วันที่ 3 ตุลาคม 2555 รับนิมนต์ไปฉันภัตตาหารเพลในงานบำเพ็ญพระกุศลคล้ายวันประสูติ เจริญพระชันษา 99 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ฉันภัตตาหารเพลเสร็จได้รับแจกหนังสือเกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราชนมาหลายเล่มเช่นพระผู้สำรวมพร้อม พระพุทธศาสนากับสังคมไทย ตนอันเป็นที่รักยิ่งของตน รวบรวมพระคติธรรม เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ เจริญพระชันษา 99 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขออนุญาตนำพระคติธรรมบางส่วน บทประพันธ์ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ มาให้อ่าน ในวันคล้ายวันประสูติ เจริญพระชันษา 99 ปี 3 ตุลาคม 2555
พระมรดก
จุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาคือให้คนเป็นคนดี
ความดีระดับใดก็จะนำให้ไกลทุกข์ในระดับนั้น
ความดีถึงที่สุดคือความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง
ความโลภความโกรธ ความหลงมิหลงเหลือแม้แต่น้อย
อย่าทำบาปแม้เล็กน้อยเพียงใด
ทำกุศลทั้งปวงให้เต็มสติปัญญาความสามารถ ทำใจให้ผ่องใส
นี้คือพระมรดกที่ไม่มีมรดกใดเสมอเหมือน
ผู้ประพฤติผิดพระธรรมวินัยมากๆคือผู้ที่ประพฤติชั่วมากๆ
จะเป็นผู้ตัดตนเองออกจากพระมรดกล้ำค่า
จะตกต่ำเดือดร้อนได้แสนสาหัส
เพราะปราศจากสมบัติมีค่าติดตัว
ที่จะประคับประคองให้เป็นสุขสวัสดี
จากหนังสือ “แสงส่องใจ” (ฉบับวันวิสาขบูชา)
การปลูกเมตตา
สามคำนี้เป็นคำหนึ่งอันเดียวกัน
เมตตาคือความรักใคร่ ปรารถนาให้เป็นสุข
มิตรคือผู้มีเมตตา ปรารถนาสุขประโยชน์ต่อกัน
ไมตรี คือ ความมีเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน
ผู้ปรารถนาจะปลูกเมตตาให้งอกงามอยู่ในจิต
พึงปลูกด้วยการคิดแผ่ในเบื้องต้น
แผ่ไปโดยเจาะจงก่อนในบุคคลที่ชอบพอมีบิดามารดา ญาติ มิตร
โดยนัยว่า จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์ มีสุขสวัสดี รักษาตนเถิด
เมื่อจิตคุ้นเคยแล้ว ก็แผ่ให้กว้างขวางออกไปโดยลำดับ ในหมู่มนุษย์และดิรัจฉานไม่มีประมาณ
เมตตาจิต เมื่อคิดแผ่ให้กว้างออกไปเพียงใด มิตรและไมตรีก็มีความกว้าง ออกไปเพียงนั้น
อันเป็นประโยชน์แก่ตนและหมู่เต็มที่ มีความรุ่งเรืองและความสุขโดยส่วนเดียว
จากหนังสือ “ความสุขหาได้ไม่ยาก” เรื่อง ความสุขที่เห็นได้.
คัดจากจากพระนิพนธ์
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก