ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

                 เสียงแมลงกลางวันส่งเสียงร้องระงมในราวป่าที่เงียบสงบ ใบไผ่พริ้วไหวตามสายลม เสียงต้นไผ่เสียดสีกันดังอิดออดๆตามท่วงทำนองที่ลมพัด แม้จะไม่ใช่เสียงบทเพลงที่มีท่วงทำนองสะเนาะไพเราะอะไร ไม่ผ่านการประสานเสียง แต่ทว่ากลับกลายเป็นบทเพลงที่แสนไพเราะที่สุดในป่าเปลี่ยวแห่งนี้ แสงแดดลอดผ่านทิวไม้ในเวลาใก้ล้สนธยา กระรอกดำตัวหนึ่งมาหยุดที่ต้นไม้ใกล้ๆกุฎิ จ้องมองมาเหมือนกำลังจะถามข่าวทักทายแขกผู้แปลกหน้าในวัดป่าเปลี่ยวแห่งนี้ คงสงสัยว่ามนุษย์แปลกถิ่นผู้นี้มาทำอะไรที่นี้

                 สงกรานต์ตามปรกติจะมีเวลาเพียงสามวัน วันที่ 13 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็นวันผู้สูงอายุ วันที่ 14 เมษายนเป็นวันครอบครัว และวันที่ 15 เป็นวันสงกรานต์ แต่หากอยู่กันคนละทิศอยู่ไกลกันคนละทาง ก็ต้องเลือกเอาว่าจะอยู่วันไหนในสถานที่ที่เรากำลังดำรงอยู่

                 ผู้เขียนมีถิ่นพำนักปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร แต่มารดาอยู่อีกจังหวัดหนึ่งระยะทางห่างไกลกันกว่าสามร้อยกิโลเมตร การจะเดินทางในช่วงวันสงกรานต์ทั้งอันตราย ทั้งหารถยาก จึงตัดสินใจว่าปีนี้คงได้เพียงร่วมงนวันผู้สูงอายุที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น คงไม่มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมแม่ในวันครอบครัว เพราะมีปัญหาเรื่องการเดินทาง

                 เช้าวันที่ 14 เมษายน ยังทำหน้าที่ที่วัดแสดงธรรมเทสนาหนึ่งกัณฑ์ ในระหว่างเทศน์พอพูดถึงวันครอบครัวก็นำเสนอลักษณะของครอบครัวที่อบอุ่นว่าควรจะมีองค์ประกอบด้วยลักษณะ “5 อ” ซึ่งประกอบด้วย “อภัย เอื้อเฟื้อ อารมณ์ขัน อดทน และอบอุ่น” 

                จากนั้นก็สาธยายไปเรื่อยๆ คำว่า “อภัย” หมายถึงการให้อภัยหากใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวทำอะไรผิดพลาด ก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดานั้นย่อมมีการกระทำที่ผิดพลาดได้ หากยังถือโกรธเคืองไม่ยอมลืมอดีตที่ทำผิด ชีวิตในอนาคตก็อาจจะดำเนินไปด้วยความทุกข์ทรมานใจ บางอย่างก็ควรยกโทษให้แก่ผู้กระทำด้วย ในส่วนของผู้กระทำผิดก็ไม่ควรกระทำซ้ำอีก 

 

                 “เอื้อเฟื้อ” หมายถึงการแบ่งปันให้แก่กันและกันตามสมควร โดยเฉพาะผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะของผู้หลักผู้ใหญ่ จะต้องมีหลักการ ดังคำโบราณที่ว่า “เป็นผู้ใหญ่ที่ดี ต้องมีหลัก มิใช่รักห่วงใย คนใกล้กว่า  ในปกครองต้องรักและเมตตา มิใช่ว่า ใครบ้าใบ้ ไม่ใยดี” ผู้ใหญ่จึงต้องมีความรักความเอื้อเฟื้อต่อลูกหลานโดยความเท่าเทียมกัน 

                 “อารมณ์ขัน” แม้จะฟังดูเผินๆเหมือนไม่มีได้มีความสลักสำคัญอะไร แต่หากมองให้ชัดแล้ว หากผู้คนไม่มีรอยยิ้ม หน้บูด หน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลาแล้ว คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ หากโลกนี้ไร้ซึ่งรอยยิ้ม โลกนี้คงแห้งแล้ง เหมือนที่นาที่รอฝน 

                 “อดทน” ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในโลกแห่งความวุ่นวายใบนี้ เพราะมีสิ่งที่เกิดขึ้นมากมาย บางครั้งก็ต้องเจ็บต้องทนทั้งกายและใจ ต้องอดต้องทนเข้าไว้ ในการดำเนินชีวิตของผู้คนก็ต้องพานพบกับสิ่งที่ไม่ชอบใจมากมาย ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอดต้องทนเข้าไว้จะได้ดีเอง ในพระพุทธศาสนาได้แสดงความอดทนไว้หลายแห่งเช่นในโอวาทปาฏิโมกข์ ก็ถือเป็นหลัการสำคัญที่จะต้องถือปฏิบัตคือ “ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา” แปลว่า “ความอดทนเป็นตบะอย่างยอดเยี่ยม” คิดถึงแม่ที่อดทนหาเงินส่งลูกเรียนจนจบปริญญาเอก คงมีความอดที่สูงเยี่ยม

                 หากกระทำได้ดังนี้ก็จะนำไปสู่ครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา หากครอบครัวมีความสุข ประเทศชาติก็สงบร่มเย็น ครอบครัวเป็นหน่วยสังคมที่เล็กที่สุด มีคำสอนของคนโบราณว่า “เริ่มต้นที่พ่อ ก่อกันที่แม่ แก้ที่โรงเรียน เปลี่ยนวัด” หากพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลานโดยการ “ทำดีให้ลูกดู อยู่ให้ลูกเห็น เย็นให้ลูกหลานได้สัมผัส”   “ครอบครัวก็อบอุ่น หากครอบครัวใดอยู่กันอย่างสงบสันติแล้ว ปัญหาต่างๆก็จะเบาบางลง

 

                 สุดท้ายของการแสดงธรรมได้หลุดปากออกไปว่า “อาตมา็ยังมีแม่ที่อายุมากแล้ว ในวันครอบครัวก็ตั้งใจว่าจะเดินทางกลับไปเยี่ยมโยมแม่” จากนั้นก็จบธรรมเทศนาในวันครอบครัว แสดงธรรมจบมีผู้ถวายกัณฑ์เทศน์พิเศษอีกหลายคน บอกว่าถวายเป็นค่ารถให้ท่านเดินทางไปเยี่ยมแม่

                 ต้องสารภาพว่าเนื่องจากปีนี้มีค่าใช้จ่ายมาก จนเงินทองแทบจะไม่มีเหลือ จึงไม่ได้วางแผนการเดินทางไปไหน ถึงแม้ว่าทรัพย์สินเงินทองจะเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นหากอยู่เฉยๆไม่เดินทางไปไหน ก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร แต่หากคิดจะเดินทางไกลก็ต้องมีบ้าง อย่างน้อยก็ต้องมีเงินค่ารถ 

                 เก็บกระเป๋าเดินทางอย่างรีบด่วน อย่างน้อยสงกรานต์ปีนี้ก็มีที่ให้ไปแล้ว กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด รถโดยสารออกจากสถานีเที่ยงวัน ตามถนนหนทางยังมีผู้คนออกมาเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์อยู่บ้าง แต่ก็เดินทางสะดวก เพราะคนขับชำนาญทาง แม้จะคอยหลบหลีกการสาดน้ำจากสองข้างทาง 

                 การเดินทางวันนี้ไม่มีอุบัติเหตุให้เห็น ถึงบ้านโยมแม่เวลาหกโมงเย็น แม่กำลังสนทนาพูดคุยกับลูกหลานที่มีวันหยุดหลายวัน ได้ยินเสียงหัวเราะทุกอย่างก็เบาใจ รดน้ำดำหัวโยมแม่เสร็จ จากนั้นก็เข้าไปขอพักที่วัดป่า หลวงพ่อเจ้าอาวาสเสร็จจากการทำวัตรสวดมนต์พอดี กุฏิหลังเก่าไม่มีพระภิกษุรูปใดพักอยู่เลย จึงเข้าพักที่กุฎิหลังเดิม เหมือนกำลังรอใครสักคน คงไม่ีใครอื่นใดเพราะหลวงพ่อเจ้าอาวาสบอกว่าเคยมีพระมาพักอยู่บ้าง แต่อยู่ได้ไม่นานนัยว่ามักจะถูกผีหลอกอยู่เสมอ

 

                 จึงบอกหลวงพ่อว่า “พระกับผีหนีกันไม่พ้น หลอกได้หลอกไป หากไม่กลัวก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผีคงอยากได้ส่วนบุญจึงมาเยี่ยม” 

                 ปรกติจะเข้าพัก ณ สถานที่ใดก็จะไม่ลืมกำหนดจิตถึงเจ้าที่เจ้าทางบอกว่ามาดี มาขอพาอาศัยเท่านั้นขอให้อยู่ดี มีความสุข อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เคล็ดลับง่ายๆเพียงแค่นี้ทุกอย่าก็ราบรื่น ไม่ค่อยมีปัญหากับผีสักเท่าไหร่ ต่างฝ่ายต่างอยู่

                 ปีนี้โยมแม่แก่ไปมาก แต่ก็ยังเห็นรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แทรกผ่านใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยที่บ่งบอกถึงแห่งกาลเวลาที่ก้าวผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แม่มีลูกหกคน คนหนึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก จึงเหลืออยู่ห้าคน คนโตอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว อีกคนอุปสมบทเป็นพระป่าหายสาบสูญไปในป่าทางภาคเหนือ ยังเหลืออยู่กับแม่สามคน แต่ละคนก็มีครอบครัว มีลูกมีหลานให้แม่ได้เลี้ยง หลานสาวคนหนึ่งกำลังเรียนระดับปริญญาเอก ส่วนลูกชายคนโตจบปริญญาเอกแล้ว ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง 

 

                 แม้ว่าแม่จะเรียนมาน้อยเป็นเพียงชาวนาชาวไร่ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ทว่าก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ดอกเตอร์ เพราะมีลูกชายคนหนึ่งเรียนจบปริญญาเอก ในอนาคตก็ต้องเรียกขานว่ายายดอกเตอร์ เพราะหลานสาวกำลังจะจบปริญญาเอกอีกคน  

                 ในบรรยากาศแห่งวัดป่าที่เงียบสงัด เสียงปักษานานาชนิดร้องระงมป่า คงได้เวลาในการกลับคืนสู่รวงรัง หลังจากที่ออกหาอาหารมาทั้งวัน ในป่าเปลี่ยวอยู่คนเดียวในเวลาพลบค่ำ ฟังเสียงร้องของสัตว์ป่าที่กำลังกลับคืนสู่ที่พัก ตัวเราเองแม้จะเป็นเหมือนที่ไร้คอน จากบ้านเกิดเมืองนอนไปแสวงหาความรู้ จนพอจะมีความรู้อยู่บ้าง แต่ทว่าสิ่งที่ศึกษาร่ำเรียนมานั้นกลับทำให้ต้องไกลจากบ้านเกิด เป็นลูกชาวไร่ชาวนาแต่ไม่ได้เรียนวิชาทำนา ไม่ได้เดินตามรอยแห่งบรรพบุรุษเลย

                 กระรอกขาวกับกระรอกดำวิ่งไล่กันมาตามป่าไผ่ มีกระรอกสองสี แต่เจ้ากระรอกดำวิ่งผ่านเลยไป ส่วนเจ้ากระรอกขาวกลับหยุดมองส่งเสีียงทักทายเหมือนพบคนแปลกหน้า แม้จะบอกแกว่าข้าก็คนถิ่นนี้ แต่จากถิ่นฐานไปนาน วันนี้กลับมาแล้ว กลับมาสงกรานต์ มาเยี่ยมโยมแม่ที่เริ่มแก่ชราไปตามวันเวลา สงกรานต์ปีนี้จึงมีความสุขกับครอบครัวของโยมแม่ที่อบอุ่นด้วยลูกหลาน ปีนี้ลูกหลานมากันพร้อมหน้า เป็นครอบที่สุขสันต์ในวันสงกรานต์อีกหนึ่งปี

 

 

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน

15/04/58 

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก