คนสมัยนี้ไว้ใจกันยากแม้จะเคยรู้จักกันมาก่อน แต่หากเผลอเมื่อไหร่อาจจะถูกปล้นได้ทุกเมื่อ จึงควรระมัดระวังไว้ก่อนเป็นดีที่สุด มีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวสดฉบับประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2555 เรื่องของโจรปล้นทรัพย์หลวงตาที่วัดแห่งหนึ่งแถวปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ข่าวว่าโจรคนหนึ่งพึ่งลาสิกขาจากพระได้ไม่กี่เดือน เสียแรงที่อุตส่าห์บวชอาศัยร่มเงาของศาสนานึกว่าเมื่อลาสิกขาออกไปแล้วจะเป็นคนดี กลับกลายเป็นโจรกลับมาปล้นหลวงตาเสียเอง คนประเภทนี้ทำดีได้ยาก
อีกไม่กี่วันก็ถึงวันเข้าพรรษาแล้ว มีหลายท่านที่ต้องการจะบวชในพรรษา มีดาราชื่อดังท่านหนึ่งบวชแล้วได้รับความสุขจากการบวช จนไม่ยอมลาสิกขาบอกว่าจะบวชต่อไปโดยไม่มีกำหนดลาสิกขา ท่านพูดได้ดี คำว่า “บวชไม่มีกำหนด” กับคำว่า “บวชไม่สึก” ต่างกัน เพราะอนาคตคือความไม่แน่นอน หากพร้อมเมื่อไหร่ก็ลาสิกขาได้ แต่การประกาศว่า “จะบวชไม่สึก” เหมือนกับการสร้างคุกขังตัวเอง มีเพื่อนที่เคยบวชเรียนมาด้วยกันหลายรูปแล้วที่เคยประกาศว่า “จะบวชไม่สึก” แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป คนที่ไม่ได้ประกาศอะไรไว้เลยกลับอยู่ได้ ส่วนผู้ที่ประกาศว่าจะบวชไม่สึก ในบรรดาเพื่อนๆที่บวชมาด้วยกันยังไม่เห็นรอดสักราย ลาสิกขากันไปหมดแล้ว ส่วนผู้เขียนเองไม่ได้ประกาศปฏิญาณอะไร บวชเรียนไปเรื่อยๆ หากอยู่ไม่ไหว อดทนต่อไปไม่ได้ ก็พร้อมจะลาสิกขาออกไป ตอนนี้ยังพออดพอทนได้ จึงยังคงอยู่ต่อไป
ศาสนาเหมือนต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาคือหลักธรรมคำสอนไปยังชนทุกเพศทุกวัย ใครต้องการอะไรก็สามารถศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่ต้องการได้ เพราะคนแต่ละคนมีความปรารถนาไม่เหมือนกัน หากอยู่ในฆราวาสวิสัยก็มีธรรมที่เหมาะกับผู้ครองเรือนเช่นอยากเป็นเศรษฐีก็ดำเนินตามทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม อันเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ในปัจจุบันคืออุฏฐานสัมปทา อารักขสัมปทา กัลยาณมิตตตา และสมชีวิตา แปลสรุปความได้สั้นๆว่า “ขยันหา รักษาดี มีกัลยาณมิตร ดำเนินชีวิตตามสมควร” ในธรรมหมวดนี้มีมีคำว่า “กัลยาณมิตร” อยู่ด้วย หากคบหากับคนที่ทำร้ายมิตรประโยชน์ที่พึงจะได้ก็เสียไป ผู้ทำร้ายมิตรท่านว่าเป็นคนเลว
มีเรื่องเล่าว่า “กวางป่าตัวหนึ่งถูกนายพรานไล่ล่า มันวิ่งหนีความตายเข้าในในป่า บังเอิญพบพุ่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่งมีใบดกรกครึ้มจึงเข้าไปหลบซ่อนตัว ในที่สุดก็รอดพ้นจากสายตานายพรานไปได้ นายพรานเที่ยวตามหากวางก็เหน็ดเหนื่อย กวางวิ่งหนีนายพรานก็เหนื่อยไม่แพ้กัน ผู้ล่ากับผูกถูกล่าต่างก็หยุดเคลื่อนไหว ฝ่ายนายพรานเมื่อตามหากวางป่าตัวนั้นไม่พบ ก็หยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง สายลมพัดมาแผ่วเบา นายพรายได้กินอาหารและดื่มน้ำแก้กระหายจึงนอนหลับไป
ฝ่ายกวางป่าเมื่อเห็นว่ารอดพ้นจากความตายแล้วจึงเริ่มมองหาอาหาร ที่ใกล้ที่สุดก็คือพุ่มไม้ที่ตัวเองหลบซ่อนอยู่นั่นเอง มันจึงค่อยๆเล็มใบไม้ไปทีละนิด ในที่สุดใบของพุ่มไม้ต้นนั้นก็ค่อยๆหมดไป เมื่อกวางป่ากินใบไม้จนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว ท้องตึงหนังตาหย่อนกวางป่าก็เผลอหลับในพุ่มไม้นั่นเอง
นายพรานนอนหลับไปนานเท่าใดไม่ทราบพอตื่นขึ้นมามองซ้ายมองขวาเหลือบไปเห็นพุ่มไม้ใหญ่ที่มีใบเหลือน้อย และเจ้ากวางป่าตัวนั้นนอนหลับอย่างสบายอารมณ์ในพุ่มไม้แห่งนั้นนั่นเอง นายพรานจึงค่อยๆเดินเข้าไปและจับกวางตัวนั้นได้โดยละม่อม นายพรานจึงได้กวางเพราะมันทำลายที่พึ่งเพราะความหลงไม่รู้ตัว และเพราะความหิวทำให้ขาดความยั้งคิด ได้ยินนายพรานบ่นเบาๆว่า “หากกวางตัวนั้นไม่กินใบไม้จนเกือบจะหมดต้นเราก็คงมองไม่เห็นและจับกวางไม่ได้” ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาเหมือนมิตรของผู้อาศัยประเภทหนึ่ง เพราะกวางทำร้ายต้นไม้ที่ตนได้อาศัยร่มเงาจึงถึงความฉิบหาย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นผู้ไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณย่อมทำตนให้เดือดร้อน การที่บุคคลได้อาศัยร่มเงาของต้นไม้ต้นใดก็ไม่ควรหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เหมือนคนที่ทำลายมิตรย่อมเป็นคนเลว มีคำสอนในพระพุทธศาสนาอยู่บทหนึ่งที่แสดงไว้ในอังกุรเปตวัตถุ ขุททกนิกาย เปตวัตถุ (ไทย 26/106/178) ความว่า “บุคคลอาศัยนั่งนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่ควรหักรานกิ่งต้นไม้นั้น เพราะการประทุษร้ายมิตร เป็นความเลวทราม” แปลมาจากภาษาบาลีว่า
"ยสฺส รุกขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา
น ตสฺส สาขํ ภุญเชยฺย มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโกฯ (บาลี 26/106/188)
และอีกบทหนึ่งว่า(ไทย 26/106/179) “บุคคลอาศัยนั่งนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงทำลายแม้ใบของต้นไม้นั้น เพราะการประทุษร้ายมิตร เป็นความเลวทราม” แปลมาจากภาษาบาลีว่า
"ยสฺส รุกขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา
น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโกฯ“(บาลี 26/106/188)
โปรดสังเกตว่าพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยและภาษาบาลีเล่มกับข้อตรงกัน แต่หน้าไม่ตรงกัน หากจะสืบค้นให้เริ่มต้นจากเล่มที่ 26 ข้อ 106 ส่วนหน้าอาจจะต่างกันไปในพระไตรปิฎกแต่ละเล่ม
โจรที่ปล้นจี้หลวงตาในจังหวัดนนบุรี ปล้นร้านสะดวกซื้อ และยังย้อนกลับมาปล้นหลวงตารูปเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง ปล้นได้ปล้นดีหลวงตาคงอายุมากแล้วไม่รู้จะเอาแรงที่ไหนไปสู้รบปรบมือกับโจรได้ ต้องสูญเสียทรัพย์สินและของมีค่าให้โจรใจบาปไป อยู่ในวัดสถานที่เป็นเขตอภัยทานแท้ๆพวกโจรยังมาปล้น ปากเกร็ดก็อยู่ไม่ไกลจากบางซื่อด้วยสิ หากมีโจรมาปล้นหลวงตาไซเบอร์ฯ พวกโจรคงต้องแบกหนังสือไปไม่ไหว เพราะที่ห้องมีแต่หนังสือ ตอนนี้ยึดครองพื้นที่ห้องหนึ่งในสามแล้ว
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
09/07/55