ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

                หากเราทำอะไรผิดพลาดและมีมีคอยหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง คนส่วนมากมักจะโกรธจนหน้าเขียว เห็นช้างเท่าหมู บางครั้งออกหน้ายักษ์หน้ามารหรือตอบโต้คนที่มาเยาะเย้ยเรานั้น หากควบคุมความโกรธไม่อยู่อาจทำร้ายคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้  คนที่ทำผิดจนถูกคุมขังจองจำในคุกส่วนหนึ่งมาจากการถูกเยาะเย้ยถากถาง จนควบคุมอารมณ์ไม่ได้เผลอไปทำร้ายคนอื่นเข้า อารมณ์นั้นหากคุมไม่ได้สุดท้ายมันจะกลับมาทำร้ายเราเอง 
                ในทางการแพทย์คนที่ยิ้มและหัวเราะได้ทุกวันจะมีอายุยืน ดังจะเห็นได้ว่าคนที่มีอายุยืนส่วนมากมักจะเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดียิ้มง่าย หัวเราะง่าย และไม่หลงลืมตนเมื่อถูกชม แต่การยิ้มและหัวเราะควรทำแต่พอประมาณ เพราะหากนั่งยิ้มอยู่คนเดียวได้ทั้งวัน คนอื่นก็จะมองว่าบ้า คนอะไรนั่งยิ้มอยู่ได้คนเดียว เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง แม้บางอย่างจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าแสดงออกผิดกาละเทศะคนอื่นอาจก็จะแปลความหมายไปในทางตรงกันข้ามได้

                ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเพื่อนสามคนนั่งคุยกันบนห้างนาเก่าแก่จะพังมิพังแหล่อยู่รอมร่อกลางทุ่งนาที่ฝนตกหนักทั้งวัน วันนั้นทำนาไถนาไม่ได้เพราะฝนตก ต้องหยุดพัก  เพื่อนทั้งสามมีชื่อสามบุญคือบุญถม บุญถึงและบุญไทย คนในสมัยนั้นมักจะต้องชื่อลูกชายขึ้นต้นด้วยคำว่าบุญ เพราะมีความเชื่อว่ามีบุญนำหน้าจะนำพาไปสู่การเป็นคนดี อย่างน้อยๆก็มากับบุญ  
                บุญถมถามบุญถึงว่า“โตขึ้นเองอยากเป็นอะไร” บุญถึงตอบว่า “ข้าอยากเป็นนักมวยจะได้หาเงินได้ง่าย แม้จะเจ็บตัวหน่อยคงไม่เป็นไร เวลาขึ้นชกบนเวทีมีคนดูมากๆคงมีความสุข ข้าเบื่อทำนาเต็มทีแล้ว ไม่ก้าวหน้า ทำอย่างเดิมอยู่ทุกปี ต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝน ปีไหนฝนฟ้าไม่ดีการทำนาก็ไม่ได้ผล แต่ปีไหนฝนตกมากน้ำก็ท่วมอย่างปีนี้ไม่รู้เมื่อไหร่ฝนมันจะหยุดซะที”
               บุญถมหันมาถามบุญไทยบ้าง บุญไทยจึงตอบว่า “ข้าอยากเรียนสูงจนจบปริญญา ยิ่งจบปริญญาเอกเป็นดอกเตอร์ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องทำนาเหนื่อยสายตัวแทบขาดอย่างนี้”
               บุญถมจึงพูดขัดขึ้นว่า “อย่างเอ็งอย่างเก่งคงได้ปริญนาเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้เรียนถึงขั้นปริญญาหรอก และคงทำนาไปจนแก่ตาย ส่วนข้าเป็นชาวนาอย่างนี้นะดีแล้ว แม้จะต้องพึ่งเทวดาฟ้าฝนอยู่บ้าง แต่เทวดาส่วนมากมักจะใจดี ท่านคงไม่โหดร้ายปล่อยให้ชาวนาอดตายหรอก”

                อีกสามสิบปีต่อมาเพื่อทั้งสามกลับมาพบกันอีกครั้งโดยบังเอิญทั้งสามอยู่ในวัยกลางคนแล้ว วันนั้นฝนตกหนักเหมือนเมื่อสามสิบปีก่อน แต่กาลเวลาเปลี่ยนไป ทุ่งนาในอดีตกลายเป็นบ้านจัดสรร ไม่เหลือร่องรอยของความเป็นทุ่งนาเหมือนในอดีตเลย 
                บุญถมเป็นชาวนาตามความฝันไม่สำเร็จ เพราะมีนายทุนให้ราคาที่ดินดี จึงขายที่นาทั้งหมด ไม่นานเงินก็หมดและกลายมาเป็นลูกจ้างดูแลบ้านจัดสรรบนที่นาที่ตนเคยเป็นเจ้าของ ซึ่งก็พอเลี้ยงครอบครัวไปได้ ส่วนบุญถึงเดินทางไปกรุงเทพยึดอาชีพชกมวยได้ชกเวทีมาตรฐานเป็นประจำ เป็นนักมวยเงินแสนจึงใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อเริ่มแก่ตัวลงก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกัน ปัจจุบันยังดีที่ยังพออาศัยชื่อเสียงรับจ้างเป็นคนล่อเป้าให้นักมวยรุ่นน้อง ก็ยังพอเอาตัวรอดไปได้ ฝันของบุญถึงเป็นจริง แต่ขาดการวางแผนที่ดี เงินที่หามาได้แม้จะมีจำนวนมากเมื่อไม่รู้จักเก็บจึงไม่เหลือ

               บุญไทยเดินตามความฝันของตนเองทิ้งนามาสร้างฝันเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพราะเป็นศูนย์รวมของสรรพวิชาต่างๆ ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตามลำดับจนจบปริญญาเอก ทำงานเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แม้จะเงินเดือนน้อยแต่ก็ได้รับเงินทุกเดือน เหมือนน้ำบ่อที่ไม่มีวันหมด เขาเปลี่ยนคำพูดธรรมดาของบุญถมที่ว่า “อย่างเอ็งอย่างเก่งคงได้ปริญนาเท่านั้น” บุญไทยจึงเปลี่ยนจากคำว่า “ปริญนา” มาเป็น “ปริญญา” คำพูดธรรมดาที่เหมือนการเยาะเย้ยนำไปสู่การมุ่งมั่นเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่คิดนั้นสามารถทำให้เป็นจริงได้  
                บุญถมถามบุญไทยว่า “ทำอย่างไรจึงเรียนจบถึงปริญญาเอกได้” บุญไทยก็ตอบสั้นๆว่า “ก็เพราะคำว่า “ปริญนา” คำเดียวแท้ๆ ที่ทำให้ข้าฯ ทิ้งนามาสร้างฝันเปลี่ยนคำว่า “ปริญนา” จนกลายเป็น “ปริญญา” จริงๆได้  เรียนไม่เลิกก็ต้องจบจนได้ แม้จะท้อก็ไม่ทิ้ง”

                คำพูดบางคำแม้ว่าผู้พูดจะพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่คำพูดนั้นอาจทำให้ใครบางคนจำฝังใจและเปลี่ยนคำเยาะเย้ยเป็นแรงผลักดันนำไปสู่ความสำเร็จได้ แต่คนที่ยังยิ้มและหัวเราะได้ในเวลาที่ถูกเยาะเย้ย และสามารถวางเฉยได้เมื่อได้รับคำชมนั้น คือผู้ที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชีวิตนี้สั้นนักควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับเวลาที่เหลืออยู่ ไยต้องไปกังวลกับคำเยาะเย้ยถากถางของคนอื่นด้วยเล่า คำพูดออกจากปากแล้วก็จางหายไปเหมือนกับสายลมที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ฝึกทำใจให้เคยชินโดยยึดมั่นไว้ในใจเสมอว่า “ยิ้มได้เมื่อถูกเยาะ หัวเราะเมื่อถูกเย้ย วางเฉยเมื่อถูกชม”ในเวลาใดที่ได้ยินคำพูดที่มากระทบใจ ก็ยังสามารถรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้ อย่างน้อยการอยู่นอกคุกก็ยังมีอิสรเสรีมากกว่าอยู่ในคุก

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
20/09/53

หมายเหตุ: บุญถม บุญถึง บุญไทย เป็นเพียงนามสมมุติเท่านั้น หากไปตรงกับชื่อใครต้องขออภัย
                  แต่เรื่องนี้มีที่มาจากเรื่องจริง

เรื่องนี้น่าจะเหมาะกับเพลงนี้ “ทิ้งนามาสร้างฝัน” ลองฟังดู

{youtube}TCuZomwcx3g&p{/youtube}

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก