ไซเบอร์วนาราม.เน็ต

เว็บไซต์เพื่อพระพุทธศาสนา อารามหนึ่งบนโลกไซเบอร์

laithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithailaithai

               หลายปีมาแล้วที่เคยไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนั้นกล้องถ่ายภาพยังใช้ฟิล์ม แต่ข้อมูลภาพที่อยู่ในฟิล์มถ่ายภาพไม่ได้เก็บรักษาไว้ ข้อมูลที่มีจึงเป็นเพียงความทรงจำบางครั้งขาดๆหายๆไม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันโลกปฏิเสธไม่ได้ว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจมากประเทศหนึ่ง สินค้าทั้งหลายในแต่ละประเทศจะต้องมีสินค้าที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น แต่ในส่วนของศาสนาญี่ปุ่นมีศาสนาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม จนกลายเป็นวัฒนธรรมเฉพาะชนชาติที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก ญี่ปุ่นเคารพเทพเจ้าและนับถือศาสนาไปในขณะเดียวกัน
               ชาวญี่ปุ่นคงเป็นชาติที่มีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่อศาสนามากที่สุดชาติหนึ่ง มีคำกล่าวไว้ในกิจกรรมประจำปีว่า “ปีใหม่ไปไหว้เจ้า ช่วงฮิงัง ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงไปไหว้บรรพบุรุษที่วัด วันคริสต์มาสรับประทานเค้กและให้ของขวัญ” ในส่วนของประเพณีนิยมว่า “ไปนมัสการศาลเจ้าในวันพิธีฉลองครบรอบ 3,5,7 ปี จัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์ จัดพิธีศพที่วัด” เป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการนับถือศาสนา
               คำว่า “ปีใหม่ไปไหว้เจ้า” หมายถึงการไปเยือนศาลเจ้าชินโตในวันปีใหม่ เพื่อสวดอ้อนวอนขอให้ครอบครัวมีความปลอดภัยและสุขภาพพลานามัยที่ดี ศาลเจ้าที่สำคัญๆคือศาลเจ้าเมจิในโตเกียว คะวะสะขิไดชิ ในจังหวัดคะนะงะวะ,นะริตะซัง ชินโชจิ ในจังหวัดชิบะ
               คำว่า “ฮิงัง” หมายถึงการไปประกอบพิธีรำลึกในทางพระพุทธศาสนาและการไปเยือนสุสานประจำ ตระกูล ทำในช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง อีกอย่าง “ฮิงัง หรือโอะฮิงัง” การบรรลุซึ่งพุทธิปัญญาอินะริ ซึ่งเดิมคือเทพเจ้าแห่งธัญญาหารเป็นที่เคารพบูชาในฟูซิมิชานเมืองเกียวโต

               ชินโตอันเป็นศาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่นเป็นศาสนาเพื่อกราบไหว้ขอความคุ้มครองจากเทพเจ้าต่อการเพาะปลูกหรือเผ่าพันธุ์ของตน
               ศาสนาพุทธตอนกำเนิดที่อินเดียเป็นศาสนาที่นำไปสู่ความหลุดพ้น แต่เมื่อมาถึงญี่ปุ่นก็ได้กลายเป็นศาสนาสำหรับการสวดมนต์ภาวนาไป ดังนั้นสถาบันศาสนาในญี่ปุ่นจึงกลายเป็นสถาบันเพื่ออธิษฐานให้การค้า รุ่งเรือง คุ้มครองบ้าน สอบเข้าเรียนต่อได้ คลอดลูกปลอดภัย อันล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์แก่ตนเองในโลกวัตถุปัจจุบันนี้ทั้งสิ้น
               ในยุคปัจจุบัน หนุ่มสาวญี่ปุ่นให้ความสนใจมากขึ้นกับลัทธิลี้ลับหรือศาสตร์เกี่ยวกับ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ อภินิหาร เป็นผลทำให้ตั้งแต่ปีทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมาได้เกิดกลุ่มลัทธิศาสนาใหม่ๆเล็กๆน้อยๆจำนวนมากมายซึ่งกล่าวอ้าง ถึงพลังอำนาจเหนือมนุษย์หรือปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติขึ้น
               จากหนังสือกระจกส่องญี่ปุ่น หน้า 295 ได้เขียนถึงพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นไว้ว่า “ศาสนาพุทธถูกถ่ายทอดมาจากอาณาจักรปักเซ (Packche) ของเกาหลี มายังญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 538 (พ.ศ. 1081) แต่กล่าวกันว่า ก่อนหน้านั้นมีการนับถือพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว โดยผู้เดินทางมาจากภาคพื้นทวีปมายังประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 5 เป็นผู้นำเข้ามา จากการที่พระพุทธศาสนาถูกถ่ายทอดจากอินเดียผ่านประเทศจีนมายังประเทศญี่ปุ่น
               ประมาณปลายคริสศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา พระพุทธศาสนาได้รับการสนับสนุนจากพระราชวงศ์และตระกูลผู้มีอำนาจทางการ ปกครอง มีสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นมากมายในยุคนี้เช่น เจ้าชายโซโทะขุสร้างวัดโฮริวจิ(Houryuuji) วัดโคฟุคุจิ(Koufukuji) วัดโทไดจิ(Toudaiji) วัดยะคุซิจิ (Yakushiji)วัดโทโซไดจิ(Toushoudaiji) วัดเหล่านี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
               พระพุทธศาสนาคือแนวคิดอย่างมีระบบอันแรกที่ถูกนำเข้ามาสู่ประเทศญี่ปุ่น จึงส่งอิทธิพลอย่างมากมายต่อญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ในทางวัฒนธรรม อารยธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปะอุตสาหกรรมสำริด แพทยศาสตร์ ไปจนถึงเทคโนโลยีทางการเกษตร

               ในช่วงกลางสมัยเฮอันเกิดความระส่ำระสายในบ้านเมืองและสังคม เกิดจลาจลก่อการโดยซามูไรแพร่ขยายไปทั่ว นำไปสู่แนวคิดโลกแห่งอนาคต ซึ่งเป็นรากฐานที่ทำให้เกิดพระพุทธศาสนาแนวใหม่สมัยคะมะคุระ นิกายนิฉิเรน (Nichiren) นิกายโจโดะ (Joudo) นิกายโจโด ซินซู (Joudo shinshuu) และนิกายเซน (Zen) ซึ่งเป็นนิกายหลักของพระพุทธศาสนาในปัจจุบันล้วนเกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่นิกายเหล่านี้มีการปฏิบัติที่เรียบง่าย แตกต่างจากปรัชญาและแนวคิดของพระพุทธศาสนาในสมัยนะระ คือมีเพียงการท่องบทสวดมนต์สรรเสริญว่า นะมุเมียง โฮเร็นเงะเคียว (Namu myou houren gekyou) หรือ นามุ อะมิดะ บุทสึ (Namu amida butsu) และการทำสมาธิเท่านั้น จึงทำให้มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสเพิ่มขึ้นมากมาย ประกอบกับในสมัยเอะโดะมีการห้ามนับถือศาสนาคริสต์ด้วยการตั้งระบบดังกะ (Danka) ที่บังคับให้ประชาชนต้องลงทะเบียนสังกัดกับวัดใดวัดหนึ่งในท้องถิ่นของตน โดยวัดจะมีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตั้งแต่เกิดจนตาย วัดจึงกลายเป็นเสมือนกลไกหนึ่งในการควบควบคุมประชาชนของรัฐบาลในสมัยนั้น

พระพุทธเจ้าที่สำคัญในญี่ปุ่น
               1.พระ อมิตาภะพุทธเจ้า ซึ่งเปี่ยมด้วยเมตตา และทรงช่วยให้มนุษย์พ้นทุกข์ในโลกปัจจุบันด้วยการอธิษฐานพระนาม พระพุทธรูปที่สำคัญคือหลวงพ่อโตที่เมืองคะมะคุระ
               2.พระไวโรจนะ พุทธเจ้า ผู้ประทานความสว่างเพื่อให้คนเข้าถึงธรรมะ พระพุทธรูปที่สำคัญคือหลวงพ่อโตหรือไดบุทสึที่วัดโทไดจิ เมืองนะระ
               3. พระไภสัชชคุรุ เป็นพระพุทธเจ้าผู้ทรงช่วยผู้คนให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
               นอกจากนั้น ชาวญี่ปุ่นยังนับถือพระโพธสัตว์ปางต่างๆอีกเช่น
                              พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา
                              พระโพธิสัตว์มัญชุศรี พระโพธิสัตว์แห่งปัญญา
                              พระโพธิสัตว์สมันตภัทร พระโพธิสัตว์ผู้ทรงช่วยต่ออายุให้ยืนยาว
                              พระโพธิสัตว์มหาสถามปราบต์ พระโพธิสัตว์ผู้ทรงคุ้มครองผู้คนจากความหลงผิด
                              พระโพธิสัตว์กษิติครรภ พระโพธิสัตว์ผู้ทรงคุ้มครองผู้คนทั้งในนรกและสวรรค์ (รู้จักไทย เข้าใจญี่ปุ่น: หน้า 27)

ศาสนาของคนญี่ปุ่น
               ชาว ญี่ปุ่นนับถือพระพุทธศาสนานิกายมหายานควบคู่ไปกับศาสนาชินโต พระพุทธศาสนาแบ่งออกเป็นหลายนิกายนิกายที่สำคัญมี 5 นิกายดังนี้
                1.นิกายเทนได(เทียนไท้) พระไชโจ (เด็งกะโยไดชิ) เป็นผู้ตั้ง มีหลักคำสอนเป็นหลักธรรมชั้นสูง ส่งเสริมให้บูชาพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันและพระโพธิสัตว์
               2.นิกายชินงอน พระกุไกเป็นผู้ตั้งในเวลาใกล้เคียงกับนิกายเทนได มีหลักคำสอนตามนิกายตันตระสอนให้คนบรรลุโพธิญาณด้วยการสวดมนต์อ้อนวอนถือ คัมภีร์มหาไวโรจนสูตรเป็นสำคัญ
               3.นิกายโจโด(สุขาวดี) โฮเนน เป็นผู้ตั้งเมื่อ พ.ศ.1718 นิกายนี้สอนว่า สุขวดีเป็นแดนอมตสุขผู้จะไปถึงได้ด้วยออกพระนามพระอมิตาภพุทธะ นิกายนี้มีนิกายย่อยอีกมาก เช่น โจโดชิน (สุขาวดีแท้) ตั้งโดยชินแรน มีคติว่า ฮิโชฮิโชกุ ไม่มีพระไม่มีฆราวาส ทำให้พระในนิกายนี้มีภรรยาได้ฉันเนื้อได้ มีความเป็นอยู่คล้ายฆราวาส
               4.นิกายเซน (ชยานหรือฌาน) นิกายนี้ถือว่า ทุกคนมีธาตุพุทธะอยู่ในตัว ทำอย่างไรจึงจะให้ธาตุพุทธะนี้ปรากฏออกมาได้ โดยความสามารถของตัวเอง สอนให้ดำเนินชีวิตอย่างง่าย ให้เข้าถึงโพธิญาณอย่างฉับพลัน นิกายนี้คนชั้นสูง และพวกนักรบนิยมมากเป็นต้นกำเนิดของลัทธิบูชิโดนับถือพระโพธิธรรมผู้เผยแพร่ ในประเทศจีน
               5.นิกายนิชิเรน นิชิเรนเป็นผู้ตั้งนับถือสัทธรรมปุณฑริกสูตรอย่างเดียวโดยภาวนาว่า นะมึ เมียว โพเรงเงเกียว (นโม สทฺธมฺมปุณฺฑริก สุตฺตสฺส ขอนอบน้อมแด่ สัมธรรม ปุณฑริกสูตร) เมื่อเปล่งคำนี้ออกมาด้วยความรู้สึกว่ามีตัวธาตุพุทธะอยู่ในใจ ก็บรรลุโพธิได้

               หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีนักการศึกษามากมายพยายามเชื่อมประสานพระพุทธศาสนานิกายต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยจัดตั้งเป็นองค์การขึ้น องค์การสื่อสารสัมพันธ์ระหว่างชาวพุทธที่ใหญ่ที่สุด คือ พุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งญี่ปุ่น ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2500 มีสำนักงานอยู่ที่วัดชุกิจิ ฮองวันจิ ในนครโตเกียวกิจการทางพุทธศาสนาที่สำคัญและมีจุดเด่นก้าวหน้าที่สุดของ ญี่ปุ่น คือ การจัดการศึกษา ซึ่งพระพุทธศาสนานิกายต่างๆ จะมีมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียนระดับมัธยมและในด้านความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ในปัจจุบันนี้
              พระส่วนใหญ่จะมีครอบครัวได้ และตำแหน่งพระยังสืบทอดเป็นมรดกแก่บุตรคนโตได้ด้วย ประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความเร่งรีบเพราะมีการแข่งขันกันมาก ทำให้มีความเครียด และมีปัญหาด้านสุขภาพจิต เป็นโรคประสาท โรคจิต และสถิติการฆ่าตัวตายสูงมาก สิ่งที่จะช่วยบรรเทาความเครียดได้ ก็คือการปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เนื่องจากญี่ปุ่นชอบความเร็วให้ได้ผลทันใจ พระพุทธศาสนานิกายเซนจึงเป็นที่นิยม และมีการสร้างนิกายใหม่ๆ หรือลัทธิใหม่ๆ ที่ปฏิบัติได้ผลรวดเร็วอีกมาก คนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งไม่นับถือศาสนาใดเลย แต่ยึดถือลัทธิการเมืองตามความชอบใจของตน สังคมญี่ปุ่นจึงดูเหมือนกับมีศาสนาแต่นับถือศาสนาในฐานะเป็นส่วนเกื้อหนุน ต่อลัทธิทางการเมืองอย่างหนึ่ง

วิถีชีวิตนักบวชญี่ปุ่นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
               (1) กลุ่มที่รักษาพระวินัยอย่างเคร่งครัด ถือเพศพรหมจรรย์ ไม่มีภรรยา
               (2) กลุ่มที่ถือบวชแบบครอบครัว มีภรรยาเหมือนชาวบ้านทั่วไป
               โซนิน ชินรัน(ค.ศ.1173-1262) เป็นคนแรกที่เสนอว่าพระและวัดไม่สำคัญ แม้จะคงวัดไว้แต่พระมีภรรยาได้ และตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบสายกันอยู่ในตระกูล เป็นเหตุให้ต่อมานิกายอื่นๆเอาอย่าง แต่ระยะแรกๆทำกันอย่างลับๆ จนถึงสมัยเมจิ พระจักรพรรดิโปรดให้พระทุกนิกายเลิกถือพรหมจรรย์ และมีบุตรภรรยาได้อย่างเปิดเผย ชินรันมีภรรยา แต่ยังถือว่าตนเป็นบรรพชิต หากอยู่ร่วมฆราวาส

               ชินรันเสนอว่า การบริกรรมมนต์เนมบุตสุ เป็นเพียงความเชื่อในพระอมิตาภะ เป็นการแสดงออกซึ่งกตัญญูกตเวทีต่อพระอะมิตาภะ ถ้าเชื่อมั่นในพระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยนามพระองค์ก็ได้ ส่วนการเข้าสู่แดนสุขาวดีด้วยอำนาจของตนเองเป็นไปไม่ได้ ต้องพึ่งพลานุภาพของพระอมิตาภาพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะเกิดในแดนสุขาวดีได้ (ส. ศิวรักษ์ หน้า 192).
               ชินรันเป็นสาวกของโฮเน็น เป็นผู้ก่อตั้งนิกายโจโดะซินซู ได้ย้ำว่าพระพุทธองค์นั้นได้เตรียมสวรรค์ไว้ให้แก่ผู้มีใจกุศลและลงโทษผู้มี ใจอกุศล สิ่งที่จำเป็นสำหรับการที่จะได้มาซึ่งการช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ก็คือการมี ความเชื่อมั่นศรัทธา คำสอนของท่านทั้งสองเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายสำหรับชาวญี่ปุ่น จึงได้รับความศรัทธาจากประชาชนตั้งแต่นั้นมา (กระจกส่องญี่ปุ่น: หน้า 29)

ลักษณะเด่นของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
               1.ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญในรูปธรรมมากกว่านามธรรม ให้น้ำหนักวิธีการมากกว่าหลักการ เช่นการเปลี่ยนศาสนาจากหลักปรัชญามาเป็นการพูดถึงบาปบุญคุณโทษและบุญกุศลใน ชาตินี้, การนำวิธีการของลัทธิขงจื้อมาใช้ในการปกครองหัวเมืองสมัยเอะโดะมากกว่าจะยึด หลักปรัชญามาสั่งสอน หรือแม้แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นสนใจวิทยาศาสตร์ประยุกต์มากกว่าวิทยาศาสตร์ บริสุทธิ์
               2.วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมหลากหลาย ญี่ปุ่นนับถือศาสนาไปหมดทั้งพระเจ้า พระพุทธเจ้า
               3.วัฒนธรรม ญี่ปุ่นไม่ได้แตกต่างกันไปตามท้องที่ศาสนาหรือแม้แต่ปัจเจกบุคคล ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด นับถือศาสนาอะไร แต่วัฒนธรรมที่ติดตัวเขานั้นแทบจะเหมือนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ ทุกประการ เปรียบวัฒนธรรมญี่ปุ่นเหมือนขนมคินทาโร (Kintarou- ame) คือไม่ว่าจะตัดตรงไหนก็จะปรากฏภาพของคินทาโรให้เห็น
               4.เปลี่ยนวัฒนธรรมอื่นทำให้เป็นของญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นมักจะแปลวัฒนธรรมที่มาจากภายนอกให้เป็นของญี่ปุ่นเช่นดัดแปลอักษร คันจิจากจีนให้เป็นคะนะ ในส่วนของพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ญี่ปุ่นตั้งแต่คริสตวรรษที่ 6 แต่เพิ่งจะได้รับการยอมรับว่าไม่ใช่ศาสนานอกญี่ปุ่นโดยโฮเน็นและศิษย์นามว่า ชินรันในสมัยคะมะคุระ (คริสศตวรรษที่ 12-16) โฮเน็น(ค.ศ.1133-1212) ผู้ก่อตั้งนิกายโจโดะ สอนว่าการสวดมนต์ถึงพระพุทธองค์ สามารถไถ่ถอนสิ่งอกุศลได้ทั้งปวง เพียงแต่ท่องเน็มบุทสึ (นะมุ อะมิดะ บุทสึ: ข้าขอสรรเสริญและมอบความเชื่อมั่นศรัทธาแด่พระอะมิดะ) ก็เพียงพอที่จะทำให้ตนได้เข้าไปสู่ดินแดนสุขาวดี ณ เบื้องตะวันตกแห่งองค์อะมิดะ

               พระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นมีนิกายมากมาย มีผู้บันทึกไว้ว่านิกายที่แยกสาขาออกไปประมาณ 239 สาขานิกาย มีมหาวิทยาลัยทางพระพุทธศาสนาประมาณ 16 แห่ง ปลายปี พุทธศักราช 2537 (ค.ศ.1994) ญี่ปุ่นมีพุทธศาสนิกชนประมาณ 89 ล้านคน พระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมมีรากฐานอันมั่นคงในชนบท ส่วนในเมืองใหญ่ๆจะมีลัทธิใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายเช่น โซคะ กักไค สืบเชื้อสายมาจากนิกายนิจิเรน มีผู้นับถือราว 8 ล้านหลังคาเรือน, ลัทธิริชโซ โคเซไค ผู้มีนับถือประมาณ 6 ล้านคน,ลัทธิเรยูไค มีผู้นับถือราว 3 ล้านคน ศาสนาในญี่ปุ่นทุกวันนี้ จึงมีทั้งพระพุทธศาสนาแบบเก่าและนิกายใหม่ๆเกิดขึ้นและเผยแผ่เพื่อสันติภาพ ของโลกและสันติภาพภายในของปัจเจกบุคคล
               ในรายงานศาสนาประจำปี ซึ่งตีพิมพ์โดยกรมวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1995 (พ.ศ 2538) ญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 120 ล้านคน แต่มีจำนวนประชากรนับถือศาสนาอยู่ 219,830,000 คน หมายความว่าเฉลี่ยแล้วชาวญี่ปุ่นนับถือประมาณคนละ 2 ศาสนา และลัทธิความเชื่ออื่นๆอีกไปพร้อม ๆ กัน


พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
แก้ไขปรับปรุง 17/05/53


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

กองธรรมสนามหลวง

กองบาลีสนามหลวง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บัณฑิตวิทยาลัย  มมร

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ(ธ)

เว็บไชต์นักศึกษาปริญญาเอก สาขาพุทธศาสน์ศึกษา มมร

 

วัดไทย

เว็บวัดในประเทศไทย

วัดไทยในต่างประเทศ

คณะสงฆ์ธรรมยุตUSA

 วัดป่าธรรมชาติ LA

พระคุ้มครอง

วัดธรรมยุตทั่วโลก

 

ส่วนราชการในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

ส่วนราชการในประเทศไทย

กระทรวงในประเทศไทย

 

หนังสือพิมพ์ไทย

ไทยรัฐ
เดลินิวส์
มติชน
ผู้จัดการ
กรุงเทพธุรกิจ
คม ชัด ลึก
บ้านเมือง
ข่าวสด
ฐานเศรษฐกิจ
ประชาชาติธุรกิจ
สยามกีฬา
แนวหน้า
โพสต์ทูเดย์
ไทยโพสต์
สยามรัฐ
สยามธุรกิจ
บางกอกทูเดย์

 

ข่าวภาษาต่างประเทศ

ข่าว CNN

ข่าว BBC

Bangkok Post

The Nation

หนังสือพิมพภาษาต่างประเทศ

เมนูสมาชิก