วันก่อนเขียนเรื่องเฉียดๆการเมือง พอมาวันนี้ขอแถมอีกสักเรื่องสาเหตุมาจากแผนปรองดองแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแผนปรองดองแห่งชาติมาหลายเดือนแล้ว จากนั้นก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามแผนอีกหลายคณะ เพื่อที่จะให้ดำเนินการไปตามแผน ซึ่งคณะกรรมการแต่ละชุดที่ตั้งขึ้นมานั้นก็ได้เริ่มงานกันแล้ว คณะกรรมการบางชุดก็ได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อรวบรวมความคิดจากบุคคลต่างๆจากนั้นนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อประกาศเป็นนโยบายทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีการแตกแยกทางความคิดกันมาก เพราะความคิดเห็นที่ต่างกันนี้เองทำให้เกือบจะเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แผนปรองดองแห่งชาติที่นายกรัฐมนตรีนำเสนอมีสาระสำคัญ 5 ประการคือ
1. ปกป้องสถาบัน การรวมใจพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนคนไทยเป็นหนึ่งเดียว ปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ คือสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากจะให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน เพื่อป้องกันการล่วงละเมิดสถาบัน และนำสถาบันเข้าไปเป็นเรื่องขัดแย้งทางการเมือง
2. ปฏิรูปประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาส่วนโครงสร้างความไม่เสมอภาค ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งมักจะเป็นเงื่อนไขหยิบยกขึ้นมา เพราะเป็นความเดือดร้อนที่อยู่ในใจประชาชนจำนวนมาก และทำให้กลายเป็นเงื่อนไขให้มีการหยิบยกขึ้นมาในการชุมนุมทางการเมืองมาตลอด
3. ปฏิรูปสื่อโดยจะมีการแก้กฎหมายให้ทันสมัยขึ้น เพราะต้องการอยากเห็นกลไกสื่อสารมวลชนทั้งหมด สามารถที่จะมีบทบาทในการลดความขัดแย้ง หรือไม่เป็นเงื่อนไขความขัดแย้งเสียเอง พยายามที่จะหาทางโดยไม่มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน และการนำเสนอข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชน
4. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในการชุมนุมมีปัญหาการสูญเสียเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่สังคมได้สามารถเข้าถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่างๆ มีกลไกเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง
5. แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง โดยการวิเคราะห์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง ซึ่งเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งอยู่ ซึ่งจะได้มีการนำเอาประเด็นความขัดแย้งเหล่านี้มาพิจารณาเป็นระบบอีกครั้ง
เมื่อนำเสนอแผนนี้ออกมาหากพิเคราะห์ตามเนื้อหาแล้วเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากทำได้ทุกข้อประเทศไทยจะน่าอยู่ขึ้นอีกมาก ขอวิเคราะห์เป็นข้อๆตามที่มีความเห็น ข้อแรกนั้นไม่มีปัญหาเพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน จนกลายเป็นสถาบันหลักของประเทศ คงมีน้อยคนที่จะล่วงละเมิดสถาบันหลักซึ่งหากจับได้ไล่ทันก็มีกฎหมายคอยลงโทษอยู่แล้ว ในหลวงยังคงเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ พระองค์ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร์มาตลอดพระชนมายุ ข้อนี้ไม่เสนอเป็นแผนทุกคนก็ถือปฏิบัติด้วยความจงรักภักดีอยู่แล้ว
ปฏิรูปประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จุดเน้นของรัฐบาลอยู่ที่รัฐสวัสดิการ การศึกษา สาธารณสุข ปัจจัยขั้นพื้นฐานเกือบทุกอย่างจะเป็นของฟรี ฟังดูดีถ้าทำได้ถ้าทำได้จริง แต่ละรัฐบาลต่างก็มักจะอ้างเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและสังคมนี่แหละมาเป็นนโยบายในการหาเสียง เรื่องรัฐสวัสดิการนี้ยาวอายุรัฐบาลชุดนี้คงทำไม่ทัน
การปฏิรูปสื่อเป็นแนวคิดที่ดี แต่ทว่าเท่าที่เห็นรัฐบาลพยายามปิดสื่อ หรือไม่ก็เสนอข่าวสารอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมไม่เปิดโอกาสให้สื่ออื่นที่มีความเห็นต่างนำเสนอบ้าง สุภาษิตไทยโบราณก้มีอยู่ว่า "อย่าฟังความข้างเดียว" ซึ่งอาจผิดหรือถูกก็ได้
ส่วนข้อสี่และห้าควรทำอย่างยิ่ง เพราะข้อเท็จจริงทั้งหลายคนเขาอยากทราบ แต่ได้ข่าวมาว่ารัฐบาลกำลังจัดทำวีซีดีเหตุการณ์พฤษภาออกเผยแพร่ แม้จะยังไม่ดู แต่ไม่อยากคาดเดา แต่เป็นนำเสนอข้อเท็จจริงก็เป็นเรื่องที่ดี น่ากลัวว่าหากเสนออกไปแล้วเป็นการเข้าข้างรัฐบาลก็มีแต่จะก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้น เพราะมีภาพที่ปรากฎตามสื่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆอีกมากและมีหลายมุมมอง หากไม่ตรงกับที่รัฐบาลนำเสนอมีแต่จะก่อให้เกิดรอยปริในสังคมไทยย่องขึ้น ทางที่ดีไม่ควรเผยแผ่
พระพุทธศาสนามีหลักแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเรียกว่าสาราณิยธรรม ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง, ธรรมเป็นเหตุที่ระลึกถึงกัน, หลักการอยู่ร่วมกันประกอบด้วยตั้งเมตตากายกรรม ตั้งเมตตาวจีกรรม ตั้งเมตตามโนกรรม ในทั้งต่อหน้าและลับหลังคือ ช่วยเหลือกิจธุระของผู้ร่วมคณะด้วยความเต็มใจ แสดงกิริยาอาการสุภาพ เคารพนับถือกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ได้ของสิ่งใดมาก็แบ่งปันกันคือเมื่อได้สิ่งใดมาโดยชอบธรรม แม้เป็นของเล็กน้อย ก็ไม่หวงไว้ผู้เดียว นำมาแบ่งปันเฉลี่ยเจือจาน ให้ได้มีส่วนร่วมใช้สอยบริโภคทั่วกัน มีศีลบริสุทธิ์หรือแนวปฏิบัติเสมอกัน ไม่ใช้ระบบสองมาตรฐาน มีทิฏฐิ(ความเห็น)ที่ดีงามเสมอกัน หรือมีความเห็นสอดคล้องกัน ถ้าทำได้ตามหลักการนี้แม้จะไม่มีแผนปรองดองแห่งชาติคนก็อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข
เคยเห็นคนสร้างไหม เขาสร้างจากพื้นอันเป็นฐานขึ้นไปข้างบนหรือว่าสร้างจากยอดข้างบนลงมาข้างล่าง แม้คนที่ไม่มีความรู้ทางช่างเลยก็คงตอบว่าส่วนมากนายช่างจะสร้างจากฐานโดยขุดหลุมวางฐานให้มั่นคงแข็งแร็งก่ออิฐฉาบปูนให้แน่นหนาก่อนจากนั้นจึงค่อยๆก่ออิฐขึ้นไปทีละนิดจนถึงยอดซึ่งมีขนาดเล็ก นี่คือการสร้างเจดีย์โดยทั่วไป แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลยกำลังสร้างเจดีย์จากยอดลงมายังฐานล่าง
หากเปรียบเทียบประเทศไทยเป็นเจดีย์ ฐานล่างอันเป็นที่รองรับเจดีย์ทั้งหมดไว้จะมีขนาดใหญ่มาก เทียบได้กับประชาชนคนจน รัฐบาลสมัยหนึ่งให้เรียกใหม่ว่าคนรากหญ้าทั้งหลายที่มีจำนวนมาก อาจจะมีปริมาณถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ เขาเหล่านั้นเป็นรากฐานที่สำคัญช่วยค้ำจุนประเทศให้คงอยู่ บางครั้งจะดูว่าเศรษฐกิจของประเทศใดดีหรือไม่ให้ดูที่ราคาไข่ ถ้าไข่ราคาถูกแสดงว่าเศรษฐกิจดี แต่ถ้าไข่ในรัฐบาลชุดใดมีราคาแพงก็ให้คาดเดาไว้ก่อนว่าเศรษฐกิจในรัฐบาลยุคนั้นไม่ค่อยดีนัก เพราะไข่คืออาหารหลักของคนจน เป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่ายที่สุดที่สุดนั่นเอง ฐานของเจดีย์จึงมีขนาดใหญ่เพื่อที่จะทำให้รองรับเจดีย์ทั้งองค์ได้
ตรงกลางของเจดีย์จะมีขนาดเรียวเล็กลง เปรียบเหมือนกับประชานคนชั้นกลางที่มีปิมาณน้อยลง คนชั้นกลางเหล่านี้ยังมีกลางระดับล่าง กลางระดับกลางและกลางระดับสูง ส่วนมากจะเป็นข้าราชการ พ่อค้า นักการเมือง นักธุรกิจ ซึ่งจะเป็นเหมือนผู้เชื่อมต่อระหว่างฐานล่างของประเทศและยอดบนของประเทศ คนพวกนี้มีปริมาณไม่มากนักหากเทียบกับคนรากหญ้าที่อยู่ระดับล่าง คนพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก เพราะมีรายได้ที่แน่นอน เช่นข้าราชการก็จะต้องรู้ว่าเดือนหนึ่งมีรายรับเท่าใด และวางแผนการจ่ายไว้ล่วงหน้าแล้ว
ยอดบนของเจดีย์จะมีขนาดเล็กแหลม ส่วนมากจะใช้บรรจุสิ่งของที่มีค่าเช่นพระบรมสารีริกธาตุเป็นต้น คนที่อยู่บนยอดบนของประเทศจะมีปริมาณน้อยลง ส่วนมากจะเป็นข้าราชการชั้นสูง นักการเมือง รัฐมนตรี นักธุรกิจ คนพวกนี้จะกุมอำนาจไว้ในมือเช่นออกกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกพร้องเป็นต้น ดังนั้นพอนักการเมืองเปลี่ยนขั้วอำนาจมักจะมีกฎหมายใหม่ออกมาเสมอ รัฐใดที่ใช้กฎหมายเป็นหลักในการบริหาร มักจะได้ผลในระยะใกล้ แต่ระยะไกลจะมีคนสงสัยและขอเปลี่ยนแปลงกฎหมายอยู่บ่อยๆ แม้แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ยังมีหลายท่านขอแก้ไขบางมาตรา
การปฏิรูปประเทศไทยให้น่าอยู่ หากมองจากข้างบนลงไปขอบอกว่ายากที่จะสำเร็จ ควรเปลี่ยนมุมมองจากข้างล่างมาข้างบน เหมือนเจดีย์ถ้าฐานล่างแข็งแรงเจดีย์ยอดเจดีย์ก็ทนทานเพราะฐานมั่นคง การสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่นั้นหากเพิกเฉยต่อประชาชนรากหญ้าแล้ว ประเทศไทยคงเป็นประเทศที่น่าอยู่เฉพาะคนบนยอดเจดีย์ ไม่นานก็พังทลายลงมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นยอดเจดีย์และฐานรากก็กองอยู่กับดินเท่ากัน
บอกแล้วว่าเรื่องการเมืองนั้นหากเข้าไปสัมผัสเมื่อไหร่ ก็ยากที่จะถอนตัว การเมืองมีเสน่ห์น่าลุ่มหลงเสมอ คนส่วนหนึ่งจึงหนีการเมืองไปไหนไม่พ้น ประเทศไทยจะน่าอยู่หรือไม่นั้นอยู่ที่คำๆหนึ่งคือ "ความเป็นธรรม"หากรัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ต้องมีแผนปรองดองแห่งชาติก็ได้ จากนั้นจึงค่อยๆสร้างชาติเหมือนสร้างเจดีย์โดยเริ่มจากฐานเจดีย์ไปยังยอดเจดีย์ เมื่อฐานแข็งแร็งยอดก็แข็งแรง
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
04/08/53