ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

          วันเข้าพรรษามีสายฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เห็นว่ายังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนที่จะทำพิธีอธิษฐานเข้าพรรษา จึงเดินเล่นหน้าวัด กวาดวิหารลานเจดีย์ตามปรกติ ศาลาท่าน้ำมีคนสองสามคนนั่งสนทนากันอยู่ พอเดินผ่านไปยืนเล่นที่ท่าน้ำ วันนี้น้ำคลำส่งกลิ่นโชยมาแต่ไกล กลิ่นไม่ค่อยดีนัก แต่ก็เอาเถอะแม้จะมีกลิ่นเหม็นบ้างก็ไม่เป็นไร บางช่วงเวลาคลองที่ไหลผ่านหน้าวัดก็มีน้ำล้นตลิ่งใสสะอาดอยู่บ้าง  แต่ช่วงนี้ทางกรุงเทพมหานครคงต้องการให้คลองมีน้ำน้อยที่สุดเผื่อบางทีอาจจะมีฝนตกหนักเกิดน้ำทะลักเข้ามามากจะได้ระบายน้ำได้ทันท่วงที คิดในด้านดีไว้ก่อน
 

          เพ่งพิจารณาน้ำคลำในคลองสักพักก็มีโยมคนหนึ่งเดินเข้ามาหา พลางยกมือไหว้และเอ่ยทักว่า “เข้าพรรษา ผมควรจะอธิษฐานอะไรดี” แหมช่างถามได้ตรงกับที่คิดไว้อยู่พอดี ตอนนั้นก็กำลังคิดอยู่ว่าจะอธิษฐานอะไรในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ ซึ่งยังคิดหาคำอธิษฐานเฉพาะกาลไม่ออก
          จึงบอกไปว่า “ก็แล้วแต่โยม ได้ข่าวว่าทางราชการรณรงค์ว่า “งดเหล้าเลิกสูบบุหรี่ในช่วงเข้าพรรษา” หรือลด ละ เลิกอบายมุขทั้งหลายก็ได้” แล้วโยมคิดจะอธิษฐานอะไร 
          ผมตั้งใจว่าจะเลิกบุหรี่ในช่วงเข้าพรรษานะครับ แต่มีคนบอกว่าคนที่สูบบุหรี่ติดต่อกันมานานเกินยี่สิบปี ถ้าหากเลิกทันทีมักจะเป็นมะเร็งและตายก่อนเวลาอันควร ผมยังไม่อยากตาย จึงไม่กล้าอธิษฐานนะครับ”

          คนเรามันก็ต้องตายด้วยกันทั้งนั้นแหละ อย่างเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ก็ไม่แน่เสมอไปคนที่ไม่สูบบุหรี่ก็อาจจะเป็นโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ตัวอย่างเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาคนที่เสียชีวิตก็ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า แต่ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ หากจะเลิกจริงๆ ก็ต้องลองพิสูจน์ใจตัวเองด้วยว่าสามารถทำได้จริงๆหรือไม่ หากทำได้ก็จะเป็นการพิสูจน์จิตใจตนเองว่ามีความเข้มแข้งเด็ดเดี่ยว คนที่มีจิตใจมั่นคงจะทำอะไรก็สำเร็จ”
          ตอนนั้นมีโยมอีกหลายคนเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย ศาลาท่าน้ำหน้าวัดจึงกลายเป็นศาลาโรงธรรมขนาดย่อม โยมสุภาพสตรีคนหนึ่งถามว่า “อธิษฐานคืออะไร โยมอยากจะอธิษฐานว่าจะใส่บาตรพระทุกวัน แต่เกรงว่าจะทำไม่ได้ เพราะบางวันอาจจะนอนตื่นสาย จึงไม่กล้าตัดสินใจ”
          จึงบอกว่าเอาทีละคำถามก็แล้วกัน คำว่า “อธิษฐาน”เป็นคำนามนปุงสกลิงค์(ไม่หญิงไม่ชาย) มาจากภาษาบาลีว่า “อธิฏฺฐาน” ตามความหมายแปลว่า “ความตั้งในแน่วแน่ การอธิษฐาน การติดแน่น ที่อยู่อาศัย” มีความหมายถึงสี่อย่าง หากเป็นคำกิริยาก็จะเขียนว่า “อธิฏฺฐาติ” แปลว่า ตั้งมั่น ตั้งใจ คนทั่วไปจึงเข้าใจว่าการอธิษฐานคือการตั้งใจแน่วแน่ที่จะงดเว้นจากสิ่งที่ไม่ดี หรือตั้งใจกระทำในสิ่งที่ดี  หากตั้งใจแล้วลงมือกระทำตามที่ตั้งใจก็เรียกว่าการอธิษฐาน
          การอธิษฐานใส่บาตรทุกวัน ก็ต้องทำทุกวัน ถ้าทำได้ตามที่อธิษฐานไว้ก็จะเพิ่มพูนความมั่นใจในความเข้มแข็งแห่งจิตใจของตนเอง หากไม่แน่ใจว่าจะทำไม่ได้ จะอธิษฐานกลางๆก็ได้ว่า “จะใส่บาตรอาทิตย์ละห้าวัน” มีวันหยุดตั้งสองวัน จะหยุดวันไหนก็เลือกเอา ถ้าอธิษฐานอย่างนี้คิดว่าโยมคงทำไม่ยาก”
          สุภาพสตรีท่านนั้นยกมือไหว้และกล่าวคำว่า “สาธุ” โยมไม่น่าจะคิดไม่ออกเลย เพราะคิดอยู่แต่ว่า “ใส่บาตรทุกวัน” ถ้าเปลี่ยนคำอธิษฐานใหม่เป็น “ใส่บาตรอาทิตย์ละห้าวัน” อย่างนี้โยมมั่นใจว่าทำได้แน่นอน

 

          การสนทนากำลังจะดำเนินไปด้วยดี แต่พลันมีเสียงเอะอะโวยวายมาแต่ไกลและเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนจึงหันไปมอง เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกัน ดูเหมือนจะเป็นสามีภรรยาในทำนองว่าสามีขี้เมาเอาแต่ดื่มเหล้า ไม่ทำมาหากิน ส่วนสามีก็เถียงว่าเพราะมีไปมีชู้จึงต้องดื่มเหล้า ทั้งสองเถียงกันมาจนถึงศาลาท่าน้ำหน้าวัด วงสนทนาจึงต้องถอยคอยระวังภัย ถือภาษิตว่าอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนเมา
          ชายขี้เมาคนนั้นมาถึงก่อนยกมือชี้หน้ามาที่หลวงตาฯพอดี “เพราะเอ็งนี่แหละที่ทำให้เมียข้าเอาเงินมาทำบุญจนหมดตัว”
          ถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่ไม่จริงอย่างน้อยอารมณ์ของหลวงตาฯก็ระอุด้วยความโกรธ ลืมตัวพลางเดินเข้าหาชายขี้เมาคนนั้นทันที เพราะมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักสามีภรรยาคู่นี้มาก่อนเลย มากล่าวหากันลอยๆอย่างนี้ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนก็ต้องมีอารมณ์โกรธเป็นธรรมดา แต่เมื่อรู้ตัวจึงระงับความโกรธไว้ได้
          ฝ่ายภรรยาก้มกราบก่อนจะบอกว่า “หนูขอโทษหลวงพ่อ สามีหนูมันบ้า เมาเมื่อไหร่หาเรื่องคนทุกที”
          ในขณะนั้นชายขี้เมาคนนั้นคงได้สติขึ้นมาเหมือนกับจะสำนึกผิด แต่ไม่ได้กล่าวคำอะไรออกมา ภรรยาจึงทั้งฉุดกระชากลากถูนำพาสามีเดินกลับไป
          หลวงตาไซเบอร์ฯยังมีอารมณ์ขัดเคืองที่ถูกกล่าวหาจากใครที่ไหนก็ไม่ทราบ วงสนทนาเริ่มทยอยลากลับเกือบหมดแล้ว กำลังจะเดินขึ้นกุฏิเพื่อเตรียมตัวลงพระอุโบสถอธิษฐานพรรษา ชายขี้เมาคนนั้นถือขวดสุราเดินย้อนกลับมา พลางเรียกว่า “หยุดก่อนหลวงพ่อ” ตอนนั้นเตรียมพร้อมแล้วเป็นไงเป็นกัน จึงหันกลับมาประจันหน้ากับชายขี้เมาคนนั้นด้วยใจอันสงบ แต่ชายขี้เมาคนนั้นกลับนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าหลวงตา จากนั้นยกขวดสุราขึ้นชูตรงหน้าพลางบอกว่า “ผมถวายสุราขวดนี้แก่หลวงพ่อ จากวันนี้เป็นต้นไปผมจะอธิษฐานเลิกเหล้าตลอดพรรษา”

 

          กาลกลับกลายเป็นว่าผู้ที่ทำอะไรไม่ถูกคือหลวงตาฯเอง ครั้งจะรับขวดสุราก็เกรงว่าจะมีคนแอบถ่ายภาพพระถือขวดสุรา หากมีคนเผยแพร่ออกไปเดี๋ยวก็ยุ่งกันใหญ่ ครั้นจะไม่รับก็จะขัดใจชายขี้เมาคนนั้น หลวงตาเองก็รู้สึกมีโทสะเหมือนไออุ่นที่พุ่งขึ้นมาเหมือนกัน แหมถวายสุราให้พระมันน่าจะด่าให้หายแค้น แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธอะไรออกมานอกหน้า ตอนนั้นหน้าคงแดงเพราะความโกรธที่กำลังระอุแต่ก็ระงับไว้ได้  เพียงแต่บอกว่า “วางขวดไว้ก่อนโยม” ชายขี้เมาก็ทำตามอย่างว่าง่าย ความโกรธที่กำลังปะทุจึงสงบลงได้
          “ผมตั้งใจจริงๆนะครับหลวงพ่อ พรุ่งนี้ผมจะเลิกเหล้าจริงๆ แต่วันนี้ขอดื่มให้เต็มที่ก่อน” พูดจบชายขี้เมาก้มกราบกับพื้นสามครั้งและเดินโซเซจากไป พร้อมทั้งคนอื่นก็กราบลาไปด้วย เหลือไว้แต่ขวดสุราที่เหลือครึ่งขวดยังวางแทบเท้าหลวงตาไซเบอร์ฯ จึงบอกให้โยมคนหนึ่งเก็บไปทิ้งถังขยะ โดยไม่ลืมบอกให้เทเหล้าที่ยังเหลือทิ้งก่อน
          ได้เวลาสวดมนต์และอธิษฐานเข้าพรรษาจึงเดินเข้าพระอุโบสถ ตอนนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจยังเป็นความขัดเคืองต่อชายขี้เมาคนนั้น ความขัดเคือง เป็นกิเลสอย่างหนึ่งอยู่ในฝ่ายของ “โทสะ” ที่แปลว่า “ความประทุษร้าย ความโกรธ ความขัดเคือง ความเกลียดชัง ความมุ่งร้าย โทษ ความเสียหาย ความผิดพลาด ข้อบกพร่อง ข้อควรตำหนิ”   ในขณะที่คำว่า “ความโกรธ” มาจากภาษาบาลีว่า “โกธ” แปลว่าความโกรธ ความขัดเคือง
          พระพุทธเจ้าเคยตอบคำถามของมาฆเทวบุตร ดังที่แสดงไว้ในมาฆสูตร สังยุตนิกาย สคาถวรรค (15/226/65 ) ความว่า “ครั้งหนึ่งที่เชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี มาฆเทวบุตรได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า “บุคคลฆ่าอะไรสิ จึงจะอยู่เป็นสุข ฆ่าอะไรสิ จึงจะไม่เศร้าโศก ข้าแต่พระโคดม พระองค์ทรงพอพระทัยการฆ่าธรรมอะไร ซึ่งเป็นธรรมอันเดียว”

 

          พระผู้มีพระภาคตรัสตอบมาฆเทวบุตรว่า “บุคคลฆ่าความโกรธแล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข  ฆ่าความโกรธแล้ว  ย่อมไม่เศร้าโศก ดูกรท้าววัตรภู อริยะทั้งหลาย สรรเสริญการฆ่าความโกรธซึ่งมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน เพราะว่าบุคคลฆ่าความโกรธนั้นแล้วย่อมไม่เศร้าโศก”
          แปลมาจากภาษาบาลีว่า “โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ   โกธํ ฆตฺวา น โสจติ
                                           โกธสฺส วิสมูลลสฺส     มธุคฺคสฺส วตฺรภู
                                           วธํ อริยา ปสํสนฺติ      ตญฺหิ ฆตฺวา น โสจติ ฯ
          การอธิษฐานเข้าพรรษาในปีนี้หลวงตาไซเบอร์ฯ อธิษฐานเข้าพรรษาในวัดมัชฌันติการาม ตลอดไตรมาส หากไม่มีเหตุที่เรียกว่า “สัตตาหกรณียะ” ให้เดินทางไกล จะไม่ไปพักแรมที่ไหนอื่น นอกจากนั้นยังตั้งจิตอธิษฐานเพื่อการบำเพ็ญทางจิตว่า “ในพรรษานี้จะไม่โกรธต่อใครๆ พยายามจะบรรเทาความโกรธให้ลดน้อยลง แม้หากความโกรธ ความขัดเคืองใจเกิดขึ้นก็จะไม่แสดงอาการให้ใครเห็น” ความโกรธเก็บไว้ภายใน ยิ้มเข้าไว้แม้ภัยมา
 


พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน
04/08/55


 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก