ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้บ่อย เนื่องเพราะอยู่ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงจากหน้าฝนเข้าสู่หน้าหนาว เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ฝนคงสั่งฟ้าไปแล้ว ในแต่ละวันจึงมักจะมีลมแรง เป็นลมที่มากับความหนาว เมื่ออากาศแห้ง ลมแรง หากสถานที่ใดมีเชื้อไฟอยู่มาก ก็พร้อมที่จะเกิดไฟไหม้ได้ทุกเวลา ลมกับไฟมักจะเป็นของคู่กัน หากวันใดมีลมโหมแรงก็จะยิ่งเพิ่มของรุนแรงของไฟให้ลุกโพลงจนลุกลามใหญ่โต ยากที่จะดับได้ ช่วงนี้เข้าหน้าหนาวลมแรงจึงควรระวังไฟไหม้ อย่าได้ประมาท อย่าได้ล้อเล่นกับไฟ เพราะแม้ว่าไฟจะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีโทษมากมายสุดพรรณา
ไฟเป็นของร้อนแม้จะมีประโยชน์มากมายให้ความสว่างแก่โลก ให้ความร้อนแก่โลก ใช้หุงหาอาหารแก่มวลมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน ไฟไหม้จึงภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงไม่แพ้กับสิ่งอื่นๆเช่นดิน น้ำ ลม ไฟภายนอกมองเห็นได้ป้องกันได้หากไม่ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะหากเกิดไฟไหม้ขึ้นเมื่อใดทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายทั้งปวงก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านมอดไหม้ไปกับเปลวเพลิงนั้น แต่หากไฟที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของใครแล้ว หากไม่ระวังป้องกันก็อาจจะกลายเป็นไฟไหม้ใจได้ทุกเมื่อ
ในพระพุทธศาสนาได้แสดงไฟไว้ถึงเจ็ดประการดังที่ปรากฎในอัคคิสูตร อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต (23/43/42) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฟเจ็ดกองนี้ คือ ไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ ไฟคืออาหุไนยบุคคล ไฟคือคหบดี ไฟคือทักขิไณยบุคคล ไฟเกิดแต่ไม้ ดูกรภิกษุทั้งหลายไฟเจ็ดกองนี้แล”
ราคะ โทสะ โมหะ เป็นกิเลสที่ทำให้จิตใจเร่าร้อน จึงเป็นเหมือนไฟที่พร้อมจะเผาผลาญจิตใจให้มอดไหม้ไปได้ทุกเวลา นอกจากนั้นยังพร้อมที่จะเปล่งประกายความร้อนไปยังผู้คนที่อยู่รอบข้างอีกด้วย คนที่ในจิตใจมีไฟคือกิเลส เมื่อเข้าใกล้ก็พลอยร้อนรนไปด้วย
อาหุไนยบุคคล หมายถึงบุคคลที่ควรแก่การบูชา ควรแก่การบวงสรวง ซึ่งย่อมจะเป็นผู้มีอำนาจ หรืออาจจะมีอิทธิฤทธิ์พร้อมที่จะให้และโทษแก่ผู้ที่อยู่ใกล้ได้ทุกเมื่อ โบราณจึงมักจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับฤาษีตาไฟที่หากลืมตาขึ้นเมื่อใดก็จะมอดไหม้สิ่งที่อยู่ใกล้ได้ ปัจจุบันน่าจะหมายถึงผู้ที่มีอำนาจ ผู้ทรงอิทธิพล หากเกิดความร้อนภายในขึ้นเมื่อใดก็ย่อมจะแผดเผาแก่ผู้ที่อยู่ใกล้ได้เหมือนกัน
คำว่า “คหบดี” ตามศัพท์ในภาษาบาลีคือ “คหปติ” แปลว่าคหบดี พ่อบ้าน พ่อเรือน ผู้ชายเป็นเจ้าของบ้าน ในปัจจุบันน่าจะหมายถึง คนมีอำนาจ นี่ก็เปรียบเหมือนไฟเหมือนกัน
คำว่า “ทักขิไณยบุคคล” แปลว่า ผู้สมควรเพื่อทักขิณา ผู้ควรรับทาน ผู้สมควรได้รับไทยธรรมที่เขานำมาถวาย เป็นผู้ที่ควรบำรุงบำเรอ พึงให้การสนับสนุน เป็นเหมือนไฟทางใจที่พร้อมจะส่องทางสู่ความเจริญ เป็นประทีปส่องทางสู่ความสงบร่มเย็น
ส่วนไฟที่เกิดจากไม้นั้นมีคำอธิบายชัดเจนในตัวอยู่แล้ว เมื่อไฟได้เชื้อย่อมจะลุกโพลงได้ง่าย หากไฟไม่มีเชื้อไฟนั้นถึงหากจะมีอยู่ก็เหมือนไม่มี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายอะไรแก่ใครได้
มีสำนวนไทยอยู่คำหนึ่งว่า “เล่นกับไฟ” หมายถึงการงัดข้อ ลองของกับคนที่เหนือกว่าอำนาจมากกว่า หรือไปลองสิ่งที่อันตราย การเข้าไปพัวพันหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ไม่ดีหรือไปลองกับสิ่งที่เป็นอันตราย
คนโบราณมักจะสอนเสมอว่า “อย่าเล่นกับไฟ” เพราะหากเล่นกับไฟแล้ว โอกาสจะพลาดพลั้งโดนไฟลวกเอาได้ หรือไฟอาจลุกลามไหม้บ้านเรือนให้เดือดร้อนได้ นั่นคือคำเตือนไม่ให้เราประมาท เกรงว่าพลาดพลั้งไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้ สำนวนนี้มักจะใช้สอนผู้หญิงให้รู้จักระมัดระวัง ในการให้ความสนิทสนมกับผู้ชายเจ้าชู้หรือชายที่มีเจ้าของแล้ว ว่าอย่าเล่นกับไฟให้เปลืองตัว เพราะอาจจะพลาดท่าได้ทุกโอกาส
ไฟกับลมมักจะเป็นของคู่กันในทางโหราศาสตร์หากคนที่มีธาตุไฟมักจะไปกันได้ดีกับคนธาตุลมหากคนธาตุไฟและธาตุลมมาอยู่ด้วยกันมักจะมีความตื่นเต้นกระตือรือร้น ชีวิตมักไม่ค่อยหยุดนิ่ง ธรรมชาติของลมคือความเย็นซึ่งช่วยดับความร้อนของไฟได้ แต่หากวันไหนลมแรงก็จะเป็นการช่วยโหมกระหน่ำให้ไฟกินเชื้อได้เร็วขึ้น เมื่อนั้นก็จะเกิดเป็นเหมือนไฟไหม้บ้าน
จำได้ว่าครั้งหนึ่งที่ประเทศฮ่องกง เพื่อนพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ที่วัดไทยในฮ่องกงบอกว่า หากมาที่ฮ่องกงต้องไปดูเขาเล่นกับไฟ จึงจะได้บรรยากาศ จากนั้นก็ชวนกันออกเดินทางไปยังสถานที่ที่ชาวฮ่องกงเขาเล่นกับไฟ ซึ่งเป็นการเล่นไฟที่มีชื่อเสียงมาก ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวันกับกลางคืน จะมีช่วงเวลาวันละหนึ่งชั่วโมงที่เขาจะเล่นกับไฟ โดยการเปิดไฟตามแต่จินตนาการ บางครั้งวูบวาบ บางครั้งเป็นเหมือนคลื่น บางครั้งเป็นภาพของบุคคลสำคัญปรากฏขึ้น ผู้คนต่างก็เฝ้าดูที่อีกฝั่งหนึ่งของชายทะเล
อีกแห่งหนึ่งอยู่บนที่สูงมองลงมาเห็นแสงไฟจากร้านค้า อาคารต่างๆในฮ่องกง พอเปิดไฟอาคารเหล่านั้นก็จะประดับไฟไปตามแต่จินตนาการ มองดูสวยงามอย่างยิ่ง ไฟหลายหลากสีสลับสับเปลี่ยน เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจับใจ ชาวฮ่องกงเข้าใจเล่นกับไฟจริงๆ
ไฟนั้นหากใช้ให้ถูกวิธีย่อมมีประโยชน์ทำให้โลกนี้น่าอยู่ อย่างเช่นที่ฮ่องกงก็ชอบเล่นกับไฟ ส่วนที่เมืองไทยในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช ก็มีการประดับตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยไฟนานาชนิดเป็นความสวยงามที่คนทั้งโลกกล่าวขานและอยากจะมาเยี่ยมชม
ในทางตรงกันข้ามหากการไม่ระมัดระวังให้ดี ไฟก็อาจจะกลายเป็นผู้ทำลายได้ทุกเวลา ดังนั้นการเล่นกับไฟต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญพิเศษ อย่าเผลอไฟเล่นกับไฟโดยที่ไม่ป้องกัน อาจจะเกิดไฟไหม้ขึ้นจนก่อให้เกิดเสียหายได้ โดยเฉพาะไฟคือราคะ โทสะ โมหะในจิตใจมนุษย์นั้นหากเกิดขึ้นเมื่อใด ก็พร้อมที่จะเผาไหม้จิตใจให้เร่าร้อนได้ทุกเวลา
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
13/11/57