หลายปีมาแล้วเคยคิดอยากจะย้ายไปพำนักที่ดาวอังคาร เพราะได้ทราบข่าวว่ามีโครงการนำคนไปทัศนศึกษาที่ดาวอังคาร คงเดินทางไปและกลับหลายปี ได้ข่าวว่าที่ดาวอังคารมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลก ในขณะที่ดาวพุธแม้จะอยู่ใกล้โลกเหมือนกันแต่ก็ร้อนเกินไป ร่างกายคงทนไม่ไหวเดี๋ยวก็ถูกความร้อนเผาจนมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไปก่อนที่จะได้เห็น ส่วนดาวศุกร์แม้จะมีขนาดใกล้เคียงกับโลก มีอุณหภูมิสูงกว่าโลกนิดหนึ่ง แต่มืดไปหน่อยแทบจะมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ ดาวอังคารนี่แหละน่าไปเที่ยวและอยู่อาศัยมากที่สุด
เมื่อคิดจึงเริ่มศึกษาว่าควรจะไปดาวดวงไหน พยายามหาหนังสือเกี่ยวกับโลกและจักรวาลมาอ่าน ส่วนหนึ่งที่น่าอ่านมากดูเหมือนจะเป็นจริงเป็นจังมากที่สุดคือนวนิยายของไอแซ็ค อาซิมอฟ,เอช.จีเวลล์ และอาเธอร์.ซี.คาล์ก นักเขียนทั้งสามท่านจะเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์ อาซิมอฟเขียนสถาบันสถาปนาว่าด้วยการพัฒนาดวงดาวต่างๆโดยใช้พลังจิต ที่จำได้ดีคือตัวร้ายคนหนึ่งนามว่า “มโนมัย”บุรษผู้ใช้พลังจิตเป็นอาวุธในการต่อสู้จนเกือบจะกลายเป็นผู้ครอบครองจักรวาล แต่ต้องมาพ่ายแพ้กับหญิงสาวคนหนึ่ง แผนครองโลกจึงล้มเหลว ได้ข่าวมาว่ารัสเซียก็เคยฝึกนักรบพลังจิตเหมือนกัน
อาเธอร์.ซี.คาล์ก จินตนาการถึงการเดินทางไปยังดาวดวงอื่น โดยสร้างลิฟท์อวกาศด้วยวัสดุที่เหนียวและแข็งแรงที่สุดในโลกในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเขาจินตนาการว่าเป็นภูเขาลูกหนึ่งอยู่ที่ศรีลังกา จากนั้นก็เดินทางไปกลับยังอวกาศได้ จนในที่สุดก็มีผู้นำมาพัฒนากลายเป็นยานอวกาศที่สามารถเดินทางไปยังดวงจันทร์และดาวอังคารได้ ดูเหมือนว่ามนุษย์ในโลกทางตะวันตกพยายามจะหนีจากโลกนี้โดยค้นหาดาวดวงใหม่ที่มีลักษณะและอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลก หมอดูบางท่านถึงขนาดที่ทำนายว่าโลกจะแตกในอีกสองปีข้างหน้า จากนั้นก็มีภาพยนตร์เกี่ยวกับการล่มสลายของโลกมาเขย่าขวัญและโกยเงินจากคนทั่วโลก
ปัญหาเรื่องโลกมาจากไหนเที่ยงหรือไม่เที่ยงจะแตกสลายเมื่อไหร่นั้น ปัญหานี้เคยมีพระภิกษุรูปหนึ่งทูลถามพระพุทธเจ้าดังที่ปรากฎในจูฬมาลุงโกยวาทสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์(13/147/177)ความว่า "ครั้งหนึ่งพระมาลุงกยบุตรได้เข้าไปถามพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับโลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด”
พระพุทธเจ้าตอบว่า “ดูกรมาลุงกยบุตร เมื่อยังมีทิฏฐิว่าโลกเที่ยงหรือว่าโลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุดอยู่ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ก็คงมีอยู่ทีเดียว เราจึงบัญญัติความเพิกถอนชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสในปัจจุบัน" ปัญหาเช่นนี้เรียกว่าอัพยากตปัญหา หมายถึงปัญหาที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ
ในที่สุดพระพุทธองค์ก็ไม่ได้ตอบแต่แสดงวิธีอยู่ในโลกนี้แทน เพราะจะรู้เรื่องโลกหรือดาวดวงอื่นหรือไม่ก็ตาม ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกข์ โศก โรค ภัย เศร้าโศกเสียใจก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมสู้เอาเวลามาหาทางบรรเทาเรื่องใกล้ตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างรู้เท่าทันและมีความสุขดีกว่า
พวกที่มีความรู้เกี่ยวกับโลก จักรวาลหรือดวงดวงอื่นก็ยังไม่มีใครเคยไป ยกเว้นแต่นักบินอวกาศบางคนเท่านั้นที่เคยเดินทางไปดวงจันทร์หรือดาวอังคาร แต่เมื่อไปแล้วก็ไม่มีใครกล่าวถึงการอพยพไปยังดาวอังคารอีกเลย หรือว่าหากจะมีก็คงจะมีคนเดินทางไปได้เพียงไม่กี่คน ส่วนคนที่เหลือก็ต้องอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป คนส่วนหนึ่งมักจะไม่พอใจความเป็นอยู่ของตนเอง เพราะนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
คัมภีร์เต๋า เต็กเก็งหรือวิถีแห่งเต๋า คัมภีร์ที่สำคัญเล่มหนึ่งของจีน เคยกล่าวไว้ว่า “เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย ความน่าเกลียดจึงเกิดขึ้น เมื่อรู้จักความดีว่าดี ความชั่วก็อุบัติขึ้น มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยการรับรู้ ยากกับง่ายเกิดขึ้นด้วยความรู้สึก ยาวกับสั้นเกิดขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ สูงกับต่ำเกิดขึ้นด้วยการเทียบเคียง เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดขึ้นด้วยการรับฟัง หน้ากับหลังเกิดขึ้นด้วยการนึกคิด ดังนั้นปราชญ์ย่อมกระทำด้วยการไม่กระทำ เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วง ” ใครจะนำวิธีการของเต๋าไปใช้ก็ได้ ส่วนใครที่เข้าถึงเต๋าที่แท้จริงก่อนกรุณากลับมาสอนเว็บมาสเตอร์ด้วย
หากไม่มีการเปรียบเทียบเราก็ยังเป็นเรา มนุษย์ทุกคนต่างก็มีแก่ เจ็บตายเหมือนกัน หากมองอย่างนี้คนเก็บขยะ ขอทานบนสะพานลอย ชาวไร่ชาวนา นายกรัฐมนตรีก็ไม่ต่างอะไรจากนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเพราะต้องอยู่ในโลกนี้เหมือนกับเรา และในที่สุดก็ต้องจากโลกนี้ไปเหมือนกัน ที่ต่างกันก็เพียงแค่การทำงานเท่านั้นเอง
ไอแซ็ค อาซิมอฟ, เอช.จีเวลล์ และอาเธอร์.ซี.คาล์ก แม้จะเขียนเรื่องส่วนใหญ่เกี่ยวกับโลกอื่น บางครั้งจินตนาการถึงมนุษย์จากดาวอื่นมารุกรานโลก แต่ทว่าในที่สุดนักเขียนเหล่านี้ก็ต้องอยู่ในโลกนี้เหมือนเดิม ไม่มีใครได้เดินทางไปยังดาวอื่นที่เขาจินตนาการเลย เขาไปได้เพียงในโลกแห่งจินตนาการเท่านั้น คนต่างกันเพราะสนใจต่างกัน ตาสี ตาสา ยายมี ยายมาที่อยู่ตามชนบท แม้จะไม่มีความรู้เรื่องโลกอื่นหรือดาวดวงอื่นเลย แต่เขาก็ยังอยู่ในโลกนี้เหมือนกัน มีหรือไม่มี สุขหรือทุกข์หากเราไม่นำไปเปรียบเทียบกับคนอื่นก็ไม่มองเห็นความแตกต่าง
ทุกวันนี้เลิกคิดที่จะเดินทางไปยังดาวดวงอื่นแล้ว แม้โลกนี้จะแตกสลายไปในวันนี้หรือวันใดก็ตาม เราก็ไม่มีทางหนีจากโลกนี้ไปได้ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่จะสุขหรือทุกข์หรือไม่ก็ตามก็ยังคงอยู่ในโลกใบนี้ หนีไม่ได้ก็ต้องยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อหนีโลกนี้ไปไหนไม่ได้ก็ต้องมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไป แต่อยู่อย่างเข้าใจโลก เรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกอย่างมีความสุข ปล่อยให้โลกนี้เป็นไปตามเรื่องของโลกตามที่มันควรจะเป็น
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
02/08/53