ในช่วงชีวิตที่ผ่านกาลเวลามาพอสมควรนี้ มีความฝันมากมายที่ผ่านเข้ามาในแต่ละปี แต่ละเดือน หรือแต่ละวัน ที่ทำสำเร็จก็มีอยู่ไม่น้อย ที่ล้มเหลวก็มีมากยิ่งกว่า ยิ่งอายุมากขึ้น ความฝันแทนที่จะน้อยลง กลับทวีจำนวนมากขึ้นทุกวัน อยากทำนั่น อยากทำนี่ อยากได้นั่น อยากได้นี่ แต่ดูเหมือนกับว่าเวลาที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับที่จะทำความฝันให้เป็นจริงได้ ดังนั้นในแต่ละวันจึงต้องพยายามลบความฝันที่มีระยะเวลายาวนาน ทำสำเร็จได้ยากออกไป เหลือไว้เฉพาะความฝันที่พอจะเป็นไปได้ ความฝันทั้งหลายทั้งปวงจึงเป็นประเภทที่ “ฝันเพื่อที่จะคัดออก” หรือ “มีฝันไว้เพื่อลบทิ้ง”
ก่อนอายุหกสิบปี มีฝันที่ตกค้างที่ทำไม่สำเร็จมากมาย ก่อนอื่นต้องขอนิยามความฝันของข้าพเจ้าก่อน ความฝัน หมายถึงสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยกำลังกายและกำลังใจของตนเอง เช่น อยากจะเรียนให้จบชั้นสูงสุดของการศึกษาคือปริญญาเอก เราต้องลงมือทำเอง หาเงินมาจ่ายค่าเทอมเอง เขียนวิทยานิพนธ์เอง ต้องทำด้วยกำลังของตัวเอง เป็นต้น ส่วนความฝันที่อยากเป็นเศรษฐีมีเงินหลายล้าน ก็ต้องหาช่องทางเอาเอง
ความฝันประเภทที่หวังรวยทางลัด มีโชคลาภจากการถูกสลากกินแบ่งได้รางวัลหลายล้านบาทนั้น ไม่นับเข้าในความฝัน ฝันได้แต่ได้มาเพราะแรงหนุนจากความบังเอิญ มิใช่ฝันที่เราต้องทำเอง มนุษย์มีสิทธิ์ที่จะฝัน แต่ฝันนั้นเราต้องลงมือกระทำด้วยเรี่ยวของเราเอง ฝันที่เป็นลักษณะที่เป็นการดลบันดาบจากสิ่งอื่นแบบนี้ต้องคัดออกก่อน เพราะโอกาสที่ฝันจะเป็นจริงนั้นยากอย่างยิ่ง
ลองทบทวนความฝันที่เป็นจริงว่ามีอะไรบ้าง ด้านการศึกษาสามารถทำความฝันให้เป็นความจริงได้ เรียนจบชั้นสูงสุดของระบบการศึกษาของประเทศ แม้จะเป็นสาขาวิชาที่ไม่ใช่มีผู้นิยมมากนัก ทำงานไปด้วย เก็บเงินจ่ายค่าเทอม อยู่แบบอดออม ใช้เงินเพื่อการอย่างอื่นให้น้อยที่สุด รายได้ส่วนมากทุ่มเทไปที่การเรียนตลอดระยะเวลาหลายปี พอจะเรียกได้ว่าใช้เงินที่ตนเองหาได้เกือบทั้งหมด มีบ้างในบางเวลาที่ติดขัดอาจจะขอหยิบยืมคนอื่นบ้าง แต่หนี้เหล่านั้นได้ใช้คืนหมดแล้ว เรียนจบได้ทำงานในสาขาวิชาที่ตนเองได้ศึกษาร่ำเรียนมา พอจะนับได้ว่า “มีความที่เป็นจริง” อยู่บ้าง
ไม่ได้นับว่าเป็นกลยุทธแต่อย่างใด เพียงแต่เปลี่ยนเส้นทางเก่าที่ต้องบอกว่าเป็นทางตัน เมื่อรู้ว่าไปไม่ไหว ไปไม่รอด ก็แค่เปลี่ยนเส้นทาง เปลี่ยนวิธีการ กำหนดจุดหมายให้ใกล้ลง วิธีการเปลี่ยน แต่เศษแห่งความฝันยังอยู่
ชีวิตไม่ได้มีเส้นทางเดียว ยังมีอีกหลายเส้นทางให้เราเลือกเดิน บางครั้งเราก็ไม่ได้คิดถึงเท่านั้น คิดถึงสมัยที่ยังหนุ่มเดินทางหลงป่าในภูเขาแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เช้ายันบ่าย เดินทางวนไปวนมาก็วกกลับมาที่เดิม จนเหนื่อยต้องนั่งพักเงียบๆ ฟังเสียงรอบข้างที่เราไม่ได้สังเกตมาตั้งแต่ต้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงไก่ขันแว่วมาตามสายลม จากนั้นก็ออกเดินตามเสียงไก่ ทั้งๆทางสายนั้นไม่ได้สะดวกสบายเต็มไปด้วยป่า รกครึ้มไปด้วยเถาว์วัลย์ ทางที่เราไม่อยากเดิน แต่กลับเป็นทางออก แม้จะลำบากบ้างแต่ก็เป็นทางที่สามารถออกจากป่าได้ ส่วนเส้นทางที่เราคิดว่าใช่ เดินทางสะดวก กลับไม่ใช่ทางออก เลือกสบายแต่กลายเป็นหลง แต่เมื่อตัดสินใจเลือกทางลำบากกลับไปถึงจุดหมายได้
พออายุมากขึ้น ก็ต้องคอยลบความฝันที่เกินแรงออกไป เหลือไว้เฉพาะความฝันที่กำลังของเราพอจะทำได้ ความฝันที่ไม่จำเป็นก็ลบทิ้งไป ฝันได้ก็ลบทิ้งได้ บางทีข้อมูลความฝันในหัวใจแม้เพียงไม่กี่อย่าง แต่เป็นฝันที่อาจจะทำให้เป็นจริงได้ ความฝันที่ยากเกินไปก็เหมือนขยะเก็บไว้ก็รกหัวใจ ลบทิ้งบ้างก็ได้ อย่าปล่อยให้ความฝันมากมายที่เป็นได้แค่ความฝัน ที่ไม่มีโอกาสเป็นจริง วันนี้ถึงแม้จะยังพอมีความฝันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นประเภท ฝันใกล้ๆ ไปช้าๆ
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
30/03/ 65