หากเราทำอะไรผิดพลาดและมีมีคอยหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง คนส่วนมากมักจะโกรธจนหน้าเขียว เห็นช้างเท่าหมู บางครั้งออกหน้ายักษ์หน้ามารหรือตอบโต้คนที่มาเยาะเย้ยเรานั้น หากควบคุมความโกรธไม่อยู่อาจทำร้ายคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ คนที่ทำผิดจนถูกคุมขังจองจำในคุกส่วนหนึ่งมาจากการถูกเยาะเย้ยถากถาง จนควบคุมอารมณ์ไม่ได้เผลอไปทำร้ายคนอื่นเข้า อารมณ์นั้นหากคุมไม่ได้สุดท้ายมันจะกลับมาทำร้ายเราเอง
ในทางการแพทย์คนที่ยิ้มและหัวเราะได้ทุกวันจะมีอายุยืน ดังจะเห็นได้ว่าคนที่มีอายุยืนส่วนมากมักจะเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดียิ้มง่าย หัวเราะง่าย และไม่หลงลืมตนเมื่อถูกชม แต่การยิ้มและหัวเราะควรทำแต่พอประมาณ เพราะหากนั่งยิ้มอยู่คนเดียวได้ทั้งวัน คนอื่นก็จะมองว่าบ้า คนอะไรนั่งยิ้มอยู่ได้คนเดียว เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง แม้บางอย่างจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าแสดงออกผิดกาละเทศะคนอื่นอาจก็จะแปลความหมายไปในทางตรงกันข้ามได้
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเพื่อนสามคนนั่งคุยกันบนห้างนาเก่าแก่จะพังมิพังแหล่อยู่รอมร่อกลางทุ่งนาที่ฝนตกหนักทั้งวัน วันนั้นทำนาไถนาไม่ได้เพราะฝนตก ต้องหยุดพัก เพื่อนทั้งสามมีชื่อสามบุญคือบุญถม บุญถึงและบุญไทย คนในสมัยนั้นมักจะต้องชื่อลูกชายขึ้นต้นด้วยคำว่าบุญ เพราะมีความเชื่อว่ามีบุญนำหน้าจะนำพาไปสู่การเป็นคนดี อย่างน้อยๆก็มากับบุญ
บุญถมถามบุญถึงว่า“โตขึ้นเองอยากเป็นอะไร” บุญถึงตอบว่า “ข้าอยากเป็นนักมวยจะได้หาเงินได้ง่าย แม้จะเจ็บตัวหน่อยคงไม่เป็นไร เวลาขึ้นชกบนเวทีมีคนดูมากๆคงมีความสุข ข้าเบื่อทำนาเต็มทีแล้ว ไม่ก้าวหน้า ทำอย่างเดิมอยู่ทุกปี ต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝน ปีไหนฝนฟ้าไม่ดีการทำนาก็ไม่ได้ผล แต่ปีไหนฝนตกมากน้ำก็ท่วมอย่างปีนี้ไม่รู้เมื่อไหร่ฝนมันจะหยุดซะที”
บุญถมหันมาถามบุญไทยบ้าง บุญไทยจึงตอบว่า “ข้าอยากเรียนสูงจนจบปริญญา ยิ่งจบปริญญาเอกเป็นดอกเตอร์ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องทำนาเหนื่อยสายตัวแทบขาดอย่างนี้”
บุญถมจึงพูดขัดขึ้นว่า “อย่างเอ็งอย่างเก่งคงได้ปริญนาเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้เรียนถึงขั้นปริญญาหรอก และคงทำนาไปจนแก่ตาย ส่วนข้าเป็นชาวนาอย่างนี้นะดีแล้ว แม้จะต้องพึ่งเทวดาฟ้าฝนอยู่บ้าง แต่เทวดาส่วนมากมักจะใจดี ท่านคงไม่โหดร้ายปล่อยให้ชาวนาอดตายหรอก”
อีกสามสิบปีต่อมาเพื่อทั้งสามกลับมาพบกันอีกครั้งโดยบังเอิญทั้งสามอยู่ในวัยกลางคนแล้ว วันนั้นฝนตกหนักเหมือนเมื่อสามสิบปีก่อน แต่กาลเวลาเปลี่ยนไป ทุ่งนาในอดีตกลายเป็นบ้านจัดสรร ไม่เหลือร่องรอยของความเป็นทุ่งนาเหมือนในอดีตเลย
บุญถมเป็นชาวนาตามความฝันไม่สำเร็จ เพราะมีนายทุนให้ราคาที่ดินดี จึงขายที่นาทั้งหมด ไม่นานเงินก็หมดและกลายมาเป็นลูกจ้างดูแลบ้านจัดสรรบนที่นาที่ตนเคยเป็นเจ้าของ ซึ่งก็พอเลี้ยงครอบครัวไปได้ ส่วนบุญถึงเดินทางไปกรุงเทพยึดอาชีพชกมวยได้ชกเวทีมาตรฐานเป็นประจำ เป็นนักมวยเงินแสนจึงใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อเริ่มแก่ตัวลงก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกัน ปัจจุบันยังดีที่ยังพออาศัยชื่อเสียงรับจ้างเป็นคนล่อเป้าให้นักมวยรุ่นน้อง ก็ยังพอเอาตัวรอดไปได้ ฝันของบุญถึงเป็นจริง แต่ขาดการวางแผนที่ดี เงินที่หามาได้แม้จะมีจำนวนมากเมื่อไม่รู้จักเก็บจึงไม่เหลือ
บุญไทยเดินตามความฝันของตนเองทิ้งนามาสร้างฝันเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพราะเป็นศูนย์รวมของสรรพวิชาต่างๆ ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตามลำดับจนจบปริญญาเอก ทำงานเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แม้จะเงินเดือนน้อยแต่ก็ได้รับเงินทุกเดือน เหมือนน้ำบ่อที่ไม่มีวันหมด เขาเปลี่ยนคำพูดธรรมดาของบุญถมที่ว่า “อย่างเอ็งอย่างเก่งคงได้ปริญนาเท่านั้น” บุญไทยจึงเปลี่ยนจากคำว่า “ปริญนา” มาเป็น “ปริญญา” คำพูดธรรมดาที่เหมือนการเยาะเย้ยนำไปสู่การมุ่งมั่นเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่คิดนั้นสามารถทำให้เป็นจริงได้
บุญถมถามบุญไทยว่า “ทำอย่างไรจึงเรียนจบถึงปริญญาเอกได้” บุญไทยก็ตอบสั้นๆว่า “ก็เพราะคำว่า “ปริญนา” คำเดียวแท้ๆ ที่ทำให้ข้าฯ ทิ้งนามาสร้างฝันเปลี่ยนคำว่า “ปริญนา” จนกลายเป็น “ปริญญา” จริงๆได้ เรียนไม่เลิกก็ต้องจบจนได้ แม้จะท้อก็ไม่ทิ้ง”
คำพูดบางคำแม้ว่าผู้พูดจะพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่คำพูดนั้นอาจทำให้ใครบางคนจำฝังใจและเปลี่ยนคำเยาะเย้ยเป็นแรงผลักดันนำไปสู่ความสำเร็จได้ แต่คนที่ยังยิ้มและหัวเราะได้ในเวลาที่ถูกเยาะเย้ย และสามารถวางเฉยได้เมื่อได้รับคำชมนั้น คือผู้ที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชีวิตนี้สั้นนักควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับเวลาที่เหลืออยู่ ไยต้องไปกังวลกับคำเยาะเย้ยถากถางของคนอื่นด้วยเล่า คำพูดออกจากปากแล้วก็จางหายไปเหมือนกับสายลมที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ฝึกทำใจให้เคยชินโดยยึดมั่นไว้ในใจเสมอว่า “ยิ้มได้เมื่อถูกเยาะ หัวเราะเมื่อถูกเย้ย วางเฉยเมื่อถูกชม”ในเวลาใดที่ได้ยินคำพูดที่มากระทบใจ ก็ยังสามารถรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้ อย่างน้อยการอยู่นอกคุกก็ยังมีอิสรเสรีมากกว่าอยู่ในคุก
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
20/09/53
หมายเหตุ: บุญถม บุญถึง บุญไทย เป็นเพียงนามสมมุติเท่านั้น หากไปตรงกับชื่อใครต้องขออภัย
แต่เรื่องนี้มีที่มาจากเรื่องจริง
เรื่องนี้น่าจะเหมาะกับเพลงนี้ “ทิ้งนามาสร้างฝัน” ลองฟังดู
{youtube}TCuZomwcx3g&p{/youtube}