ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

             ท้องฟ้ากลางเดือนสามปีนี้แจ่มใส ดวงอาทิตย์สีแดงกลมโตโผล่พ้นขอบฟ้ามองเห็นเด่นชัด  แม้ว่าจะมีพยากรณ์อากาศจากรมอุตุนิยมวิทยาว่าในช่วงนี้จะมีฝนตกและอากาศหนาว แต่ฝนคงยังมาไม่ถึง กรุงเทพมหานครอากาศกำลังเย็นสบายมีสายลมแผ่วโชยมาเป็นระยะ ร่างกายรู้สึกสบาย จิตผ่อนคลาย กายสงบ หันมองรอบๆอาณาบริเวณเห็นดอกไม้นานาพรรณกำลังชูดอกออกช่อบานสะพรั่งเหมือนกำลังทักทายอรุณรุ่งแห่งเดือนมาฆะที่พึ่งผ่านพ้นไปได้ไม่กี่วัน

             หลังงานประจำปีผ่านพ้นไป ทุกอย่างกลับคืนสู่ความเป็นปกติ ไม่มีสรรพสำเนียงเสียงดนตรี ไม่มีผู้คนมาเดินเที่ยวงาน เพราะร้านค้าต่างๆได้เลิกกิจการไปแล้ว บริเวณวัดจึงเหลือไว้แต่ความสงบ ตอนเช้าอากาศกำลังดี จึงถือกล้องเดินเล่นเผื่อบางทีอาจจะมีสิ่งที่น่าสนใจได้ถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์แห่งช่วงเวลา
             ดอกทองกวาวหน้ากุฏิเจ้าอาวาสออกดอกสีแดงอมแสดงดงาม ถ่ายภาพได้สักพักก็หันกลับไปยังอีกต้นหนึ่งเคยเห็นมานานมากแล้วมีอยู่ทั่วบริเวณวัด แต่ไม่ค่อยออกดอก บางครั้งสองสามปีจึงได้เห็นดอกสักครั้ง จนแทบลืมไปแล้วว่าต้นไม้ชนิดนี้ยังมีดอก

             ไม่เคยรู้จักชื่อต้นไม้ชนิดนี้แต่ออกดอกสีแดงอมเหลืองมีหมู่แมลงผึ้งบินวนเวียนคลอเคลียเคล้าคลึงคอยลิ้มกลิ่นเกสร คงหอมหวานน่าลิ้มลอง  ดอกของต้นไม้ชนิดนี้จะห้อยลงข้างล่างหย่อนดอกลงทักทายดิน พอผ่านไปสักพักเกสรก็จะหล่นร่วงลงยังพื้นปฐพี แต่ไม่มีโอกาสได้เก็บภาพดอกไม้บนพื้นดิน เพราะมักจะถูกเก็บกวาดก่อนเสมอ พื้นเบื้องล่างจึงสะอาด หากเพียงแต่เดินผ่านไม่มองขึ้นข้างบนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไม้ชนิดนี้มีดอกที่สวยงาม
             หน้ากุฏิเก่าที่เคยอยู่จำพรรษาก่อนจะย้ายไปอยู่กุฏิอื่น พระภิกษุที่มาอยู่ใหม่ปลูกไม้ดอกไว้หลายประเภท นัยว่าไม่ใช่มีไว้เพื่อประดับตกแต่งอะไร แต่ปลูกไว้เพื่อให้ช่วยดูดซับมลภาวะที่นับวันจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ดอกไม้ชนิดนี้เคยเห็นจึงรู้จักและจำได้ว่าเป็นดอกชบา ตามปกติจะมีสีแดง สีเหลือง  วันนั้นไม่ได้ถ่ายดอกบานแต่ถ่ายภาพดอกที่กำลังตูมรอวันเจริญเติบโต

             ชีวิตมวลมนุษยชาติก็เฉกเช่นกับดอกไม้เมื่อยังเด็กต้องคอยฟูมฟักเฝ้าดูแลรักษาให้เจริญเติบโต ถึงวัยศึกษาเล่าเรียนมีงานทำและถึงวัยชราก็ร่วงโรยไปตามอายุขัย บางคนผ่านไปเพียงไม่กี่ปีก็ไม่มีใครจำชื่อได้ แล้ว ส่วนคนบางคนแม้จะจากโลกนี้ไปนานนับพันปีแล้วผู้คนก็ยังจำชื่อได้และยังคงนำอัตตชีวิตมาศึกษาค้นคว้าเพื่อจะได้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต มนุษย์เกิดมา คงอยู่และจากไปจะมีอะไรเหลือไว้ให้โลกได้จดจำบ้าง
             ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ตอบคำถามแก่เทวดาดังที่ปรากฎในนชีรติสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (15/209/59) ครั้งหนึ่งเทวดาทูลถามพระพุทธเจ้าว่า  “อะไรหนอย่อมทรุดโทรม อะไรไม่ทรุดโทรม อะไรหนอท่านเรียกว่าทางผิด อะไรหนอเป็นอันตรายแห่งธรรม อะไรหนอสิ้นไปตามคืนและวัน อะไรหนอเป็นมลทินของพรหมจรรย์ อะไรไม่ใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ในโลกมีช่องกี่ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้ ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาค ไฉนข้าพระองค์จะรู้ความข้อนั้นได้”

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบเทวดา (15/210/60) ว่า “รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรม นามและโคตรย่อมไม่ทรุดโทรม  ราคะท่านเรียกว่าทางผิด  ความโลภเป็นอันตรายของธรรม วัยสิ้นไปตามคืนและวัน หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ หมู่สัตว์นี้ย่อมข้องอยู่ในหญิงนี้ ตบะและพรหมจรรย์ทั้งสองนั้น มิใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง ในโลกมีช่องอยู่  ช่องที่จิตไม่ตั้งอยู่ได้   คือความเกียจคร้าน  ความประมาท  ความไม่หมั่น ความไม่สำรวม”
             แปลมาจากภาษาบาลีในพระไตรปิฏกฉบับสยามรัฐ(15/210/59) ว่า
            
                          “รูปํ ชีรติ มจฺจานํ             นามโคตฺตํ น ชีรติ  
                                        .....................             ราโค อุปฺปโถติ วุจฺจติ  
                                       โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโถ     วโย รตฺตินฺทิวกฺขโย 
             
                          อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส      เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา 
                          
             ตโป จ พฺรหฺมจริยญจ        ตํ สินานมโนทกํ 
                                       ฉ โลกสฺมิ ฉิทฺทานิ            ยตฺถ จิตฺตํ  น ติฏฺฐติ 
             
                          อาลสฺยญฺจ ปมาโท จ         อนุฏฺฐานมสํยโม ฯ
             หมายเหตุช่องที่ละไว้ยึดตามพระบาลีท่านเว้นไว้อย่างนั้นคงเป็นส่วนที่ขาดหายไป ในฉบับภาษาไทยก็ไม่มีคำแปล  แปลไว้เพียงสามบทคือ

                          “รูปํ ชีรติ มจฺจานํ             นามโคตฺตํ น ชีรติ  
                           ....................              ราโค อุปฺปโถติ วุจฺจติ  

             “รูปของสัตว์ทั้งหลายย่อมทรุดโทรม  นามและโคตรย่อมไม่ทรุดโทรม   ราคะท่านเรียกว่าทางผิด” 

             ดังนั้น จึงไม่อาจจะคาดคะเนได้ว่าถ้อยคำที่หายไปคืออะไร เหตุที่นำภาษาบาลีมาอ้างไว้เผื่อว่าบางทีจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการทราบที่มาอันเป็นภาษาดั้งเดิม แต่เนื้อหาชัดเจนคือรูปกายของสัตว์ทั้งหลายย่อมแตกสลายไป ส่วนนามและโคตร(ชื่อนามสกุล)ของสัตว์ทั้งหลายยังคงอยู่ตราบเท่าที่มีผู้จำได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ลองหลับตาแล้วย้อนนึกดูว่าในประวัติศาสตร์ชาติไทยเราจำชื่อใครได้บ้าง หรือในรอบสิบปีที่ผ่านมาเราไปร่วมเผาศพคนที่รู้จักไปแล้วกี่คน
             เดินผ่านพระอุโบสถมีป้ายชื่อผู้วายชนม์อยู่ตามกำแพงพระอุโบสถ จนจำไม่ได้ว่าใครบ้างท่านเหล่านี้ล้วนเคยมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ และบัดนี้เหลือไว้แต่นามและโคตรให้ลูกหลานได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ในช่วงสงกรานต์ หน้าวัดมีดอกไม้สีขาวอมม่วงกำลังบานเต็มต้น ไม่ได้สังเกตว่าบานตั้งแต่เมื่อใด แต่เมื่อได้พานพบดอกไม้ซึ่งไม่รู้จักชื่อก็เริ่มร่วงหล่นลงเกลื่อนดินแล้ว

             ดอกไม้บางประเภทออกดอกและมีเวลาบานอยู่นาน บางประเภทออกดอกในช่วงเวลาสั้นๆ บางประเภททั้งหอมและทนทาน บางประเภทหอมแต่อยู่ไม่นาน บางประเภทไม่หอมแต่อยู่ได้นาน บางประเภทไม่หอมและอยู่ไม่นาน เหมือนชีวิตของมนุษย์บางคนเกิดมามีอายุยืนและทำประโยชน์ไว้มาก บางคนแม้จะมีอายุยืนแต่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรไว้เลย บางคนอายุสั้นแต่ทำประโยชน์ไว้มาก บางคนอายุสั้นและไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย
             รูปร่างอัตภาพร่างกายของสัตว์ทั้งหลายไม่นานก็เสื่อมสูญย่อยสลายคืนสู่สภาพดั้งเดิมเช่น เนื้อ เอ็นกระดูกคืนสู่ดิน เลือด หนอง น้ำเหลืองคืนสู่น้ำ ลมหายใจเข้าออกคืนสู่ลม และความร้อนในร่างกายก็คืนสู่ไฟ  ส่วนนามและโคตรยังคงอยู่ หากเป็นคนดีมีคุณค่าผู้คนก็จดจำได้นาน แต่หากเป็นคนชั่วแม้จะจากไปไม่นานแต่ผู้คนก็อยากจะลืม     

             ดอกไม้ที่ไม่รู้จักชื่อเหล่านั้นไม่รู้ว่าจะเบ่งบานได้อีกนานเท่าใด แต่ได้ออกดอกประดับโลกให้งดงามแล้ว ส่วนชีวิตอาตมาไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่ในโลกนี้ได้อีกนานเท่าใด  ยังไม่ได้ทำประโยชน์อันใดให้โลกได้จดจำเลย หรือว่าจะเป็นเพียงสายแผ่วที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
18/02/57

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก