กิร ดังได้สดับมา
อันความอยากนั้นเช่นความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่ภาษาพระเรียกว่าตัณหานั้นไม่มีขอบเขต ไม่มีจุดจบ หาฝั่งไม่เจอ เพราะเป็นเรื่องของใจ ใจจึงคิดอยากเรื่อยไป นี่เป็นธรรมดา
ถ้าหากรู้เท่าทัน ไม่หลงละเมอไปกับตัณหาที่เกิดขึ้น ก็จะไม่เดือนร้อนอะไรมาก หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือความรู้สึกก็จะยุ่งวุ่นวายไม่เลิก ฯ
ปกติเราย่อมได้ฟังคำพูดที่ดีๆที่เป็นคำสอน คำเตือนสติ หรือคำที่เป็นหลักปฏิบัติตัวง่ายๆจากผู้ใหญ่ เช่นพ่อแม่หรือครูอาจารย์ด้วยกันทุกคน แต่มักไม่ใส่ใจจดจำ ไม่ให้ความสำคัญ
คำเตือนคำสอนของผู้ใหญ่นั้น มีค่ายิ่งกว่าเพชรเม็ดงามหลายเท่า เพราะใช้ไม่มีวันหมด ไม่มีวันเสื่อมราคา ใครจะมาขโมยไปก็ไม่ได้ สามารถประดับตัวประดับใจได้ทุกโอกาสและทุกสถานที่ ใครได้ไว้ก็งดงามและสุขกายสบายใจไปตลอด และคนที่มีผู้คอยเตือนคอยสอนนั้น ถือว่าเป็นคนมีโชคที่สุดแล้ว เมื่อไม่รับโชคไว้กับตัวก็ต้องอับโชคตลอดไป โดยไม่มีใครช่วยได้นอกจากช่วยตัวเอง ซึ่งต้องเหนื่อยและหนักแน่นอน ฯ (หน้า 245)
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช)
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม กรุงเทพมหานคร
ที่มา:พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช),กิรดังได้สดับมา,กรุงเทพฯ:ธรรมสภา,2551