โลกนีติ
อลสสฺส กุโต สิปฺปํ
อสิปฺปสฺส กุโต ธนํ
อธนสฺส กุโต มิตฺตํ
อมิตฺตสฺส กุโต สุขํ
อสุขสฺส กุโต ปุญฺญํ
อปุญฺญสฺส กุโต นิพฺพานํ ฯ
ผู้เกียจคร้านฤาจะพานพบวิชา
ผู้ไม่มีวิชาฤาจะหาทรัพย์ได้
ผู้ปราศจากทรัพย์ฤาจะอาศัยพึ่งมิตรสหาย
ผู้เสื่อมมิตรฤาจะหมายความสุขสำราญ
ผู้หมดสุขฤาจะประกอบการบุญกุศล
ผู้ไร้บุญฤาจะพบพระนิพพาน ฯ
มักคร้านฤารอบรู้ วิทยา
ความรู้ถ่อยสินหา ไป่ได้
ไร้ทรัพย์อับผู้มา เป็นเพื่อน
เว้นจากมิตรนั้นไซร้ สุขร้างแรมโรย ฯ
ทุกข์เสวยวายสุขสิ้น สันดาน
บุณย์ห่อนสืบศีลทาน ทอดม้วย
เสพบาปบ่มีบาน จิตต์ต่อ บุณย์แฮ
ไฉนนึกนิพพานด้วย เด็ดแท้ทุรชน ฯ
How can there be proficiency for one who is indolent,
Wealth for without proficiency,friendship for one without wealth,
happiness for the friendless,merit for the unhappy,
and Nibban for the unmeritorious person?
โลกนีติ
ที่มา:โลกนีติ ไตรพากย์:คารม พ.ศ. 2461,กรุงเทพฯ:สถาบันบันลือธรรม,หน้า 6-7.