ในปัจจุบันองค์กรทางศาสนาพยายามที่จะให้นักเรียนได้มีโอกาสศึกษาศาสนาที่ตนนับถือ เพราะมีปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆว่าปัจจุบันคนเหินห่างจากศาสนา ไม่ค่อยเข้าใจหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา บางคนเป็นชาวพุทธเพียงเพราะมีชื่อในสำมโนครัวเท่านั้น แต่เมื่อถามว่าพระพุทธศาสนาคืออะไร มีหลักคำสอนสำคัญอย่างไร ก็มักจะตอบไม่ค่อยได้ หรือเมื่อประกอบพิธีกรรมต่างๆทางศาสนาก็ทำไม่ค่อยถูก ในที่สุดก็ไม่อยากเข้าวัดไม่อยากเข้าใกล้ศาสนา กลายเป็นคนที่อาจจะทำความผิดโดยไม่รู้ว่าเป็นความผิดได้ จะเข้าวัดอีกครั้งก็ตอนสิ้นลมคนอื่นพาเข้ามาตั้งศพสวดอภิธรรมสามวันจากนั้นก็เผา บางคนเกิดมาและตายไปโดยที่ไม่เคยรู้จักคำสอนของศาสนาเลย
เด็กเหมือนผ้าขาว ใส่สีอะไรลงไปก็จะกลายเป็นสีนั้น หากทำให้เปื้อนสีก็ยากที่ทำให้กลับคืนเป็นผ้าขาวได้ดังเดิมได้ การศึกษาพระพุทธศาสนาที่ดีจึงควรเริ่มตั้งแต่ยังเด็ก วันก่อนเปิดสอบธรรมศึกษาที่โรงเรียนวัดมัชฌันติการาม มีนักเรียนเข้าสอบหลายร้อยคน เห็นนักเรียนก้มหน้าก้มตาเขียนผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็ยังดีที่รู้จักเขียน ข้อสอบก็ออกไม่ยาก แต่ทว่าเป็นข้อสอบอัตนัยที่ต้องเขียนบรรยายเอง ตามความเข้าใจของแต่ละคน บางคนก็อธิบายไปเรื่อยๆ ข้อสอบอีกส่วนหนึ่งเป็นปรนัยเลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ข้อสอบชุดนี้ง่ายส่วนมากจะทำได้หมดทุกคน แต่จะผิดหรือถูกต้องรอผลจากกรรมการ
การศึกษาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระพุทธศาสนามีความยั่งยืนเพราะถ้าตราบใดที่ยังมีคนศึกษาเล่าเรียนอยู่ก็แสดงว่าคำสอนของพระพุทธศาสนายังมีคนต้องการศึกษาค้นคว้า แต่ถ้าสมัยใดที่คนไม่สนใจศึกษา คำสอนที่ปรากฎในพระไตรปิฎกก็จะกลายเป็นเพียงกระดาษที่ไร้คุณค่า เป็นคัมภีร์ที่ไร้ประโยชน์
พระพุทธศาสนามีหลักคำสอนอยู่สองส่วนคือพระวินัยและพระธรรม มักจะเรียกรวมกันว่า “พระธรรมวินัย” วินัยว่าด้วยข้อห้าม ส่วนพระธรรมว่าด้วยข้อที่ควรปฏิบัติ พระวินัยนั้นพระพุทธเจ้าได้บอกวัตถุประสงค์ในการบัญญัติวินัยหรือข้อห้ามไว้โดยมีวัตถุประสงค์สิบประการดังที่ปรากฎในวินัยปิฎก มหาวิภังค์(1/20/25)ความว่า“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์สิบประการ คือเพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม เพื่อถือตามพระวินัย" ทุกอย่างจึงมีที่มาที่ไป
มีข้อหนึ่งกล่าวถึงเพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม คำว่า “พระสัทธรรม” หมายถึงธรรมอันดี ธรรมที่แท้ ธรรมของสัตบุรุษ หลักหรือแก่นของศาสนา ในอรรถกถาพระวินัยปิฏก หน้า 732 ได้อธิบายสัทธรรมไว้สามอย่างความว่า “ สัทธรรมมีสามอย่าง คือปริยัติสัทธรรม ปฏิปัตติสัทธรรม อธิคมสัทธรรม แต่ชาวพุทธนิยมเรียกกันว่า "ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ" คำว่า "ปฏิเวธ" มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “อธิคม” ความหมายของธรรมทั้งสามอย่างนั้นมีคำอธิบายดังนี้
ปริยัติสัทธรรม ได้แก่พุทธพจน์แม้ทั้งหมดทั้งสิ้นที่รวบรวมไว้ในพระไตรปิฎก เป็นคำสั่งสอนอันจะต้องเล่าเรียนเรียกโดยทั่วไปว่าพุทธพจน์ซึ่งบรรจุอยู่ในพระไตรปิฎก
ปฏิปัตติสัทธรรม ได้แก่ธรรมนี้คือธุดงคคุณสิบสาม ขันธกวัตรสิบสี่ มหาวัตรแปดสิบสอง ศีล สมาธิ และวิปัสสนา โดยสรุปคือปฏิปทาหรือข้อปฏิบัติได้แก่มรรคมีองค์แปดหรือสรุปได้สั้นๆคือศีล สมาธิ ปัญญานั่นเอง
อธิคมสัทธรรม หรือปฏิเวธสัทธรรม ได้แก่พระสัทธรรมคือผลอันจะพึงเข้าถึงหรือบรรลุด้วยการปฏิบัติโดยสรุปได้แก่อริยมรรคสี่ สามัญผลสี่ และนิพพาน
เมื่อมีสิกขาบทบัญญัติ ภิกษุทั้งหลายย่อมเรียนสิกขาบทและวิภังค์แห่งสิกขาบทนั้น และพุทธวจนะอื่นเพื่อส่องความแห่งสิกขาบทและวิภังค์นั้น และเมื่อปฏิบัติสิกขาตามที่ทรงบัญญัติไว้ ย่อมบรรลุโลกุตรธรรม ที่ตนจะพึงบำเพ็ญข้อปฏิบัติแล้วบรรลุได้ด้วยความปฏิบัติ เพราะเหตุนั้นสัทธรรมแม้ทั้งสิ้นนั้น จึงชื่อว่าเป็นสภาพมีความตั้งอยู่ ยั่งยืนด้วยสิกขาบทบัญญัติ
พระภิกษุสามเณรจึงมีพระวินัยและพระธรรมเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนตามลำดับปริยัตติธรรมก็ต้องเรียนและศึกษาระบบการศึกษาปัจจุบันมีการวัดผล เรียนแล้วก็สอบสามระดับชั้นคือนักธรรมตรี โท เอก แต่สำหรับฆราวาสจะหาเวลามาศึกษาพระพุทธศาสนาเหมือนพระภิกษุสามเณรก็ไม่สะดวก เพราะฆราวาสมีงานมาก มีภาระมาก กองธรรมสนามหลวงจึงจัดให้มีการศึกษาที่โรงเรียนหรือที่บ้านเรียกว่าธรรมศึกษา เริ่มต้นตั้งแต่เด็ก ธรรมที่นำมาให้เรียกก็ไม่ยากจนเกินไป ในส่วนของวินัยก็ให้เรียนเบญจศีลเบญจธรรมแทน เด็กนักเรียนสามารถอ่านและเข้าใจได้ เป็นธรรมที่อยู่ในขั้นปริยัตติสัทธรรม การศึกษาพระปริยัตติสัทธรรมจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าใกล้พระพุทธศาสนา หากไม่ศึกษาก็ยิ่งจะทำให้คนเหินห่างจากศาสนาออกไปทุกที
หากต้องการศึกษาในขั้นสูงต่อไปก็ต้องบรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษุซึ่งมีหน้าที่โดยตรงอย่างหนึ่งคือเพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ถ้าไม่เรียนก็จะปฏิบัติไม่ถูก ผลก็จะไม่เกิด แต่ถ้าเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัติเลย ก็จะเป็นผู้ที่มีความรู้อยู่ในตำรา นำไปแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ โบราณท่านกล่าวไว้ว่า "มีเงินให้เขากู้ มีความรู้อยู่ในตำรา มีภรรยาอยู่ที่ไกล เวลาจะใช้มักไม่ทันกาล"
เด็กชายชายเอกพึ่งเข้าสอบธรรมศึกษาชั้นตรีปีแรกถามว่า “หลวงพ่อครับผมอ่านภาษาบาลีไม่ออก แต่ผมอ่านภาษาไทยได้ ผมไม่เขียนภาษาบาลีได้ไหม จะเขียนภาษาไทยอย่างเดียว”
จึงตอบเด็กชายเอกไปว่า “เขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียน เรื่องประสบการณ์ชีวิต ความรักของพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนๆพี่ๆหรือสิ่งที่เคยพบเห็นมาหรือความประทับใจอะไรก็ได้”
พอส่งข้อสอบจึงดูว่าคำตอบของเด็กชายเอกเป็นอย่างไร เห็นเขียนบรยายได้ตั้งสามหน้ากระดาษ จึงลองอ่านดู เด็กชายเอกเขียนบรรยายถึงละครโทรทัศน์ที่พึ่งจบไปไม่กี่วันที่ผ่านมาเรื่องนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว มีทั้งหมัดเขวี้ยงควาย เข่าพญาไฟ สุดท้ายเขาสรุปสั้นๆว่า “คนดีย่อมชนะคนชั่ว”ประกาศผลเมื่อไหร่คงได้เห็นชื่อเด็กชายเอกสอบผ่านธรรมศึกษาชั้นตรี เขาเริ่มต้นศึกษาศาสนาจากละครโทรทัศน์
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
27/11/53