ในความรู้สึกแล้วเมืองนี้เป็นเมืองที่แสนธรรมดาอย่างยิ่ง ไม่ได้มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่แต่อย่างใด ความเก่าแก่ของโบราณสถาน โบราณวัตถุก็ไม่ได้แตกต่างจากเมืองอื่นมากนัก แต่ทว่าความเป็นธรรมดาของเมืองนี้กลับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความเป็นธรรมดาของเมืองนี้ เมืองที่มีป่าไม้งาม แม่น้ำใส ภูเขาสวย รวยด้วยวัฒนธรรมประเพณี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว นามว่า “หลวงพระบาง” เมืองมรดกโลก
วันนั้นหลังจากที่กราบลาเจ้าอาวาสวัดป่าภูช้างแล้ว ก็เหมารถสามล้อเครื่องเข้าเมือง มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางเป็นอันดับแรก เนื่องจากยังเช้าอยู่ พระสงฆ์เสร็จจากบิณฑบาตข้าวเหนียวอันเป็นประเพณีที่ทำให้คนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อตักบาตร เสร็จสิ้นภารกิจก่อนเจ็ดโมงเช้า แต่พิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิด ด้านหน้ามีเพียงแม่ค้าสองสามคน นั่งขายสินค้า คนหนึ่งขายมันทอด กล้วยทอด อีกคนขายข้าวหลาม อีกคนขายของที่ระลึก
นักท่องเที่ยวหลายคนกำลังทยอยเดินสวนกันไปมาตามถนนสายคนเดิน ซึ่งในภาคเช้ายังมีรถวิ่งอยู่บ้าง จึงขึ้นไปนั่งเล่นที่บริเวณทางขึ้นวัดพูสี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายคนกำลังเดินขึ้นตามบันไดเพื่อไปยังจุดชมวิวซึ่งอยู่สูงสุดบนวัด
เจ้าของร้านขายน้ำที่อยู่บริเวณทางขึ้นวัดบอกว่า “หลวงพี่มาจากเมืองไทยหรือครับ หากอยากชมความงามจริงๆ ต้องขึ้นตอนเย็น จะได้เห็นทิวทัศน์ยามเย็นที่งดงาม มองได้รอบทิศเลยครับ หลวงพี่ไปที่วัดป่าฮวกก่อนก็ได้ครับ เป็นวัดไทยสมัยรัชกาลที่ห้า มีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามอยู่ภายในครับ ” เขานำน้ำดื่มมาถวายหนึ่งขวด
รอเวลาที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเปิด จึงถ่ายภาพบรรยากาศเล่นๆ หอพระบางสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้า แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองที่พร้อมที่อุบัติขึ้นในเมืองหลวงพระบาง ต้นตาลสูงตระหง่านยาวเป็นแถวสองข้างทางบริเวณทางเดินไปสู้ประตูพิพิธภัณฑ์ แสดงถึงความมีอายุยาวนาน หอพิพิธภัณฑ์ใต้เงาต้นตาล ก็บ่งบอกถึงสถานะที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน อยู่มาหลายชั่วอายุต้นตาลประมาณนั้น
นักท่องเที่ยวเข้ามาถามไถ่ ชนสนทนา และขอถ่ายภาพ บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนกับว่าเราเองก็เป็นคนเมืองนี้ไปแล้ว ทั้งๆที่พึ่งเดินทางมาถึงไม่กี่ชั่วโมง ความเป็นกันเองของพลเมืองกับนักท่องเที่ยวผสานกลมกลืนอย่างรวดเร็ว ฝรั่งชาวเยอรมันสองสามีภรรยานำมันทอดมาถวายหนึ่งถุง “ผมเคยอยู่ใกล้วัดไทยในเยอรมันครับ ไปร่วมงานที่วัดบ่อย” จากนั้นก็ชวนสนทนาไปตามเรื่อง มีเพื่อนเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องออกไปหา เป็นเพื่อนที่พึ่งพบกันครั้งแรก อยู่กันคนละประเทศ พูดกันคนละภาษา แต่ทว่ากลับเข้าใจกันได้
พอพิพิธภัณฑ์เปิดเริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยกันมามากขึ้นตามลำดับ ฟังจากเสียงพูดคุยมีหลายชาติ มีกลุ่มคนไทยหลายกลุ่ม แต่ทว่ามีพระภิกษุเพียงรูปเดียวที่เดินเข้าชมพิพิธภัณฑ์อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีไกด์นำเที่ยว แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่ประการใด เพราะมีป้ายภาษาลาวให้อ่านอยู่แล้ว ภาษาลาวกับภาษาไทยใกล้เคียงกัน หากพิจารณาให้ดีก็สามารถเข้าใจความหมายได้
เมื่อตะวันเริ่มสายถนนหน้าวัดพูสีเริ่มเปลี่ยนไป จากรุ่งเช้าที่เงียบเหงากลายเป็นความครึกครื้นที่เต็มไปด้วยนักเดินทาง ที่เดินทางด้วยเท้าเดินสวนกันไปมา ริมทางเริ่มมีแม่ค้านำสิ่งของมาวางขาย รถราต่างๆเริ่มลดปริมาณลง จนไม่มีรถวิ่งบนถนนสายนั้น เหลือไว้แต่ผู้คน
สอบถามจากคนขับสามล้อเครื่องก็ได้คำตอบว่า “ถนนสายนี้ห้ามรถวิ่งครับ สงวนไว้สำหรับคนเดินถนน เมื่อบอกเจตจำนงว่าอยากไปที่วัดเชียงทอง คนขับบอกว่าต้องอ้อมไปอีกถนนสายหนึ่งครับ แต่หากอยากเดินก็ไปได้ไม่ไกลนัก พึ่งได้คำตอบว่าบางครั้งการเดินทางด้วยเท้ากับการเดินทางด้วยรถอาจจะไปถึงเป้าหมายในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นเพราะรถต้องอ้อม แต่การเดินเป็นทางตรงนั่นเอง
ตั้งใจว่าจะอยู่ที่หลวงพระบางหนึ่งวันจากนั้นจะเดินทางทางเรือไปบ่อแก้ว และขึ้นรถยนต์โดยสารกลับกรุงเทพฯ
เมื่อสอบถามเหล่าคนขับรถสามล้อที่หน้าวัดเชียงทองก็ได้คำตอบว่า “ท่าเรืออยู่ห่างจากนี้ไปประมาณ 8 กิโลเมตรครับ เรือออกตอนเช้าทุกวัน ไปปากแบง เข้าบ่อแก้ว ห้วยซาย ข้ามไปฝั่งไทยที่เชียงของ แต่การเดินทางไปได้หลายทางครับ มีรถยนต์โดยสารหลวงพระบาง-เชียงใหม่ หรือหลวงพระบาง-เลย เลือกเดินทางได้ตามสะดวก รถออกตอนเย็นๆครับ”
เมื่อฟังคำอธิบายแล้วจึงวางแผนใหม่ ตัดสินใจไปรถยนต์ สามล้อเครื่องไปส่งที่สถานี ติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร เวลารถออกหกโมงเย็น ยังมีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมง สารถีคนเดิมเสนอว่า “ผมจะพาไปเที่ยวเช่นแม่น้ำสองสี ชมตะวันตกดินที่วัดเวียดนาม เป็นต้น จากนั้นจะพามาส่งที่สถานีขนส่งให้ทันเวลา”
การเดินทางไปหลวงพระบางในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการเดิม เพราะตั้งใจไว้เพียงแค่จะไปทุ่งไหหินเท่านั้น แต่การเดินทางแบบไม่ต้องมีความกังวลใดๆ ก็สามารถไปตามที่ต้องการได้ เที่ยวชมสถานที่ตามที่อยากไป แม้จะไม่ใช่สถานที่ที่โด่งดังที่อยู่ในตารางรายการการท่องเที่ยวก็ตาม เป็นการเที่ยวตามใจฉัน
หลวงพระบางเมืองที่ร่ำรวยด้วยธรรมชาติ ป่าไม้งาม แม่น้ำใส ภูเขาสูง วิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่าย ดำเนินชีวิตตามสบาย มีความปลอดภัยสูงมาก โจร ขโมยมีน้อยมาก จนอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเมืองที่ไม่มีโจรขโมย นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย สามารถสนทนาพูดคุยกับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวอื่นๆได้เหมือนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งๆพึ่งพบกันครั้งแรก
หลวงพระบางเมืองธรรมดา วิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่เพราะความธรรมดาและความเรียบง่ายนี่เองกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดอีกเมืองหนึ่งของโลก บางทีความเรียบง่ายที่แสนธรรมดาก็กลายเป็นงดงามได้
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
10/01/59