wellcom, G-net,Gramin Asus,i-Mobile ฯลฯ และอีกสารพัดยี่ห้อ จนจำไม่ไหว
ในปัจจุบันโลกแห่งการแข่งขันของโทรศัพท์มือถือนับว่ามีสูงมาก แต่ละบริษัทต่างก็โฆษณาผ่านสื่อต่างๆเพื่อที่จะทำให้ขายสินค้าได้ บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือแทบทุกเดือน เพียงเพราะต้องการให้มีความทันสมัย ไม่อายเพื่อน เงินที่หมดไปกับเจ้าเทคโนโลยีมีจำนวนไม่น้อย เพราะราคาโทรศัพท์แต่ละรุ่นที่มีคนแนะนำมานั้น ส่วนมากราคาจะหลายหมื่นบาททั้งนั้น หากซื้อมาตามความอยากไม่นานก็ต้องตกรุ่นและหาซื้อรุ่นใหม่อีกต่อไป เทคโนโลยีโทรศัพท์มีแต่จะพัฒนาไปในอนาคต จากยุค 3G ที่ประเทศไทยยังมีใช้ไม่มาก แต่ในต่างประเทศพัฒนาไปถึง 4G แล้ว
เมื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแล้วก็ถึงเวลาไปซื้อโทรศัพท์มาใช้เสียที ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่เสนอมาในช่วงแรกๆราคาเกินหมื่นบาทแทบทั้งนั้น เจ้าของร้านถามว่าต้องการในงบประมาณเท่าไหร่ก็บอกเขาไปว่ามีเงินอยู่สองพันบาท แม่ค้าบอกให้ไปที่ร้านอื่นจากนั้นก็ไม่หันหน้าไปสนทนากับลูกค้าคนอื่นโดยเลิกสนใจคนมีเงินน้อยไปเลย คำหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในใจตอนนั้นคือ “จนแล้วไม่เจียม” มีเงินสองพันแต่ไปดูโทรศัพท์ราคาสองหมื่นบาท
เดินดูหลายร้านก็ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ในที่สุดจึงตัดสินใจหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือมานั่งอ่านเพื่อที่ว่าจะได้มีความรู้ทางด้านนี้บ้าง ตอนนี้กำลังอ่านเพื่อที่ว่าจะมีรุ่นไหนที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นว่า “ความจริงโทรศัพท์มีประโยชน์สูงสุดคือการโทรเข้าโทรออกเท่านั้นเอง ส่วนโปรแกรมเสริมอื่นๆที่ให้มานั้นใช้งานได้ไม่เต็มที่ เช่นการฟังเพลงเสียงก็ไม่สู้เครื่องเล่นดนตรีที่ขายเพื่อเล่นดนตรีอย่างเดียว หรือกล้องถ่ายรูปสูงสุดน่าจะไม่เกิน 5ล้านพิคเชล ภาพที่ถ่ายออกมาก็มีขนาดเล็กและสู้กล้องจริงๆที่ใช้ถ่ายภาพโดยตรงไม่ได้ การเชื่อต่ออินเทอร์เน็ตก็ไม่มีความจำเป็นเพราะคุณภาพสู้อินเทอร์ทั่วไปไม่ได้ เราไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาอยู่แล้ว วันหนึ่งใช้เวลาในการทำงานเพียงสามชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว เวลาที่เหลือก็ใช้ในการคิดเขียนเรื่องเพื่อลงเผยแผ่ในเว็บไซต์ เข้า admin จริงๆน่าจะใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที
มนุษย์เราส่วนหนึ่งมักจะอ้างเสมอว่าตนนั้นเกิดมาจน ทั้งๆที่บางคนทำงานเงินเดือนเท่ากัน แต่อีกคนพอมีอันจะกินแต่อีกคนกลับมีไม่พอใช้ ในพระพุทธศาสนาพระอรรถกถาจารย์แสดงไว้ว่าคนจนนั้นมีสาเหตุมาจาก “จนเพราะไม่มี จนเพราะไม่พอ จนเพราะไม่เจียม และจนเพราะไม่จำ”
จนเพราะไม่มี ข้อนี้น่าเห็นใจเพราะมันไม่มีทั้งสมองที่คิดจะหาเงิน ทั้งความรู้ที่จะไปหาเงิน หรือแม้แต่บางคนจนจริงๆจึงไม่มี จประเภทนี้พอให้อภัย เพราะไม่มีจริงๆ
ที่น่าคิดคือจนเพราะไม่พอ บางคนมีทรัพย์สินเงินทองมหาศาล แต่ก็ยังเป็นคนจนเพราะไม่รู้จักพอ ถ้ารู้จักพอเมื่อไหร่เมื่อนั้นก็หายจน บางคนมีเงินเพียงน้อยนิดแต่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เป็นเหมือนเศรษฐีในเรือนยาจก แต่ถ้ามีแต่ความงกก็เป็นเหมือนยาจกในเรือนเศรษฐี คนจนประเภทนี้มีมาก
จนเพราะไม่เจียม และจนเพราะไม่จำ เรื่องนี้มีให้เห็นมากในสังคมยุคปัจจุบัน อย่างกรณีของโทรศัพท์มือถือ ถ้าหากวิ่งตามคำโฆษณาจะไม่มีทางพอ ต้องหาซื้อมาไว้ในครอบครองบางคนมีโทรศัพท์หลายเครื่อง ทั้งเสียงโทรเข้าและต้องโทรออกวันหนึ่งหลายรอบ ฟังเพลง ดูโทรทัศน์จากจอโทรัพท์ ชีวิตวุ่นวายน่าดูไม่มีเวลาเป็นอิสระเลย ถ้าใช้เท่าที่มีก็ไม่มีวันจน แต่คนที่ไม่เจียมตัวมีเงินสองพันบาทแต่ไปหาซื้อโทรศัพท์ราคาสองหมื่นอย่างนี้ก็จะกลายเป็นจนแล้วไม่เจียม ที่สำคัญสิ่งไหนที่โดนหลอกเช่นหลอกให้ซื้อของดีราคาถูกต้องจำให้ขึ้นใจด้วย เพราะโลกนี้ของดีแต่ราคาถูกหายาก อย่าโดนหลอกบ่อยไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นคนจนเพราะไม่จำ
เงินสองพันบาทหมดไปกับหนังสือเกี่ยวกับโทรศัพท์หลายร้อยบาท ตอนนี้โทรศัพท์ใหม่ก็ยังไม่ได้ซื้อต้องใช้ของเก่าที่ยังพอใช้ได้ไปก่อน เราก็เป็นกลายเศรษฐีในเรือนยาจกต่อไป
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
06/07/53