ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

            เมื่อครั้งที่บวชใหม่ๆ หนังสือตำรับตำราทั้งหลายหายาก ตามต่างจังหวัดจึงมีอยู่เพียงไม่กี่เล่ม นักเรียนแผนกนักธรรมมีตำราเพียงชุดเดียว ครูจึงต้องใช้วิธีเขียนบนกระดานดำ และอธิบายเป็นเรื่องๆไป หนังสือตำราเรียนมีคนเขียนอยู่คนเดียวมีนามตามหน้าปกว่าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส  ดังนั้นเมื่อเริ่มเรียนนักธรรมและอ่านหนังสือธรรมะชื่อที่รู้จักเป็นชื่อแรกก็คือสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ นี่แหละ เพราะพระองค์ท่านประพันธ์หนังสือไว้หลายเล่ม ทั้งแผนกนักธรรมและแผนกบาลี แม้ปัจจุบันจะมีตำราเรียนมากขึ้น แต่ที่ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงยังคงใช้ตำราของสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ อยู่นั่นเอง

          
            สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส  มีนานเดิมว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ  ทรงผนวชเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ 14 พรรษา  ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อผนวชแล้วมาประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงผนวชอยู่ 2 เดือนก็ทรงลาผนวช
            เมื่อพระชนมายุ 20 พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2422 สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์  ทรงผนวชแล้วเสด็จมาอยู่จำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

            จากหนังสือชุดพระเกียรติคุณ สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “ถึงหน้าเข้าพรรษาปีนั้นนั่นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จมาทรงถวายพานพุ่มพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหารตามราชประเพณี และในคราวนั้นได้เสด็จฯไปถวายพุ่มพรรษาแด่พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้ามนุษยนามานพ ซึ่งพึ่งผนวชใหม่ถึงกุฏิที่ประทับ พร้อมทั้งทรงก้มกราบด้วยพระอาการเคารพ อันเป็นอาการที่ไม่เคยทรงปฏิบัติต่อพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์อื่นที่ทรงผนวช เป็นเหตุให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้นทรงตัดสินพระทัยไม่ทรงลาผนวชแต่วันนั้น ดังที่พระองค์ได้บันทึกไว้ในพระประวัติตรัสเล่าว่า “เสด็จถึงกุฎีทรงประเคนพุ่ม เราเห็นท่านทรงกราบด้วยความเคารพอย่างเป็นพระแปลกจากพระอาการที่ทรงแสดงแก่พระองค์อื่นเพียงทรงประครองอัญชลี เรานึกสลดใจว่า โดยฐานเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านก็เป็นเจ้าของเรา โดยฐานเนื่องในพระราชวงศ์เดียวกันท่านก็เป็นพระเชฏฐะของเรา โดยฐานเป็นผู้แนะราชการพระราชทาน ท่านก็เป็นครูของเรา เห็นท่านทรงกราบ แม้จะนึกว่าท่านทรงแสดงความเคารพแก่ธงชัยพระอรหันต์ต่างหาก ก็ยังวางใจไม่ลง ไม่ปรารถนาจะให้เสียความวางพระราชหฤทัยของท่าน ไม่ปรารถนาจะให้ท่านทอดพระเนตรเราผู้ที่ท่านทรงกราบแล้ว ถือเพศเป็นคฤหัสถ์อีก ตรงคำที่เขาพูดกันว่ากลัวจัญไรกิน เราตกลงใจว่าจะไม่สึกในเวลานั้น” (สุเชาว์  พลอยชุม, พระเกียรติคุณ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส(พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ) วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย,2541, หน้า 4)

            สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงมีคุณูปการมากมายเช่นทรงจัดตั้งมหามกุฏราชวิทยาลัย ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย  ทรงจัดตั้งโรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย ทรงออกนิตยสารธรรมจักษุ ทรงนิพนธ์หนังสือตำราอีกมากมายเช่นหลักสูตรบาลีไวยากรณ์ หลักสูตรนักธรรม ซึ่งปัจจุบันตำราเรียนภาษาบาลีและนักธรรมก็ยังคงใช้ศึกษาอยู่     ปัจจุบันสถานที่ทำงานที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ก็มีชื่ออาคารว่า “อาคารสมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส”
            อ่านหนังสือบาลีไวยากรณ์และอ่านหนังสือนักธรรมครั้งใดก็ยังนึกถึงผู้แต่ง แม้จะไม่เคยรู้จัก ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้า แต่ทว่าก็เคารพในฐานะที่ทรงเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ทางด้านนักธรรมและบาลี แม้ทุกวันนี้ก็ยังใช้ตำราชุดนั้นสอนหนังสือพระภิกษุสามเณรอยู่ แม้จะมีตำราเล่มใหม่ๆที่นักวิชาการรุ่นใหม่ๆเขียนขึ้นอีกมากมายก็ตาม แต่ทว่าหลักวิชายังคงเป็นตำราที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงประพันธ์ไว้ บางเล่มมีอายุนานกว่า 70 ปีแล้ว
            สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2464 สิริอายุรวมพระชนมายุได้ 60 พรรษา ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร 30 ปี ทรงดำรงตำแหน่งที่สมเด็จพระสังฆราช 10 ปี กับ 7 เดือนเศษ

          วันนี้(2 สิงหาคม 2557)พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน วัดมัชฌันติการาม ได้รับฎีกาวัดบวรนิเวศวิหาร นิมนต์ไปฉันเพลและสดับปกรณ์ ในการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ปีที่ 93 ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร

            นับเวลาจากวันสิ้นพระชนม์ถึงวันนี้เป็นเวลา 93 ปีแล้ว ดังนั้นวันที่ 2 สิงหาคมของทุกปีจึงเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้จัดงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย  บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง แม้จะจากไปนานก็เหมือนกับยังอยู่ในความทรงจำ เพราะมีผลงานฝากไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา อ่านตำราบาลีและนักธรรมครั้งใด ก็ยังน้อมกราบคารวะด้วยความเคารพ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จะทรงเป็นครูของนักศึกษาวิชาภาษาบาลีและนักธรรมตลอดไปชั่วกาลนาน
 


พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
02/08/57

พระประวัติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
พระองค์ที่ ๑๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

http://www.gongtham.net/web/articles.php?article_id=17

 

 

 

 

  

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก