ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

       หลายเดือนมาแล้วมีคำที่มักจะได้ยินอยู่เสมอในยุคที่เชื้อโควิดกำลังระบาดคือคำว่า “New Normal” ความหมายที่มักจะได้ยินคือวิถีชีวิตแบบใหม่ ฐานชีวิตแบบใหม่ รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ วิธีจัดการกับปัญหาทั้งหลายแบบใหม่ ประมาณนี้ แล้วจะให้ดำเนินการอย่างไรนั้น แนวทางในการปฏิบัติก็ขึ้นอยู่กับสถานะความเป็นอยู่ พื้นฐานของชีวิตของแต่ละคน สิ่งที่จะต้องทำเหมือนกันเช่นเมื่อจะต้องออกจากบ้านก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย จะพูดจาสนทนากับคนอื่นก็ต้องเว้นระยะห่าง งดเว้นการชุมนุมที่มีคนจำนวนมากมาอยู่ในที่เดียวกัน เป็นต้น
       อีกไม่กี่วันโรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานศึกษาต่างๆมีกำหนดให้เปิดเทอมแล้ว พร้อมทั้งมีข้อขอร้องแกมบังคับว่าจะต้องมีการสอนในระบบออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียนในห้องเรียน ความหมายคือคนที่ทำหน้าที่ครูอาจารย์ก็ต้องศึกษาเรียนรู้การใช้งานของระบบออนไลน์ จะต้องมีเครื่องมือ มีโปรแกรมให้พร้อม นักเรียนนักศึกษาก็ต้องเรียนรู้ระบบเช่นกัน ที่สำคัญจะต้องมีเครื่องมือที่สารมารถติดต่อสื่อสารกันได้
       วันก่อนอาจารย์ท่านหนึ่งแวะเข้ามาหามาชวนสนทนาว่าด้วยเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์ว่าจะทำอย่างไร ในช่วงวิกฤติโควิดมักจะมีการจัดประชุมออนไลน์ มีการสอนออนไลน์ มีการสอบวิทยานิพนธ์ออนไลน์ อยู่บ้าง โปรแกรมที่ใช้ก็ต้องจ่ายเป็นรายเดือน สามารถเชื่อมต่อในระบบเครือข่าย มีทั้งเสียงและภาพปรากฎให้เห็น แม้จะอยู่กันคนละจังหวัดก็ตาม แต่นั่นมันเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 20 คน สาระสำคัญส่วนหนึ่งหนึ่งอยู่ที่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถ้าวันไหนเป็นปรกติก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าระบบเกิดขัดข้องทุกอย่างก็ไปไม่รอด
       ในการประชุมส่วนมากจะใช้เครื่องแท็ปเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือหรือจะเรียกว่าสมาร์ทโฟน ผ่านทางไลน์ เมื่อเข้าไปในระบบไลน์แล้วก็เข้าโปรแกรมและเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ จะอยู่ที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์มีระบบอินเทอร์เน็ต เท่านี้ก็ทำงานได้แล้วก็หากจะบอกว่านี่เป็นวิถีชีวิตการทำงานแบบใหม่ก็พอจะอนุโลมได้
 
       รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่นั้น ต้องพึ่งพาระบบการสื่อสารออนไลน์มากขึ้น ใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น เช่นการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ อยากได้อะไรก็ใช้บริการส่งถึงบ้านได้เลย แต่ช่วงนี้ไม่อยากซื้ออะไรให้เปลืองเงินต้องประหยัดไว้ให้มากขึ้น แต่การสั่งอาหารทางออนไลน์ได้ทดลองใช้ด้วยตนเองไม่ต้องถามใคร ไม่ต้องปรึกษาใคร ลองใช้ความสามารถของตนเองว่าจะทำได้หรือไม่ 
       เพียงแค่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอาหารที่สั่งไปก็มีรถมอเตอร์ไชด์มาส่งถึงที่ ประหยัดเวลาได้มาก เพียงแค่เข้าระบบเลือกอาหาร ไม่นานก็มาส่ง แต่สาระสำคัญอยู่ที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น วิถีชีวิตแบบนี้เหมาะกับคนมีเงิน ส่วนคนที่ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินที่จะใช้จ่าย วิถีแบบนี้น่าจะไม่เหมาะมากนัก มีเงินยิ้มได้ไม่มีเงินก็หน้าแห้ง 
       สมัยก่อนเราเห็นคนใส่หน้ากากอนามัยเดินตามท้องถนน ก็ต้องตั้งสมมุติฐานไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นคนป่วยหรือไม่สบายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะหน้ากากอนามัยมักจะมีให้เห็นแต่พวกที่มีอาชีพแพทย์ พยาบาล แต่ในยุคสมัยปัจจุบันหากเห็นใครไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็จะถูกตั้งคำถามด้วยสายตาว่าช่างประมาทกับการใช้ชีวิตเกินไป หน้ากากอนามัยจึงกลายเป็นปรกติธรรมดาในยุคสมัยนี้
 
       เครื่องมือสำคัญของยุคสมัยนี้จึงอยู่ที่เทคโนโลยี การทำงานผ่านระบบออนไลน์ ถ้าใครเข้าใจศึกษาเรียนรู้มีอุปกรณ์ ก็สามารถปรับตัวให้การดำเนินชีวิตพอจะเป็นไปได้โดยไม่ลำบากมากนัก แต่สาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ที่เป็นปัจจัยให้ระบบขับเคลื่อนไปได้ก็คือเงิน คำถามที่ตามมาคือถ้าไม่มีเงินจะทำอย่างไร
       ทำให้ต้องย้อนกลับกลับไปในอดีต เมื่อสมัยที่ยังเป็นเด็กเทคโนโลยียังไม่เจริญเหมือนยุคสมัยนี้ พื้นเพเดิมเป็นลูกชาวไร่ชาวนา พ่อมีอาชีพทำไร่ทำนา เช้าก็ออกจากบ้านไปที่ไร่ไปที่ท้องนา จากนั้นก็ลงมือทำงานทั้งวันจนกระทั่งมืดค่ำก็กลับบ้านพักผ่อนหลับนอน รอฟ้าสางก็ออกไปใหม่ วิถีชีวิตเป็นไปในทำนองนี้
       ในแต่ละวันแทบจะไม่ต้องใช้เงินเลย ข้าวก็ปลูกเองกินเอง อาหารก็มาจากพืชผักผลไม้ที่ปลูกไว้ที่ไร่หรือที่ปลายนา ปลาก็เลี้ยงไว้อยู่ในสระน้ำกลางไร่ เครื่องมือทำงานก็ทำจากไม้ ไถไม้ คราดไม้ อาจจะมีบ้างที่จะต้องซื้อหาประเภทเหล็กที่ยังผลิตเองไม่ได้ ส่วนปุ๋ยก็ใช้ขี้วัวขี้ควายนั่นแล วิถีแบบนี้ก็ยังอยู่กันมาได้ แม้จะไม่ได้มีเงินมากมาย ขายสินค้าทางการเกษตรได้บ้างแค่พออยู่พอกิน พ่อแม่ก็เลี้ยงดูเรามาจนเติบโตจนถึงปัจจุบันยังมีเงินเหลือส่งลูกชายเรียนหนังสือจนจบชั้นสูงสุดได้
 
       ตอนนี้กำลังคิดถึงวิถีชีวิตแบบเก่าของคนไทยในอดีต ถ้าไม่ต้องมีเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีเครื่องมือ ไม่มีระบบการสื่อสารทางออนไลน์ ชีวิตจะอยู่ได้ไหม แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าน่าจะอยู่ได้และอยู่ได้อย่างสบายด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เราใช้เทคโนโลยีมากเกินไป จนแทบจะกลายทาสของระบบไปแล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเหมือนในอดีตที่บรรพบุรุษก็ยังผ่านมาได้ วิถีชีวิตแบบเก่าหรือจะเรียกให้ทันสมัยหน่อยว่า “Old Normal” ก็น่าจะพอเป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เป็นทางเลือกสำหรับใครบางคน ที่ไม่มีทรัพย์สมบัติมากมายนัก งานก็ไม่ค่อยมีให้ทำ เงินก็ไม่ค่อยจะมี ลองกลับไปใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมดูบ้างน่าจะเหมาะกับยุคนี้ ประเภทหนีจากเมืองคืนสู่ป่าประมาณนั้น
      คงต้องรอดูอีกสักพัก ปรับตัวอีกสักหน่อย ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา รักษาชีวิตให้รอดพ้นจากวิกฤตโควิดในครั้งนี้ไปก่อน จากนั้นค่อยคิดหารูปแบบการดำเนินชีวิตแบบใหม่ที่น่าจะมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ทำไมช่วงนี้กลับคิดย้อนไปถึง “Old Normal” มากกว่าจะคิดถึง “New Normal” หรือว่าเราได้กลายเป็นคนที่ตกยุคสมัยไปแล้วจริงๆ
 
 
พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
20/06/63 
 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก