ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

          เห็นดอกคูณเหลืองอร่ามมาหลายวัน ดอกไม้ชนิดนี้มักจะออกดอกในช่วงวันสงกรานต์ พอเห็นสีเหลืองของดอกคูณก็มักจะทำให้นึกถึงวันสงกรานต์ ดอกคูณจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันสงกรานต์ไปโดยปริยาย ลองเขียนกลอนได้บทหนึ่งว่า “ขึ้นเดือนห้าแดดสูงฟ้าสวย ดอกคูณช่วยเสริมฟ้าน่าฉงน เหลืออร่ามงามระยับจับใจคน เหมือนมีมนต์จากฟากฟ้ามาเยือนดิน”หลังสงกรานต์ไม่นานดอกคูณก็ลาต้น เหมือนคนผู้สูงอายุที่รอวันจากโลกนี้ไป 


          หากมีคนเรียก "ผู้สูงอายุ" ฟังดูแล้วน่าจะมีความหมายดีกว่าคำว่า “คนแก่” แต่มีความหมายเดียวกันคือคนที่มีอายุมากตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไปถือว่าเป็น “ผู้สูงอายุ” รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ผู้สูงอายุที่มีลูกหลานไปเยี่ยม รดน้ำขอพรคงมีความสุข แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีใครแวะเวียนไปหาเลยคงเหงาหงอยน่าดุ
          ทุกปีหากไม่ติดงานที่ไหนจะไปเยี่ยมแม่ที่เป็นผู้สูงอายุมาหลายปีในวันที่ 14 เมษายน โดยชวนญาติพี่น้องมารดน้ำขอพรจากแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุมาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้ยังไม่แน่ว่าจะได้ไป เพราะมีงานที่จะต้องทำบางอย่าง ปีนี้เรากำลังจะกลายเป็นผู้สงอายุเสียเอง

 

          ผู้สูงอายุบางคนมีคนมาอวยพรเป็นจำนวนมาก แต่บางคนได้แต่นั่งมองว่าจะมีใครมาหาเหมือนขอนไม้ผุที่รอวันถูกไฟเผา ส่วนคนแก่ที่มีญาติเหมือนขอนไม้ที่มีเห็ดเกิดขึ้นเต็มพร้อมที่เก็บไปทำอาหารได้หลายอย่าง
          ความเป็นมาของวันผู้สูงอายุนั้นข้อมูลจากบุญลือ วันทายนต์. 2537. ข้อมูลวันสำคัญโครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ." ประวัติวันผู้สูงอายุ " ว.กสค. ( เม.ย. 2535 ) กล่าวถึงความเป็นมาไว้ว่า “ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบาย ที่สำคัญประการหนึ่ง ในอันที่จะส่งเสริมสนับสนุน ให้ประชาชนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข จึงได้มอบให้กรมประชาสงเคราะห์ จัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราขึ้น เพื่อให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ที่เดือดร้อนมีความทุกข์ยาก ประสบปัญหาและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง กรมประชาสงเคราะห์จึงได้จัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2496 ปัจจุบันนัยว่ามีคนชราที่บ้านบางแคเป็นจำนวนมาก 
          เดือนเมษายนในวันที่อากาศหนาวๆร้อนๆ มองไปเห็นตาแก้วกับตาดีสองผู้เฒ่าในวัยใกล้ฝั่งกำลังนั่งสนทนากันอย่างเพลิดเพลินตามประสาคนสูงอายุใต้ต้นคูณที่กำลังออกดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น จึงแวะเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย ดอกคูณถูกลมพัดมีบางดอกหล่นลงยังพื้นดิน

          ตาดีแม้จะอายุมากแล้วแต่ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเหลืออยู่อีกเลย จึงทำงานช่วยวัดมาหลายปีแล้ว ส่วนตาแก้วแม้จะอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน แต่ยังมีลูกหลานคอยเอาใจใส่ดูแลไม่เคยขาด แม้จะเข้าวัดฟังธรรมก็ยังมีลูกหลานตามมาคอยดูแล สองผู้เฒ่าแม้จะเคยทำงานมาต่างกันแต่ก็มักจะหาเวลาคุยกันเสมอ คนในวัยเดียวกัยคุยกันย่อมเข้าใจกัน
          เช้าวันนั้นบังเอิญอากาศร้อน หลังจากออกจากศาลาการเปรียญแล้ว ตาแก้วบอกให้ลูกหลานกลับก่อน บอกว่าวันนี้จะอยู่วัดจำศีลตลอดวัน ส่วนตาดีนั้นอยู่วัดประจำอยู่แล้ว มีครั้งหนึ่งตาดีถามว่า “ทำอย่างไรจึงมีลูกหลานคอยดูแลเอาใจใส่อย่างดีอย่างนี้”
          ตาแก้วบอกว่า “มันต้องมีวิธีการสิ ฉันทำงานเป็นข้าราชการมาหลายปีจนเกษียณเก็บเงินซื้อที่ดินไว้หลายแปลง ยุคนั้นราคาที่ดินไม่ได้แพงอย่างในปัจจุบันนี้ นับเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่พอแก่ตัวลงยังมีที่ดินให้ได้อาศัย ได้แบ่งให้ลูกไปหมดทุกคนแล้ว แต่เหลือไว้เป็นชื่อของตนเองแปลงหนึ่ง เพราะตอนนั้นไม่มีใครอยากได้ พวกลูกๆบอกว่ามันเป็นที่ตาบอด เพราะมีเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่าน จึงเก็บไว้เอง แต่ปัจจุบันที่ดินแปลงนี้มีราคาขึ้นมาอีก แต่ยังไม่ได้แบ่งให้ใครเลย คิดว่าจะเหลือไว้ให้ลูกหรือหลานคนที่ดูแลเราตอนแก่ ใครเอาใจใส่ดีก็จะยกให้คนนั้น ปรากฎว่าลูกหลานแทบทุกคนดูแลเราดีทุกคนจึงแบ่งให้ใครไม่ได้ 

          เคยเห็นเพื่อนคนหนึ่งตอนนี้แกเสียชีวิตแล้ว มีสมบัติมากมาย แต่ได้แบ่งให้ลูกทุกคนหมด ส่วนตัวเองคิดว่าจะอาศัยลูกคนไหนก็ได้ แต่การคาดคะเนไม่ได้เป็นไปตามคาด ลูกๆพอได้สมบัติจากพ่อหมดแล้วเลยเกี่ยงกันพูดกระทบให้พ่อได้ยินว่าทำไมไม่ไปอาศัยลูกคนอื่นบ้าง พอไปอาศัยลูกคนอื่น ลูกสะใภ้ก็พูดกระทบในทำนองเดียวกัน ในที่สุดจึงรำคาญกลายเป็นตาแก่ที่ต้องอาศัยวัด เพราะมีความสุขมากกว่า ส่วนฉันคิดถูกหรือผิดไม่รู้ เหลือที่ดินไว้ส่วนหนึ่งใครดูแลเราดีในเวลาแก่จึงจะยกให้ ตอนนี้พวกลูกหลานดูแลดีทุกคน พอถึงวันสงกรานต์ต่างก็พากันมารดน้ำขอพรกันถ้วนหน้า คนแก่ได้อยู่กับลูกหลานได้เห็นความก้าวหน้าของลูกๆหลานก็มีความสุขแล้ว ผมยึดถือคติโบราณที่สอนว่า “จงเป็นขอนไม้แก่ที่มีเห็ด อย่าเป็นไม้ผุที่ไม่มีเห็ด” 
          ตาดีตั้งใจฟังมานานยกมือสาธุ เพราะตัวแกเองบอกว่ามีเพียงลูกสาวคนเดียวแต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่น ซึ่งหลายปีมาแล้วไม่เคยส่งข่าวมาบอกแกเลย เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันหมดหวังแล้ว ญี่ปุ่นเกิดภัยภิบัติเขาคงไม่รอด พูดไปพูดมาตาดีก็เริ่มจะน้ำตาไหล บังเอิญดอกคูณถูกกระแสลมรำเพยพัดหลุดร่วงหล่นลงเกลื่อนดิน
          หลวงตาไซเบอร์ฯได้โอกาสจึงบอกว่า “ชีวิตมนุษย์ก็คล้ายดอกไม้นี่แหละถึงเวลาก็จะต้องร่วงโรยลงตามกาล กลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่า หากยังอยู่บนต้นก็ยังพอให้ความงามแก่ผู้มองได้บ้าง มนุษย์หากยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวก็มองดูเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน แต่พอแก่ตัวก็พร้อมที่จะโรยราสิ้นค่าหมดความหมาย เรามีชีวิตรอดมาถึงปัจจุบันก็นับว่าเป็นบุญแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาสะสมบุญกุศลกันไว้จะได้เป็นสะเบียงพาเราไปในภพภูมิที่ดีกว่า ” 

          ตาแก้วบอกว่า “ทุกวันนี้ผมมีความสุขพยายามสอนลูกๆให้สำนึกในบุญคุณของบุพพการี ส่วนผมเองก็ยึดคติสั้นๆว่า “ทำดีให้ลูกหลานดู อยู่ให้ลูกหลานเห็น และเย็นให้พวกเขาสัมผัส” เท่านี้ก็มีความสุขไปวันๆแล้ว
          ตาดีจึงบอกว่า “พูดได้ดีมีคติ น่าจะเผยแผ่ให้คนอื่นได้รู้บ้างนะ”
          หลวงตาไซเบอร์ฯนั่งฟังอยู่ด้วยจึงบอกว่า “ดีเหมือนกันหากมีโอกาสได้แสดงธรรมจะนำไปขยายความ เพื่อให้ผู้สูงอายุคนอื่นๆได้นำไปปฏิบัติด้วย ลูกหลานย่อมปฏิบัติตามแบบอย่างของพ่อแม่ ไม่ใช่สอนเขาแต่ปากแต่ไม่ทำ แต่หากทำดีให้เขาดูย่อมได้ผลมากกว่า พ่อแม่บางคนทำแต่งานจนไม่มีโอกาสอยู่กับครอบครัว พอลูกมีปัญหาจะขอคำปรึกษาก็ไม่ให้โอกาส ลูกเลยไปปรึกษาเพื่อนแทน ถ้าได้เพื่อนดีก็อาจจะไปเดินไปในทางที่ดีได้ แต่ถ้าเพื่อนเลวอาจจะชวนกันไปในทางผิดได้ง่าย 
          ส่วนเย็นให้ลูกหลานสัมผัสนั้น แม้จะฟังดูง่ายๆ แต่เวลาทำจริงๆไม่ได้ง่าย เพราะคนสูงอายุมักจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่คงที่เข้าใจยาก หงุดหงิดง่าย ไม่พอใจอะไรมักจะด่าจะบริภาษลูกหลานอยู่เป็นอาจิณจนเขาไม่อยากเข้าใกล้ แต่ถ้าพ่อแม่มีอารมณ์สงบเยือกเย็น จนพวกเขาสัมผัสได้แล้ว ครอบครัวนั้นก็จะมีความสุข
          ตาดีเอ่ยขึ้นสั้นๆว่า “พูดเหมือนคนแก่เลย”

         ในวันผู้สูงอายุซึ่งก็เป็นวันเริ่มต้นสงกรานต์จะใช้น้ำเป็นสัญลักษณ์เพราะน้ำมีความเย็นดับความร้อนได้ มีความสะอาดบริสุทธิ์และชำระสิ่งสกปรกได้ สุดท้ายธรรมชาติของน้ำมีความสดชื่น อาจารย์วีระ รักความสุขเขียนไว้ใน “คิดอย่างไทย” แสดงลักษณ์ของน้ำในวันสงกรานต์ไว้ว่า “น้ำมีความเย็น เด่นสามัคคี มีความสะอาด ธรรมชาติสดชื่น” 
          วันสูงอายุปีนี้ไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมแม่ เพราะไปก่อนหน้าสงกรานต์แล้ว แต่ใช้วิธีสื่อสารแบบสมัยใหม่โทรศัพท์ขอพรทางอากาศ โลกปัจจุบันเจริญขึ้นมากเหมือนมีหูทิพย์สามารถสนทนากันได้แม้จะอยู่ห่างไกลกันหลายร้อยกิโลเมตร เคยบอกแม่ตามวิธีของตาแก้วเมื่อหลายปีก่อนแล้วว่าอย่าพึ่งแบ่งสมบัติให้หมด เหลือไว้ในนามส่วนตัวบ้างจะได้เป็นเหมือนขอนไม้แก่ที่ยังมีเห็ด  วิธีนี้ผู้สูงอายุคนใดจะนำไปลองใช้ดูก็ได้
          ดอกคูณยังชูดอกเหลืองอร่ามและพริ้วไหวไปตามสายลม แม้จะให้ร่มเงาไม่ค่อยดีนัก ไม่มีกลิ่นหอมหวนชวนดอมดมเหมือนดอกไม้ชนิดอื่น แต่ทว่าความงามอันเป็นเอกลักษณ์ที่ออกดอกในช่วงสงกรานต์ก็ยังเพิ่มความงามและบ่งบอกถึงความสุขของงานเทศกาลสงกรานต์ได้

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
13/04/53

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก