สมเด็จพระวันรัต ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตเป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศรุ่นที่ 18/2555 ประจำปี พ.ศ. 2555 ระหว่างวันที่ 7 มกราคม – 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ณ สถาบันฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) วัดพระศรีมหาธาตุ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร(วันที่ 7 มกราคม 2555)
พระราชบัณฑิตรองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้กล่าวรายงานต่อสมเด็จพระวันรัตองค์ประธานในพิธีความว่า “ขอประทานกราบเรียน เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต องค์ประธานในพิธีที่เคารพอย่างสูง
สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) กรรมการ และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน รู้สึกเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง ที่ได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ รุ่นที่ 18 ประจำปี พ.ศ. 2555 ครั้งนี้
สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) ในความอุปถัมภ์ของมหาเถรสมาคม ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้จัดให้มีการฝึกอบรมพระภิกษุเป็นพระธรรมทูตไปต่างประเทศขึ้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา และรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 18 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
สมเด็จพระวันรัต
1. เพื่อเตรียมพระธรรมทูตที่มีคุณภาพ มีศีลาจารวัตรอันดีงาม มีความรู้ความสามารถทั้งในทางโลกและทางธรรม ส่งไปปฏิบัติศาสนกิจประจำวัดต่าง ๆ ในต่างประเทศ
2. เพื่อฝึกอบรมพระธรรมทูตให้มีความสามัคคี มีความมั่นใจในการปฏิบัติศาสนกิจด้านการเผยแผ่ในต่างประเทศ และให้มีหลักการสอนในทางเดียวกันให้มากที่สุด
3. เพื่อสนองงานด้านการเผยแผ่ของคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม
4. เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและรักษาศรัทธาของชาวพุทธทั่วโลก
หลักสูตรที่ใช้ในการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) ใช้เวลาการฝึกอบรม รวมทั้งสิ้น 3 เดือน โดยแบ่งการฝึกอบรมเป็น 3 ภาคคือ ภาควิชาการ ภาคนวกรรม และภาคจิตภาวนา
ภาควิชาการมีรายวิชาต่าง ๆ 14 วิชาเช่น พระไตรปิฎกสังเขป พุทธปรัชญา ศาสนาทั่วไป ธรรมนิเทศภาษาอังกฤษเป็นต้น
พระราชบัณฑิต
ส่วนภาคนวกรรม เป็นการเสริมเพิ่มความรู้ ตลอดถึงการฝึกปฏิบัติในด้าน การบูรณปฏิสังขรณ์ วิเคราะห์ และออกแบบโครงสร้าง การวางแผนและจัดการงานก่อสร้างในเบื้องต้น โดยออกไปฝึกที่วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ จังหวัดนครสวรรค์
ส่วนภาคจิตภาวนาได้กำหนดให้ปฏิบัติเป็นประจำทุกวันหลังทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็น นอกจากนั้นยังมีจิตภาวนาภาคสนาม โดยออกไปฝึกที่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับผู้บรรยายรายวิชาและวิทยากรพิเศษได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันต่าง ๆ อาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนา-แห่งชาติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น ส่วนการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่าย โดยได้รับความอุปถัมภ์จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้มีศรัทธาทั้งหลาย ด้านสถานที่พักและสถานที่ฝึกอบรมพระธรรมทูตนั้น ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ และวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อนุญาตให้ใช้สถานที่เป็นอย่างดียิ่ง
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 18 นี้ มีจำนวน 46 รูป ประกอบด้วยวิทยฐานะพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ระดับเปรียญโท 3 รูป เปรียญตรี 8 รูป แผนกธรรม นักธรรมเอก 39 รูป ในจำนวนนี้มีคุณวุฒิระดับ ปริญญาโท 4 รูป ปริญญาตรี 18 รูป และต่ำกว่าปริญญาตรี 24 รูป คาดว่าการฝึกอบรมพระธรรมทูตฯ ครั้งนี้ จะได้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นพระธรรมทูตที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความมั่นใจ มีศีลาจารวัตรอันดีงามและความสามัคคี อันจะนำมาซึ่งความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนต่อไป
บัดนี้ งานทุกส่วนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านพร้อมแล้ว ขอประทานกราบเรียนเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้โปรดเมตตา กล่าวเปิดการฝึกอบรมฯ และประทานโอวาทเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และเป็นสิริมงคล แก่คณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารฯ ตลอดถึงอุบาสก อุบาสิกา ผู้ถวายการอุปถัมภ์ครั้งนี้โดยทั่วกัน”
จากนั้นเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตได้ประทานโอวาทแก่พระธรรมทูตสรุปความว่า “พระสงฆ์ทั้งหลายเข้ามาอุปสมบวชเป็นพุทธสาวกแล้วมีหลักที่จะต้องปฏิบัติอยู่สองประการคือปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า และประการที่สองคือการดำรงพระพุทธศาสนาไว้เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนตามที่พระพุทธเจ้าที่ทรงมีมีนโยบายที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์สุขของชนชาวโลก
หน้าที่ข้อแรกพวกท่านได้ตั้งใจศึกษาจนมีความรู้ความเข้าใจในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาบางรูปเรียนจบเปรียญธรรม บางรูปเรียนจบปริญญาโท นับว่าท่านทั้งหลายมีความรู้พอสมควรแล้ว และคงจะได้อบรมจิตใจมาพอสมควรแล้ว ถือได้ว่าได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
หน้าที่ประการที่สองคือการแนะนำหลักธรรมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น เมื่อมีความรู้แล้วก็จะต้องประกาศพระพุทธศาสนา เมื่อท่านทั้งหลายได้เข้ามาฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศก็เพื่อจะได้นำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่แก่ชาวโลก ก่อนที่จะไปเผยแผ่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องฝึกอบรม วัตถุประสงค์ของการอบรม นอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้วจะต้องมีคุณธรรมคือเพื่อความสามัคคีของหมู่คณะ การเผยแผ่จึงจะได้ผล เราไม่ได้ไปขัดแย้งกับศาสนาอื่นแต่มุ่งเพื่อความสามัคคีซึ่งจะช่วยดับภัยได้ ทุกๆศาสนามีหลักการเดียวกันในระหว่างสาวกคือสอนให้สาวกเป็นคนดี ระดับความดีจะต้องเป็นสากลคือมีลักษณะเดียวกัน เพราะความดีเป็นสัจธรรมของโลก แต่ละคนอาจจะมีไม่เท่ากัน แต่เราให้เกียรติซึ่งกันและกันในแต่ละศาสนา เราต้องช่วยเหลือประชาชนให้มีความสุขและสันติได้
เราจะเดินทางไปเพื่ออะไรเพื่อตนเองหรือเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น จงถามตัวเองให้ชัดก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เราต้องไปเพื่อผู้อื่นไม่ใช่ไปเพื่อตนเอง ก็หวังว่าในการอบรมท่านทั้งหลายคงจะได้ความรู้จากวิทยากรที่มาถวายความรู้ และมีความประพฤติดีจากการปฏิบัติ
ขอให้พวกท่านทั้งหลายตั้งใจในการฝึกอบรมและเป็นพระธรรมทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ปรากฎแก่ชาวโลกต่อไป สิ่งที่เขาทำดีก็จงทำดีตามเขา แต่สิ่งใดที่เขาทำไม่ได้ก็อย่าไปเอาอย่าง การประกาศพระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่โดยตรงของพระสงฆ์ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจฝึกอบรมให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์”
จากนั้นพระเถรานุเถระได้ให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธรรมยุต) ซึ่งจะต้องฝึกอบรมติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือนที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ วัดสิริวัฒนวิสุทธิ์ฯ จังหวัดนครสวรรค์ และวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จังหวัดนครราชสีมา พุทธศาสนิกชนท่านใดจะร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพระธรรมทูต ติดต่อได้ที่พระครูวิลาสสรธรรม โทร 081-828-0760 พระมหาจามร พฺรหมจาโร โทร 086-788-9375 หรือพระครูปลัด ณัฐพงศ์ ยโส โทร 087-724-8899
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
รายงาน
08/01/55